ผีแดงครบเครื่องทีมเบอร์ 1 โลก โรนัลโด้ระเบิดฟอร์มเท้าทองคำ



เผลอแผล่บเดียว ปีชวด หรือ"ปีหนู" กำลังจะผ่านพ้นไป ปีฉลู ตามนักษัตรไทย หรือ"ปีวัว" กำลังจะย่างก้าวเข้ามา ในขวบปีที่ผ่านพ้นไป วงการลูกหนังยุโรปยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน มากไปด้วยความเร้าใจ

และที่สุดแห่งที่สุดของปีคงต้องยกให้ "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" ปีกมหัศจรรย์ที่พา "ผีแดง"แมนฯ ยู เป็นสุดยอดทีมของโลกได้อย่างน่าทึ่ง

"ผีแดง"แมนฯ ยูผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 10 ไปครองตามคาด หลังบุกไปถล่มวีแกน แอธเลติก คาถิ่นเจเจบี สเตเดี้ยม 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้ายของซีซั่น โดยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และไรอัน กิกส์ ช่วยกันซัดคนละประตู ขณะที่ "สิงโตน้ำเงิน"เชลซี เปิดรังได้แค่เจ๊าโบลตั้น 1-1 ทำให้ "ผีแดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพฤดูกาล 2007-08 ไปครอง ด้วยการมีคะแนนนำเชลซี 2 แต้ม ส่วนฟูแล่ม รอดตกชั้นหลังบุกไปอัดปอร์ตสมัธ 1-0 ทำให้เบอร์มิงแฮม และเรดดิ้ง
กลายเป็น 2 ทีมสุดท้ายที่หล่นไปเล่นเดอะแชมเปี้ยนชิพ ในขณะที่โรนัลโด้ มีผลงานทำทั้งหมด 42 ประตูจากทุกถ้วย

ขณะที่ถ้วยใหญ่ของยุโรป ศึกลูกหนังยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2007-2008 รอบชิงชนะเลิศ ในคืนวันที่ 21 พฤษภาคม เวลา 01.45 น. ที่ลุซนิกิ สเตเดี้ยม กรุงมอสโก เป็นการโคจรมาพบกันของทีมแชมป์พรีเมียร์ชิพและรองแชมป์พรีเมียร์ชิพ ระหว่าง "ผีแดง"แมนฯ ยู กับ "สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี ซึ่งถือเป็นสงครามยกสุดท้ายของทั้งคู่ในฤดูกาลนี้ หลังเพิ่งเป็นคู่ชิงชัยแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมาสดๆ ร้อนๆ ซึ่งปรากฏว่าใน 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า "ผีแดง" เกือบทำแชมป์หลุดมือ เมื่อโรนัลโด้ ซัดจุดโทษพลาด

แต่จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี ที่เป็นคนยิงประตูตัดสินแชมป์ก็ยิงพลาดแบบไม่ได้ลุ้น

"ผีแดง"กลายเป็นดับเบิ้ลแชมป์ ในขณะที่เชลซี ก็กลายเป็น"รอง"ดับเบิ้ลแชมป์

ส่วนเส้นทางการป้องกันตำ แหน่งแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกของแมนฯ ยู จากผลการประกบคู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.
ปรากฏว่าแมนฯ ยูต้องเจอกับ "งูใหญ่" อินเตอร์ จ่า ฝูงกัลโช่ ซีรีส์ เอ ที่คุมทัพโดย"สเปเชี่ยลวัน"โฮเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือเชลซี นั่นเอง

ความสำเร็จของแมนฯ ยู กับดับเบิ้ลแชมป์ในปีนี้ ไม่มีใครปฏิเสธ โรนัลโด้ เป็นผู้อยู่เบื้องหน้าความสำเร็จทั้งหลายทั้งมวลของเหล่าขุนพลเรด อาร์มี่ เป็นฤดูกาลที่ปีกโปรตุกีสเล่นได้สุดยอดที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟ ฟอร์ด



ไม่แปลกเลยที่รางวัล "บัลลงดอร์" อันทรงเกียรติที่จัดโดยนิตย สารฟรองซ์ ฟุตบอล จะตกเป็นของปีกหมายเลข 7 ของ "ผีแดง" ผู้นี้

โรนัลโด้ เป็นนักเตะแมนฯ ยูคนแรก ที่ได้บัลลงดอร์นับตั้งแต่ จอร์จ เบสต์ ทำไว้เมื่อปี 1968 และเป็นคนแรกของโปรตุเกสนับตั้งแต่ หลุยส์ ฟิโก้ สร้างชื่อไว้เมื่อปี 2000

ไม่เพียงแต่ครองเจ้ายุโรปเท่านั้น เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา "ผีแดง"เจ้าของตำแหน่งแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกฤดูกาลล่าสุด สามารถซิวแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก ปิดท้ายความยิ่งใหญ่ของปีหนูทอง หลังเฉือนชนะกีโต้ ทีมจากเอกวาดอร์ ที่เป็นแชมป์อเมริกาใต้ ส่งให้ยอดทีมจากเกาะอังกฤษก้าวขึ้นเป็นสุดยอดทีมของโลกในที่สุด

แต่สำหรับพรีเมียร์ชิพฤดูกาลใหม่ 2008-09 จะออกสตาร์ตได้แค่ครึ่งทาง เจ้าของตำแหน่งแชมป์อย่าง "ผีแดง" จะออกสตาร์ตฤดูกาลได้ไม่สวยงามนัก แต่จากการที่ลิเวอร์พูล-เชลซีทำแต้มตกหล่นไปหลายนัดในช่วงเดือนสุดท้ายของปี โอกาสที่ "ผีแดง" จะแซงเข้าป้ายก็เปิดโล่งอยู่


บันทึกน่ารู้คริสเตียโน่ โรนัลโด้

-เกิด เมื่อ 5 ก.พ. 1985 ที่หมู่เกาะมาเดร่า โปรตุเกส

-ปี 2002 ลงเล่นให้สปอร์ติ้ง ลิส บอน เป็นนัดแรก ในขณะมีอายุได้ 17 ปี

-ปี 2003 เดือน ส.ค. ทำประตูให้สปอร์ติ้ง ในนัดกระชับมิตรกับแมนฯ ยู ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีม "ผีแดง" ด้วยค่าตัว 12.42 ล้านปอนด์ และได้สวมเสื้อหมายเลข 7 ของเดวิด เบ๊กแฮม ที่ย้ายไปเล่นรีล มาดริด และนัดแรกลงเป็นตัวสำรองในเกมที่ถล่มโบลตั้น 4-0 ถึงเดือนพ.ย.ปีเดียวกัน ทำประตูแรกให้ "ผีแดง" ในเกมถล่มปอร์ตสมัธ 3-0

-ปี 2004 เดือนมิ.ย. ได้รับโหวตคะแนนเสียงให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของแมนฯ ยู

-ปี 2005 เดือนก.ย. ลงเล่นให้โปรตุเกสในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก พบ รัสเซีย หลังจากพ่อเสียชีวิตไม่นาน

-ปี 2006 ในเดือนม.ค. โดนแบนจากยูฟ่า 1 นัด ด้วยการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมกับแฟนบอลเบนฟิก้าในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลต์ และในเดือนก.ค.ปีเดียวกัน โวยวายกับผู้ตัดสินหลังจาก เวย์น รูนีย์ เข้าทำฟาวล์ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ในฟุตบอลโลก 2006 รอบก่อนรองชนะเลิศ และทำให้รูนีย์โดนไล่ออก และโรนัลโด้ทำประตูให้โปรตุเกสดวลจุดโทษเอาชนะทีม "สิงโตคำราม" ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ และหลังจากฟุตบอลโลก 2006 จบลง มีข่าวว่าโรนัลโด้ อาจตัดสินใจย้ายไปเล่นให้รีล มาดริด



-ปี 2007 โรนัลโด้ ตกลงเซ็นสัญญา 5 ปีกับ "ผีแดง" และถึงเดือนเม.ย. ได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีและดาวรุ่งแห่งปีโดยสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ และกลายเป็นคนแรกที่คว้า 2 รางวัลในปีเดียวกัน หลังจากแอนดี้ กองหน้าสกอต เคยทำได้ในปี 1977 และในเดือนพ.ค. ได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษ จากการคัดเลือกสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษ ในขณะที่แมนฯ ยู ก็เป็นแชมป์พรีเมียร์ชิพ

-ปี 2008 19 มี.ค. เหมาทำ 2 ประตู ในเกมที่ชนะโบลตั้น 2-0 และทำให้ยิงในลีกได้ทั้งหมด 33 ประตู เป็นผู้เล่นที่ทำประตูให้แมนฯ ยูมากที่สุดเทียบเท่ากับสถิติของ "เทพบุตรลูกหนัง"จอร์จ เบสต์ และทำให้ได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ถึงพ.ค. ก็ได้โอกาสช่วยให้ "ผีแดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพอีกสมัย และตามมาด้วยการพา "ผีแดง" ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก จบผลงานในฤดูกาล 2007-2008 ด้วยการทำทั้งหมด 42 ประตู ถึงเดือนส.ค. โรนัลโด้ออกมาประกาศว่าจะอยู่กับแมนฯ ยูต่อไป และในเกมที่พบกับสโต๊ก
เมื่อ 15 พ.ย. สามารถทำประตูที่ 100 ในสีเสื้อ "ผีแดง" และนิตยสารฟรองซ์ ฟุตบอล ประกาศให้โรนัลโด้ คว้ารางวัล "บัลลงดอร์" หรือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปเมื่อ 2 ธ.ค.


จับตา 3 ลีกยุโรป-สมบัติผลัดกันชม

สถานการณ์ในกัลโช่ ซีรีส์ เอ ลีกที่ขึ้นชื่อว่าหินที่สุด ในฤดูกาล 2007-2008 "งูใหญ่"อินเตอร์ มิลาน คว้าสคูเด็ดโต้ มาครองเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ทว่าก็ยังไม่เป็นที่สบอารมณ์ มัสซิโม่ โมรัตติ ประธานสโมสรอินเตอร์ฯ สั่งเด้งมันชินี่ ในเวลาต่อมา และแต่งตั้ง "เฮียมู"โฮเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือเชลซีมากุมบังเหียนแทน และทำผลงานเป็นจ่าฝูงในขณะนี้ แต่เป้าหมายของอินเตอร์ในฤดูกาลใหม่ที่ผ่านพ้นไปได้ครึ่งทางแล้วนั้นต้อง "แชมป์" สถานเดียวเท่านั้น

ในขณะที่ "ปีศาจแดงดำ"เอซี มิลาน อดีตแชมป์กัลโช่ ซีรีส์ เอ 17 สมัย ผลงานตกต่ำอย่างน่าใจหาย ได้อันดับ 5 อดไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปชนิดที่ไม่มีหลายฝ่ายคาดคิด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่สำหรับฤดูกาลนี้มิลานได้ โรนัลดินโญ่, อังเดร เชฟเชนโก้ และมาติเยอ ฟลามินี่ มาเสริมทีม ทำให้ผลงานอยู่อันดับ 3 ของตารางมีลุ้นสคูเด็ดโต้เหมือนกัน น่าจะลุ้นเข้าป้ายกันจนหยดสุดท้าย

ด้านลีกเมืองเบียร์ บุนเดส ลีกา "เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิก ฉลองการชูถาดแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2007-08 สมัยที่ 21 ด้วยการเปิดบ้านถล่ม "หญิงชรา"แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 4-1 ในนัดสุดท้าย แต่ในฤดูกาล 2008-2009 ที่ผ่านพ้นครึ่งทางไปแล้ว "แชมป์เก่า"ออกสตาร์ตฤดูกาลได้ไม่สวยนัก อยู่ช่วงกลางตาราง จน"ฉลามขาว"เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ ที่เข้ามาจับงานท้าทายถูกกดดันอย่างหนัก แต่ลูกทีมของ"คลิ้นซี่"ทั้งลูก้า โทนี่ และมิโรสลาฟ โคลเซ่ ก็เร่งฝีเท้าอย่างหนัก จนมีคะแนนเท่ากับฮอฟ เฟ่นไฮม์ 35 แต้ม แต่ได้แค่รองแชมป์ครึ่งฤดูกาล เนื่องจากประตูได้เสียเป็นรองฮอฟเฟ่นไฮม์

ทีมที่สร้างสีสันได้มากที่สุดในครึ่งแรกของฤดูกาล 2008-2009 ต้องยกให้ "น้องใหม่"ฮอฟเฟ่นไฮม์ ของ ราล์ฟ รังนิก ผลงานเข้าตาดีแท้ เพราะเป็นทีมม้ามืดที่ฟอร์มแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นทีมน้องใหม่ทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ครึ่งฤดูกาลแรกได้สำเร็จ คงต้องจับตาดูว่าม้ามืดอย่างฮอฟเฟ่น ไฮม์ จะยืนระยะได้นานเท่าไหร่ และ"เสือใต้"ที่เก๋ากว่าจะเบียดเข้าวินได้หรือไม่???

ด้านลา ลีกา ยิ่งมายิ่งเข้ม "ราชันชุดขาว"รีล มาดริด เจอความผกผันมากมาย ภายใต้การคุมทีมของ แบรนด์ ชูสเตอร์ ซิวแชมป์ลา ลีกา สเปน ฤดูกาล 2007-08 มาครองได้อย่างน่าทึ่ง ขณะที่ "เจ้าบุญทุ่ม"บาร์เซโลน่า ของ แฟรงก์ ไรจ์การ์ด ได้แค่อันดับ 3 ต้องไปเล่นรอบคัดเลือกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และอดีตกองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ก็พ้นจากตำแหน่งในเวลาต่อมา เพราะช่วงท้ายฤดูกาล โดน"เรือดำน้ำสีเหลือง"บียาร์รีล ที่ฟอร์มแรง เบียดเข้าที่สองอย่างสนุก

แต่ฤดูกาล 2008-2009 เหมือน หนังคนละม้วนแชมป์เก่าอย่าง รีล มาดริด ที่ขาย โรบินโญ่ กองหน้าบราซิเลียน ไปให้แมนฯซิตี้ ฟอร์มกระท่อนกระแท่นเหลือเกินจนชูสเตอร์ ต้องโดนขับออกจากตำแหน่ง ขณะที่บาร์ซ่า ที่ได้ โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีม ฟอร์มแรงเหลือเกิน ไม่มีแผ่ว นำโด่งเป็นจ่าฝูงลา ลีกา สเปน มีโอกาสเข้าป้ายแชมป์แบบม้วนเดียวจบ

เข้ากับประโยคที่ว่าฟุตบอลลูกกลมๆ ไม่มีอะไรแน่นอน ได้ดีที่สุด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์