ผีหักดาบ-เชลซีอัดสาลิกา-หงส์ต้อนตือปอมปีย์

ผีหักดาบ-เชลซีอัดสาลิกา-หงส์ต้อนตือปอมปีย์

โอเชีย บังสเมอร์ติน ซะมิด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2548 00:01 น.

ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปกระซวก ดาบอัศวิน ชาร์ลตัน 3-1 ด้านจ่าฝูง เชลซี เปิดบ้านพิชิต สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปได้ 3-0 ส่วน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ฟอร์มหรูเปิดรังต้อนตือ ปอร์ทสมัธ 3-0 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
ชาร์ลตัน แอธเลติก 1-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อลัน เคอร์บิชลี่ย์ กุนซือชาร์ลตัน มีการปรับเปลี่ยนแผงกองหลังเล็กน้อยหลังจากฟอร์มตกลงไปในช่วง 2 นัดหลังสุดโดยดร็อป คริส เพอร์รี่ กัปตันทีมพร้อมกับขยับ เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน เข้ามายืนตัวกลางและก็ส่ง คริส พาวเวลล์ แบ็กตัวเก๋าลงยืนเป็นแบ็กซ้ายแทน ส่วนทีเด็ดในกองหน้าต้องพึ่งพาบริการของ ดาร์เรน เบนท์

ด้านแมนฯ ยูไนเต็ด มีข่าวกระชากขวัญแฟนๆ เมื่อ รอย คีน กัปตันทีมตัดสินใจเลิกสัญญากับสโมสร อย่างไรก็ตาม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ยังวางหมากดังเดิมดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเพิ่งต่อสัญญาไปถึงปี 2010 มาเล่นปีกซ้าย โดยคู่หน้ายังเป็นงานของ รุด ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์

เริ่มเกมการแข่งขันแมนฯ ยูไนเต็ด เปิดฉากบุกใส่ทันทีนาทีที่ 8 ได้ลุ้นแบบจะจะเป็นครั้งแรกเมื่อรูนี่ย์ ช้อนบอลให้ฟาน นิสเตลรอย หลุดเข้าไปแตะหลบแอนเดอร์สัน ก่อนจะยิงมุมแคบแต่โดนไฮดาร์สสัน ซึ่งตามคุมสถานการณ์มาตลอดเคลียร์ทิ้งที่เสาพอดิบพอดี

ทีมเยือนยังทำเกมบุกได้อย่างต่อเนื่องบราวน์ เติมขึ้นมาทางกราบขวาผ่านบอลเข้าเขตโทษให้รูนี่ย์ ตวัดยิงด้วยขวาแต่บอลเชิดคานออกไป ผ่าน 20 นาทีแรก เจ้าถิ่นเพิ่งจะมีโอกาสลุ้นเป็นครั้งแรกจากจังหวะที่ เมอร์ฟี่ย์ หยอดบอลไปข้างหน้าให้เบนท์ วิ่งเข้าไปสับจากนอกกรอบแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับฟาน เดอร์ ซาร์

เกมเริ่มกลับมาสูสีกันหลังจากแมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มจะเร่งเกมทำให้จ่ายบอลพลาดกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ชาร์ลตันเมื่อได้จังหวะทำเกมบุกก็โดนตัดเกมจากแผงหลังทีมเยือน มาถึงนาทีที่ 34 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสได้ประตูไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ เบนท์ ได้ส้มหล่นจากฟรีคิกแฉลบในเขตโทษแต่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษชุดเล็กกลับแปบอลโล่งๆ คนเดียวหลุดกรอบไป

อีก 3 นาทีถัดมาแฟนๆ ผีแดงได้เฮกันก่อนจากจังหวะที่ รูนี่ย์ เปิดบอลจากกราบซ้ายไปหน้าประตู เฟล็ทเชอร์ เสียหลักแต่ยังคิดไวจ่ายบอลให้สมิธ วิ่งเข้ามาหวดเต็มๆ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงามให้แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 และพอโดนประตูนำไปทางชาร์ลตัน เริ่มเปิดหน้าบุกบ้างทำให้ทีมเยือนได้โอกาสสวนกลับหลายครั้ง ฟาน นิสเตลรอย ได้ง้างเท้ายิงแต่แอนเดอร์สัน ปัดบอลพ้นอันตรายไปได้ และก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

โรนัลโด้ กระโดดข้ามตัว ยัง

เข้าสู่ครึ่งหลัง ชาร์ลตัน ปรับเปลี่ยนแท็คติกมาเดินหน้าบุกเพื่อทวงประตูคืนทันทีและก็ได้ลุ้นเร็วทีเดียวเมื่อกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด สกัดบอลไม่ขาดทำให้รอมเมดาห์ล ได้จังหวะยิงสวนเข้าไปยังดีที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดพ้นคานไปได้

ผ่านหนึ่งชั่วโมง เคอร์บิชลี่ย์ เห็นว่าทีมของตนยังเติมเกมรุกไม่เฉียบขาดจึงปรับทัพส่ง เจอโรม โธมัส ลงมาเล่นแทน รอมเมดาห์ล และอีก 5 นาทีให้หลังแฟนๆ ดาบอัศวินได้เฮกันลั่นสนามเมื่อ อัมโบรส ทำชิ่งหนึ่งสองกับเบนท์ ก่อนที่จะปั่นด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงามสกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1

อย่างไรก็ตาม มาถึงนาทีที่ 70 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พลิกกลับขึ้นมานำ 2-1 อีกครั้งหลังเปิดเกมรุกอีกครั้ง รูนี่ย์ ลากตะลุยจากครึ่งสนามก่อนผ่านบอลให้ ฟาน นิสเตลรอย พักอกก่อนพลิกหลบพาวเวลล์ วอลเล่ย์ด้วยขวาบอลตุงตาข่ายอย่างสวยงาม

15 นาทีสุดท้าย เคอร์บิชลี่ย์ จัดแจงปรับแผนเป็นหน้าสองตัวเพิ่ม เจย์ โบธรอยด์ ลงไปยืนหน้าคู่กับเบนท์ และก็ถอดคิชิเชฟ ซึ่งเล่นเป็นตัวตัดเกมออกจากสนามไป เข้าสู่ช่วงท้าย ชาร์ลตัน ดาหน้าบุกใส่เป็นการใหญ่และก็ได้ลุ้นเมื่อ อัมโบรส ได้โอกาสโฉบโหม่งตัดหน้าเฟอร์ดินานด์ แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังรับเข้าซองไว้ได้

เมื่อบุกไปบุกมาไม่ได้ประตู แมนฯ ยูไนเต็ด เลยฉวยโอกาสนำห่างเป็น 3-1 ก่อนจบเกมการแข่งขัน 5 นาที เมื่อฟาน นิสเตลรอย กัปตันทีมเลี้ยงเข้าไปตะบันด้วยขวาบอลพุ่งเรียดลอดแขนแอนเดอร์สัน เข้าไป และก็คว้าชัยชนะสำเร็จในที่สุด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ชาร์ลตัน : สเตฟาน แอนเดอร์สัน , ลุค ยัง , เอล คาร์คูรี่ , เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน , คริส พาวเวลล์ , ราโดสติน คิชิเชฟ , เดนนิส รอมเมดาห์ล , อเล็กเซ สเมอร์ติน , แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ , ดาร์เรน อัมโบรส , ดาร์เรน เบนท์

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , เวส บราวน์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , จอห์น โอเชีย , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , อลัน สมิธ , พอล สโคลส์ , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , รุด ฟาน นิสเตลรอย , เวย์น รูนี่ย์

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน

วีแกน แอธเลติก 2-3 อาร์เซนอล
[0-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ (น.11) , 0-2 : เธียรี่ อองรี (น.21) , 1-2 : อองรี กามาร่า (น.28) , 1-3 : เธียรี่ อองรี (น.41) , 2-3 : จิมมี่ บูลลาร์ด (น.45)]

ชาร์ลตัน แอธเลติก 1-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : อลัน สมิธ (น.37) , 1-1 : ดาร์เรน อัมโบรส (น.65) , 1-2 : รุด ฟาน นิสเตลรอย (น.70) , 1-3 : รุด ฟาน นิสเตลรอย (น.85)]

เชลซี 3-0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : โจ โคล (น.47) , 2-0 : เฮอร์นัน เครสโป (น.51) , 3-0 : เดเมี่ยน ดัฟฟ์ (น.90)]

ลิเวอร์พูล 3-0 ปอร์ทสมัธ
[1-0 : เบาเดอไวน์ เซนเด้น (น.23) , 2-0 : ฌิบริล ซิสเซ่ (น.39) , 3-0 : เฟอร์นานโด มอริเอนเตส (น.80)]

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

ซันเดอร์แลนด์ 1-3 แอสตัน วิลล่า
[0-1 : เควิน ฟิลลิปส์ (น.55) , 0-2 : แกรี่ แบร์รี่ (น.82) , 0-3 : มิลาน บารอส (น.83) , 1-3 : ดีน ไวท์เฮด (จุดโทษ น.90)]

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์