ผีเล่นดีกว่า แต่แพ้เพราะ...???//โดย..บอ.บู๋





เขียนเป็น: จ๋อยแด่วไปเลยสิ...แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ เชลซี ทั้งๆ ที่เล่นได้ดีกว่าซะอย่างนั้น (อิอิอิ) อยากทราบว่าเพราะอะไรทีมที่เล่นดีกว่าถึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ซะล่ะคะ?


น้องฮามอย หอยทะเลเผา

ส่งไม่ตาย: ไม่จ๋อยครับ...แต่รู้สึกจ้วงจึกจนนึกอยากจะเอาร่างทาบกำแพงแล้ว จึ๊ก-จึ๊ก-จึ๊ก-จึ๊ก-จึ๊ก ด้วยความเร็วระดับซอยยิกไม่หยุดยั้ง!

นอกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ดีเกินคาด ยังโชว์ฟอร์มไฉไลกว่าเจ้าบ้านอย่าง เชลซี แบบเป็นเอกฉันท์ กรุณาอย่าเถียง

ก่อนแข่ง คาร์โล อันเชล็อตติ หรือที่สื่อมวลชนไทยเรียกแกสั้นๆ ว่า พี่แจ้ ผู้จัดการทีมสิงห์บลูส์บอกว่าปีศาจแดงมีจุดอ่อนตรงแดนกลาง เวลาถูกรุมบีบพื้นที่และกดดันหนักๆ มักจะไปกันไม่เป็น เพราะนอกจากจะเล่นช้า (พอล สโคลส์ กับ ไมเคิ่ล คาร์ริค) ความจัดจ้านเฉพาะตัวยังต่ำ บ่อยครั้งอาศัยทีมเวิร์คมากเกินไปจนไม่สามารถพลิกแพลงสถานการณ์ด้วยตัวเอง

ผมเห็นด้วยเต็มตีน!

ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นเด่นชัดคือการพ่าย ลิเวอร์พูล ในศึกแดงเดือดนั่นแหละ

แต่ถ้ากุนซือของทีมอื่นเล็งเห็นจุดบกพร่อง มีหรือที่บรมผู้จัดการทีมระดับป๋าจะมองไม่เห็น

ว่าแล้วกุนซือที่คนอื่นเรียก ท่านเซอร์ แต่ผมเรียก ป๋า จึงเอาความปราชัยในศึกแดงเดือดมาเป็นบทเรียนในการเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่างชะงัดดีนักแล ด้วยปรับหมากเตะจาก 4-4-2 เป็น 4-3-3 (หรือ 4-5-1) โดยอัดมิดฟิลด์ตัวกลาง 3 ตัว โดยเฉพาะ อันแดร์สัน กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่มีความ กระเหี้ยน เกินพิกัดเก็บลงไปบดบี้ทำลายเกมของคู่แข่งแบบถึงใจพระเดชพระคุณ เพียงแต่จำต้องแลกด้วยตัดกองหน้าออกไปหนึ่งตัว

ผลปรากฏว่ามิดฟิลด์ของปีศาจแดงควบคุมพื้นที่ในแดนกลางได้สำเร็จ แถมอหังการถึงขนาดทำให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค และเดโก้ ไม่มีบทบาทอะไรมากมาย

เท่านั้นไม่พอคู่ปราการหลังตัวกลางที่หลายคนเป็นห่วงว่าอาจจะนำมาซึ่งความฉิบหายอย่าง เวส บราวน์ กับ จอนนี่ อีแวนส์ ไม่แสดงออกถึงความเฟอะฟะหรือผิดพลาดอะไรเลย

ปัญหาก็คือการมีกองหน้าเพียงแค่ตัวเดียวนี่แหละ เราจึงเห็นคุณพ่อของ ไอ้ไข่ วิ่งพล่านเป็นหมูติดจั่นในตำแหน่งหัวหอกเพียงลำพัง

ผู้ชมทางบ้าน (และในสนาม) จะสังเกตได้ว่ามิดฟิลด์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ครอบครองบอลและบุกรุกได้มากกว่าก็จริง แต่ไม่มี ทีเด็ด รวมถึงนวลนาง, ไทยเพลย์บอย และเพ็ญพักตร์ในการทะลวงรูตูดคู่แข่ง เพราะความเก๋าของ ไรอัน กิ๊กส์ ใช้ไม่ได้ในทุกเกม อันโต วาเลนเซีย ก็มีแต่ความเร็ว แต่ขาดความแน่นอน อันแดร์สัน มีปัญหาในการทำประตูเช่นเดียวกับตัวขับเคลื่อนอย่าง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ส่วนตัวบงการเกมอย่าง ไมเคิ่ล คาร์ริค ก็เทียบไม่ได้กับจอมทัพของทีมอื่นๆ เช่น สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือ เชส ฟราเบกัส คือเรียบง่ายเกินไปหน่อย

ลำพังแค่ เวย์น รูนี่ย์ คนเดียว ต้องเผชิญหน้ากับ จอห์น เทอร์รี่ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ หนำซ้ำยังมีโคตรนายทวารอย่าง ปีเตอร์ เช็ค เป็นด่านสุดท้าย

บอกได้คำเดียวครับว่า รากแตก

ดังนั้นเหตุผลที่บอกว่าทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงเอาชัยชนะไปโยนทิ้งลงโถส้วมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทั้งที่ครองเกมมากกว่า บุกมากกว่า และมีโอกาสกระทุ้งประตูมากกว่า คือ พวกเขาไม่มีตัวผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพมากพอเพื่อแปรรูปการบุกหนักให้เป็น ประตู เหมือนตอนที่ยังมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในทีม

พูดง่ายๆ ว่าศักยภาพผู้เล่นโดยรวมที่มีอยู่ตอนนี้หวังพึ่งอะไรไม่ได้ในเกมขนาดใหญ่แบบนี้

วิธีแก้ คือ กรุณาใช้กำไรที่ได้มาจากค่าตัวของไอ้เจ็ตโด้ไปซื้อผู้เล่นระดับดาวดังมาร่วมทีมในช่วงตลาดลูกหนังเปิดเสียทีเถิดครับ

ส่วนอีกปัจจัยที่ลักพาชัยชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปหั่นเป็นชิ้นๆ คือ ผู้ตัดสิน (อีกแล้ว) ซึ่งผมขอไม่วิพากษ์-วิจารณ์อะไรมาก เพราะการแพ้แล้วโยนความผิดให้ผู้ตัดสินมัน...ทุเรศ!

ผู้ตัดสินเกมนี้ชื่อ มาร์ติน แอตกินสัน ซึ่งเป็นคนๆ เดียวกับที่ทดเวลาเจ็บกว่า 6 นาทีในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์นั่นแหละ

ครึ่งแรกมีจังหวะหนึ่งที่ เวย์น รูนี่ย์ หลุดเดี่ยว แต่คุณพี่ผู้กำกับเส้นดันยกธงล้ำหน้า ทั้งที่ดูจากภาพช้าจะเห็นว่ามี แอชลี่ย์ โคล ยืนห้อยอยู่ต่ำกว่าคุณพ่อของน้องไข่เสียอีก

ไม่เป็นไรครับ ของอย่างนี้พลาดกันได้

จังหวะต่อมา จอห์น เทอร์รี่ กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ประสานงากันเองจนเสียหลักล้มคว่ำ แมนฯ ยูไนเต็ด ฉวยโอกาสบุกอย่างฉับพลันโดยไม่จำเป็นต้องเกรงจะถูกกล่าวหาว่า หน้าด้าน เพราะตอนก่อนเปิดฤดูกาล เชลซี เคยฉวยโอกาสที่ ปาทริซ เอวร่า บาดเจ็บ แถมผู้เล่นปีศาจแดงหยุดเล่นเพื่อทำประตูในคอมมิวนิตี้ชิลด์มาแล้ว

ทว่าผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมดื้อๆ เพราะกลัว เชลซี จะเสียประตู เอ๊ย! เพราะกลัวผู้เล่นสิงห์บลูส์จะเดธห่าคาสนาม!! (ก่อนลุกขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น)

ไม่เป็นไรครับ ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ตัดสิน

แล้วก็มาถึงจังหวะที่ เชลซี ได้ประตูชัย

อันดับแรกผมเห็นด้วยกับป๋าที่บอกว่า ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ไม่ได้ทำฟาวล์ แอชลี่ย์ โคล หมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรเสียฟรีคิก

อันดับต่อมา ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ใช้มือผลัก เวส บราวน์ จนหัวทิ่ม ก่อนที่ จอห์น เทอร์รี่ จะโขกประตูให้ เชลซี ซึ่งผู้ตัดสินและผู้ช่วยฯ คงมองไม่เห็น

แถมในช่วงทดเจ็บ เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อถ่วงเวลาโดยใช้เวลาไปเกือบ 1 นาที แต่ไม่มีการทดเวลาเพิ่มเติม

สรุป แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นดีกว่าและสมควรเป็นผู้ชนะมากกว่าครับ เพียงแต่ดันกะซวกประตูคู่แข่งไม่ได้เอง ที่สำคัญดูเหมือนว่า เขา ไม่ค่อยอยากจะให้ปีศาจแดงชนะสักเท่าไหร่

สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่ผลิตโดย เปาหนอม ยัดเข้าไปทางรูทวารหนักแล้วเข้าไปรีโมตในห้องน้ำเพื่อให้ระเบิดทำงานอย่างเหี้ยมโหดทารุณ

แต่ปัจจุบันการวิพากษ์-วิจารณ์ผู้ตัดสินเป็นสิ่งที่พึง ระมัดระวังอย่างจงหนัก เราไม่ควรไปตำหนิตีเตียนหรือกดดันอะไรให้มากมาย เพราะ เขา อาจเป็นอดีตทหารผู้เชี่ยวชาญในการวางระเบิดโดยที่เราไม่รู้ก็ได้...จะ อึ๋ยยยย!!!

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์