ฟุตบอล มันลูกกลมๆ โดย ยอดทอง



ที่สุดตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาลนี้ก็ตัดสินกันในแมตช์สุดท้ายของซีซั่น (วันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค.) จนได้  ว่าเชลซีกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทีมใดจะได้แชมป์
                   


เชลซีพบวีแกน ในถิ่นตัวเอง ขณะที่ แมนฯ ยูฯ ก็พบสโต๊คในถิ่นตัวเองเช่นกัน
                   


ต้องชนะสถานเดียว  คือเป้าหมายของทั้งสองทีม ไม่ต้องคิดเป็นอย่างอื่น หรือคิดจะไปพึ่งฝีเท้าของทีมที่แข่งกับคู่แข่งทำนอง ..มึงชนะให้กูทีเถอะ กูจะได้สบาย
                   


เกจิฯ ลูกหนังก็วิเคราะห์กันเป็นฉากๆ ในแมตช์สุดท้ายนี้  
               


บางคนก็ใช้หลักตรรกะเอาวีแกนเป็นตัวตั้งคือ  วีแกนอยู่อันดับต่ำกว่าสโต๊ค  เชลซีจึงเล่นกับทีมที่หมูกว่า เมื่อเทียบกับแมนฯ ยูฯ ที่ต้องเจอกับสโต๊ค
                      


และอีกประเด็นก็คือ ทีมใดก็ตามที่ได้ลงเล่นกับแมนฯ ยูฯ ในนัดสุดท้ายของซีซั่น อันเป็นนัดชี้เป็นชี้ตาย ตัดสินความยิ่งใหญ่เลอเลิศของแมนฯ ยูฯ ว่า จะได้หรือไม่ได้ 
                


กับทีมรองบ่อน ที่ไม่มีอะไรจะสูญเสียแล้ว แต่ถ้าสามารถยันเสมอหรือถึงขั้นสร้างปาฏิหาริย์เอาชนะแมนฯ ยูฯ ในถิ่นได้ 
           


มันคือการ ดับฝันแมนฯ ยูฯ ที่พวกเขาสามารถคุยไปได้ทั้งชาติ จารึกเป็นประวัติศาสตร์ของตัวเองและสโมสรเลยทีเดียว  ซึ่งมันไม่มีบ่อยครั้งในชีวิตหรอก
           


นักเตะทีมรองบ่อนนั้นมักจะสู้สุดฤทธิ์พกหัวใจ 100เปอร์เซ็นต์ ยามลงสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยิ่งกว่าสนามใด  แต่แมตช์นี้มี 120 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 90 นาทีของการแข่งขันแหงๆ
            


ตรงนี้แหละคือความแตกต่างระหว่างนักเตะสโต๊คกับนักเตะวีแกนในแมตช์สุดท้ายของพวกเขาในซีซั่นนี้
             


แต่ผมกลับไม่คิดมาก เพราะ ฟุตบอลมันลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น
             


มันจะเป็น 90 นาทีแห่งความสุดเครียด ทั้งที่สแตมฟอร์ด บริดจ์และที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่แฟนบอลทั้งสองสนาม ต้องดูไปด้วยเอาหูแนบวิทยุ เพื่อฟังผลการแข่งขันอีกสนามหนึ่งไปด้วย
            


กรรมการผู้ตัดสินจะต้องมีบทบาทอย่างหนัก 
            


ลูกที่ไม่เห็นเคลียร์ชัดเจนกะจะจะ จะไม่อาจเป่านกหวีดได้เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เสียลูกโทษที่จุด  เพราะมันจะเป็นประเด็นแน่นอน
           


เมื่อสมัยเป็นเด็ก เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู ก็บอกตัวเองว่า..กูนี่แหละ ปีเตอร์ โบเน็ตติ นายทวารเสือเปรียวของเชลซี  
            


ชอบ เชลซี เพราะได้ตรา สิงโตน้ำเงินครามเชลซี (ฉายาเชยๆ นี่ ผมตั้งเองแหละ) ของแท้จากเพื่อนที่มันไปซัมเมอร์ที่ลอนดอน มาปะติดเสื้อนอกของพ่อ ทำเป็นเสื้อหนาว เดินเท่ในโรงเรียน    
            


ถามว่าเป็นแฟนแมนฯ ยูฯ หรือเปล่า?..
           


เด็กในยุคผม ใครเล่าจะไม่บูชา เทพบุตรลูกหนัง จอร์จ เบสต์ ( สมัยผมยังมีคนเรียกว่า ยอร์จ เบสต์ แต่เครื่องบิน jet ก็ยังเป็นเครื่องบินเจ็ต) , ราชาสตั้ดเหินหาว เดนิส ลอว์ ,บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ล้วนเป็นนักเตะยอดขวัญใจ   
             


ยามแก่ผมขาว เขียนเรื่องรางลูกหนัง มาอายุปูนนี้แล้ว ก็คงคืนสู่สามัญแล้วแหละครับ
            


ให้กำลังใจแฟนบอลทั้งสองทีม ไม่ว่าสีน้ำเงินครามแห่งกรุงลอนดอนหรือสีแดงแห่งแมนเชสเตอร์
           


ดีใจกับพวกที่สมหวัง และปลอบประโลมใจกับพวกที่ผิดหวัง
          


ผ่านวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค. ไปแล้ว ก็ใช่ว่าโลกจะแตกดับเสียเมื่อไหร่
       


ใครผู้ที่ไม่สัมผัสรสขมขื่นแห่งความปราชัย จะรู้ซึ้งถึงความหอมหวานในวันแห่งชัยชนะได้เล่า
       


-ยอดทอง-

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์