ผีลิ้นห้อยเบียดเวสต์บรอม 2-1 ยึดรองฝูง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครึ่งแรกนำ 2-0 น่าจะสบายตัวแต่ครึ่งหลังโงหัวแทบไม่ขึ้นถูกตีไข่แตกยังประคองตัวชนะ 2-1 โรเมลู ลูกากู ทำประตูจากลูกโหม่ง 2 นัดติดต่อกันช่วยให้ ปีศาจแดง ยึดอันดับ 2 ไม่แบ่งใครตามจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 11 แต้มแต่ข่าวร้ายคือ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ได้รับบาดเจ็บ

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เปลี่ยนโค้ชเป็น อลัน พาร์ดิว คุมทีม 3 นัดยังไม่ชนะใครเก็บได้ 2 แต้มจากการเสมอ วันนี้เปลี่ยนตำแหน่งเดียวจากทีมชุดบุกเสมอ ลิเวอร์พูล โนสกอร์คือปีกขวา โอลิเวอร์ เบิร์ค ลงตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เบียด ฮัล ร็อบสัน-คานู หลุดเป็นสำรอง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนทีม 3 ตำแหน่งจากนัดเฝ้าหลุมเฉือน เอเอฟซี บอร์นมัธ 1-0 คือ แอชลี่ย์ ยัง กลับมาประจำการแบ็คซ้ายแทน ลุค ชอว์, อันเดร์ เอร์เรร่า ทวงตัวจริงในแผงกลางจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด สตาร์ทปีกซ้ายก่อน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

ต้นเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกจากซ้ายไปขวาของหน้าจอครองบอลเกือบ 70% แต่ได้จบครั้งเดียวในนาทีที่ 6 มาร์คัส แรชฟอร์ด สับไกในกรอบด้านซ้ายติดบล็อกส่วนเจ้าบ้านขึงเกมรับ 2 ชั้นอีกนัดยังไม่มีโอกาสตอบโต้เลย

ผ่านไปอีก 10 นาทีเปอร์เซนต์ครองบอลและโอกาสยังเท่าเดิมแต่มีจังหวะอันตรายจาก ยูไนเต็ด นาทีที่ 15 แอชลี่ย์ ยัง เปิดด้วยขวาจากริมเส้นฝั่งซ้ายโค้งมาจะถึง โรเมลู ลูกากู ในกรอบ 6 หลาแต่ คีแรน กิ๊บส์ หุบไปโหม่งสกัดได้ก่อน

ปีศาจแดง บุกนำ 1-0 มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บอลริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่งเข้าขวาแล้วเปิดโค้งมาตรงเส้น 6 หลา โรเมลู ลูกากู ขึ้นชนะ กิ๊บส์ โหม่งสะบัดบอลเสียบหน้าต่างเสาสองอย่างเฉียบขาด ! เป็นการทำประตูจากศีรษะ 2 นัดติดต่อกัน

โอกาสสวนกลับของ เวสต์บรอมวิช สถานการณ์ 2 ต่อ 1 ด้วยเมื่อ โอลิเวอร์ เบิร์ค เลี้ยงจากกลางสนามจี้มาทางซ้ายโดยด้านขวามี ซาโลม่อน รอนดอน ตีคู่ไปแต่ เบิร์ค เลือกโซโล่ต่อเองแล้วก็ถูก คริส สมอลลิ่ง ล้มตัวสไลด์หยุดบอลไว้ได้อย่างหล่อ

จังหวะหวาดเสียวอีกครั้งของ อัลเบี้ยน ต้องชม อัลล็อง นียอม แบ็คขวาสอนมวย แรชฟอร์ด ด้วยการแตะลอดดากส์หลุดไปเปิดยัดมาเสาแรกจะถึง รอนดอน อยู่แล้วแต่ สมอลลิ่ง ยอดเยี่ยมอีกครั้งพุ่งไปโหม่งสกัดออกหลังได้ก่อน

เรด เดวิลส์ เกมบุกถึงเนื้อกว่านำห่าง 2-0 เนมานย่า มาติช จ่ายยัดจากด้านซ้ายมาหน้ากรอบ ลูกากู โดน จอนนี่ อีแวนส์ แซะจากข้างหลังบอลไปเข้าเท้า ฆวน มาต้า ไหลมาทางขวาให้ เจสซี่ ลินการ์ด ลากเข้าเท้าขวาแล้วสับไกบอลแฉลบ อาเหม็ด เฮกาซี่ เปลี่ยนทางลอยผ่าน เบน ฟอสเตอร์ เข้าประตูไป

จากนั้นทีมเยือนผ่อนเกมลงท่าทางพอใจกับจำนวนสกอร์ที่นำอยู่เปิดโอกาส WBA โจมตีเป็นระลอกจนกระทั่ง เจค ลิเวอร์มอร์ ได้ช่องซัดไกลด้วยขวาหน้าหัวกระโหลกบอลโค้งไม่หนีตัว ดาบิด เด เคอา เท่าไหร่พุ่งรับไว้ได้ไม่ยาก

หมดครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 2-0 ครองบอล 63% โอกาส เยอะกว่า 4 ต่อ 2 ครั้ง

HALF TIME

เกมทำท่าจะจืดต้องเติมรสเผ็ดหน่อยเมื่อ แรชฟอร์ด ร่วงลงไปกองในจังหวะปะทะกับ เฮกาซี่ แล้วลุกขึ้นมาโมโหประท้วงว่าโดนศอกเข้าหน้านำไปสู่การถกเถียงกันจนผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ต้องแจกใบเหลืองทั้งคู่เพื่อระงับเหตุการณ์

ครึ่งหลัง เวสต์บรอมวิช บุกต่อเนื่องจากช่วงท้ายครึ่งแรกและได้ทำอันตรายในจังหวะวางบอลมาทางขวาของกรอบเขตโทษให้ เบิร์ค เปิดพุ่งไปหน้าประตู รอนดอน โถมมาเหยียดขาไม่ถึงนิดเดียวก่อนถูก อันโตนิโอ วาเลนเซีย เคลียร์ทิ้งไป

แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้ทันควัน วาเลนเซีย เติมเกมไปถึงริมกรอบเขตโทษด้านขวาแต่งบอลเข้าเท้าซ้ายข้างไม่ถนัดแล้วโยนมา ลินการ์ด เกี่ยวบอลไม่อยู่กลายเป็นดีเลยมาที่ แรชฟอร์ด หวดตูมเดียวด้วยขวาเฉี่ยวเสาไกลออกไป

ยูไนเต็ด ได้จบอีกครั้งในจังหวะสวนกลับจากแดนตัวเอง ลินการ์ด ลากบอลทะลุกลางสนามขึ้นไปทำชิ่งกับ ลูกากู จนได้ซัดเรียดในกรอบฝั่งขวาตรงตัว ฟอสเตอร์ แปะแล้วรับไว้ได้

สถานการณ์ ปีศาจแดง กำลังสวยต้องมาเสีย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ได้รับบาดเจ็บน่าจะกล้ามเนื้อแฮมสตริง(ต้นขาด้านหลัง)เสียด้วยเล่นเอา โชเซ่ มูรินโญ่ ถึงกับนั่งไม่ติดก่อนสั่งเปลี่ยน มาร์กอส โรโฮ ลงแทนยืนแบ็คสลับฝั่งกับ อ.ยัง

จากนั้น อัลเบี้ยน บุกอยู่ฝ่ายเดียวแล้วก็ไล่มาเป็น 2-1 เตะมุมฝั่งขวา คริส บรันท์ ตัวสำรองโยนด้วยซ้ายโค้งไปเสาไกลบอลตกใส่ โรโฮ เด้งมาหน้าประตู อีแวนส์ ยิงวืดแต่ยังมี แกเร็ธ แบร์รี่ สำรองอีกคนแปดาบสองด้วยซ้ายไม่กี่หลาตุงตาข่าย

ทีมเยือนโงหัวไม่ขึ้นแล้วถูก WBA ปูพรมถล่มด้วยบอลจาก บรันท์ ทางริมเส้นฝั่งซ้ายเปิดโค้งมาตรงจุดโทษอย่างสวย เจย์ โรดริเกซ สำรองอีกคนโฉบไปโหม่งกดลงพื้นหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว