ผีเข้าชิง! สโคลส์ซัดไกลเฉือนบาร์ซ่าหวิว

แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 บาร์เซโลน่า (แมนฯ ยูไนเต็ดเข้ารอบด้วยผลรวม 2 นัด 1-0)

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู : 1-0 พอล สโคลส์ น.14

 
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาพบกับ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่าอีกครั้งในโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังเสมอในเกมแรกที่คัมป์ นูมา 0-0 โดยใครชนะในเกมนี้ก็จะคว้าตั๋วชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไปครอง
 
แต่เกมนี้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเจอข่าวร้ายเมื่อเวย์น รูนี่ย์ และเนมันย่า วิดิช สองตัวหลักมีอาการบาดเจ็บไม่สามารถลงสนามได้ ส่วนทางบาร์เซโลน่าได้กัปตันทีมการ์เลส ปูโยลพ้นโทษแบนกลับมาอีกครั้ง
 
เริ่มเกมมาแค่นาทีแรกบาร์ซ่าก็ทำเอาแฟนบอลเจ้าบ้านเสียวทั้งสนามทันที เมื่อเมสซี่ โชว์ความเร็วกระชากบอลผ่านสโคลส์ไปก่อนโดนดักล้มแถวเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกฟรีคิกตรงมุมกรอบเขตโทษพอดี ซึ่งเมสซี่ก็ปั่นไปติดกำแพง เป็นการเสียของไปเปล่าๆ
 
หลังจากนั้นบาร์ซ่าก็เปิดฉากถล่มใส่แบบไม่รู้เลยว่าใครเล่นเป็นเจ้าบ้าน เพียงแต่ผ่านมาถึงนาทีที่ 14 ความผิดพลาดของนักเตะจากคาตาลันเองก็ทำให้ทีมต้องเสียประตูไปก่อน
 
เป็นจังหวะที่เริ่มจากการพยายามเข้าไปสกัดบอลจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ของซามบร็อตต้า แต่แบ็กอิตาเลียนดันเสียดายบอลสะกิดเข้ากลางมา ปรากฎว่าเป็นพอล สโคลส์ที่เก็บบอลได้ก่อนแต่งบอลแล้วซัดด้วยขวาเต็มๆลูกพุ่งเสียบสามเหลี่ยมชนิดที่บิคตอร์ บัลเดส พุ่งยังไงก็ไม่ทัน แมนฯ ยูไนเต็ดได้ประตูที่ต้องการนำไปก่อน 1-0
 
เสียประตูแบบนี้ก็ทำเอาบาร์ซ่าที่กำลังเดินเกมลื่นๆสะดุดไป แต่ก็ยังมีเสียวจากจังหวะโซโล่เดี่ยวของเมสซี่ที่ลากตัดจากริมเส้นเข้ามากลางก่อนปั่นแถวหน้ากรอบเขตโทษแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังบินไปเซฟได้
 
แต่หลังจากนั้นบาร์ซ่าก็ต้องกระเสือกกระสนเอาตัวรอดในหลายๆจังหวะทั้งที่แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็ตเกมมาได้ดีเองอย่างลูกยิงของพาร์ค ที่เฉี่ยวเสาไป และจังหวะที่กองหลังทำพลาดกันเองอย่างลูกที่ปูโยลต้องโขกสกัดออกไปแบบหวุดหวิด
 
ทว่าในช่วง 15 นาทีสุดท้ายบาร์ซ่าก็กลับมาเป็นฝ่ายครองเกมได้อีกครั้ง และเดโก้ก็เกือบจะช่วยตีเสมอให้ทีมได้เพียงแต่โอกาสยิงทั้ง 2 ครั้งติดๆกันก็ได้แค่ใกล้เคียง ขณะที่นานี่ มีโอกาสโฉบโหม่งลูกโยนของพาร์คเฉี่ยวเสาออกไปไม่ไกล ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยการนำของเจ้าบ้านในรูปเกมที่สุดมัน 1-0
 
ครึ่งหลังบาร์ซ่ายังดูตั้งใจบุกเหมือนเดิม แต่ที่ต่างออกไปคือแมนฯ ยูไนเต็ดเจ้าบ้านที่ดูเน้นมากขึ้นในจังหวะสวนกลับและได้ลุ้นมากกว่าเห็นๆในหลายจังหวะ เรียกว่าปีศาจแดงขึ้นเกมรุกมาครั้งไหนบาร์ซ่าก็กระอักกระอ่วนไปเสียทุกครั้ง
 
เกมดำเนินไปในลักษณะนี้เกือบตลอดครึ่งหลัง โดยต่างฝ่ายก็ต่างเปิดเกมเข้าใส่กันเนื่องจากบาร์ซ่าเองก็ต้องการประตูตีเสมอเพื่อเข้ารอบ ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ดก็ไม่ประมาทหวังได้อีกประตูเพื่อการันตีตั๋วนัดชิง
 
ทางด้านทีมเยือนมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นโดยส่งเธียร์รี่ อองรีและโบยาน เกร์กิช ลงมาและก็เกือบจะได้ประตูเหมือนกันในจังหวะของอองรี 2 ครั้งที่ได้โขกเหน่งๆแต่ก็ไปตรงตัวฟาน เดอร์ ซาร์ ก่อนจะได้ยิงที่มุมเขตโทษก็หลุดกรอบไปอีก
 
ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายบาร์ซ่าไม่มีอะไรจะเสียดันเกมโถมขึ้นจนสุดตัว แต่ก็ไม่สามารถเจาะผ่านแนวรับของแมนฯ ยูไนเต็ดที่ลงไปแพ็กกันจนแน่นบริเวณพื้นที่สุดท้าย ทำให้จบเกมปีศาจแดงจึงเป็นฝ่ายเฉือนชนะไปในเกมนี้ ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศที่มอสโกสำเร็จอีกครั้ง หลังจากที่ได้แชมป์ครั้งสุดท้ายเมื่อ 9 ปีก่อน


 
รายชื่อผู้เล่น
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เวส บราวน์, ปาทริซ เอวร่า (มิกาแอล ซิลแวสตร์ น.90) , นานี่ (ไรอัน กิ๊กส์ น.77) , ไมเคิล คาร์ริค, พอล สโคลส์ (ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ น.77) , พาร์ค ชี ซอง, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเวซ


บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส, จานลูก้า ซัมบร็อตต้า, กาเบรียล มิลิโต้, การ์เลส ปูโยล, เอริค อบิดาล, ยายา ตูเร่ (ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น น.88) , ชาบี้ เอร์นานเดซ, เดโก้, ลิโอเนล เมสซี่, ซามูแอล เอโต้ (โบยาน เกร์กิช น.72) , อันเดรียส อินิเอสต้า (เธียร์รี่ อองรี น.61)


ผู้ตัดสิน : แฮร์เบิร์ต ฟานเดล (เยอรมัน)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์