ผีบุกเจ๊าเรดดิ้ง 1-1

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2549 01:08 น.



คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกทีมชาติโปรตุเกสลากเลื้อยเข้าไปยิงช่วยให้ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปตามตีเสมอ เรดดิ้ง 1-1 ด้าน ปืนใหญ่ อาร์เซนอล และ หงส์แดง ควงคู่กันเก็บชัยสวยงาม 3-0 ส่วน สิงห์บลูส์ เชลซี โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่าบุกอัด ฟูแล่ม 2-0 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2549

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เรดดิ้ง 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด



โรนัลโด้ ลากเลื้อยตามฟอร์ม


สตีฟ ค็อปเปลล์ สามารถจัดทัพชุดที่ดีที่สุดให้แก่ เรดดิ้ง ในการต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเกมนี้เจ้าถิ่นได้ เควิน ดอยล์ หัวหอกตัวเก่งลงมายืนจับคู่กับ เลอรอย ลิต้า โดยเกมแดนกลางมี โซล คี เฮือน ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้คอยโฉบเฉี่ยว แนวรับ อิบราฮิม ซงโก้ ประสานงานกับ อิวาร์ อินกิมาร์สสัน ได้ดีทีเดียวตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2006/07

ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีการปรับทัพให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มากมายเริ่มตั้งแต่นายทวารให้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง แนวรับให้ เนมันย่า วิดิช และกาเบรียล ไฮน์เซ่ ที่หายเจ็บคืนสนาม แดนกลางส่ง ไมเคิล คาร์ริค และคีแรน ริชาร์ดสัน มาช่วยทำเกม โดยให้ เวย์น รูนี่ย์ ยืนเป็นหน้าตัวเป้าโดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และพอล สโคลส์ คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง


นาทีแรก รูปเกมค่อนข้างสูสีแต่ทีมเยือนดูจะมีจังหวะยิงมากกว่าแต่ก็เป็นการส่องไกลมากกว่าและก็ยังไม่เข้าเป้า

เริ่มการแข่งขันไปแค่สองนาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ลุ้นประตูเมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ได้จังหวะสับไกจากนอกกรอบเขตโทษ มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ ปัดไม่พ้นอันตราย คีแรน ริชาร์ดสัน สไลด์เข้าซ้ำแต่นายทวารเรดดิ้งยังใช้ตัวป้องกันเอาไว้ได้ ผ่าน 15

อีกสามนาที เรดดิ้ง น่าจะได้ประตูนำเช่นกันเมื่อ คี เฮือน เปิดบอลให้ เควิน ดอยล์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงแต่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาบล็อกได้เร็วทีเดียว เข้าสู่ครึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่นสามารถตั้งเกมสู้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างไม่เกรงกลัวและก็ได้ลุ้นจาก คี เฮือน แต่จังหวะยิงไกลของเขาถูกเซฟไว้ด้วยฝีมือของนายทวารมือ 1 ทีมชาติฮอลแลนด์


ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังค่อนข้างไม่ต่อเนื่อง

แม้ว่าทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และคีแรน ริชาร์ดสัน พยายามจะกระชากลากเลื้อยแต่ก็ได้แค่วูบวาบยังไม่เป็นประโยชน์กับทีมเท่าใดนัก อีกทั้งเจ้าถิ่นค่อนข้างเล่นเป็นระบบมีระเบียบในการตั้งรับและเติมเกมรุก ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังสามารถยันไว้ได้อยู่ที่ 0-0


เปิดเกมในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมบุกใส่ทันที

โรนัลโด้ อาศัยความขยันตามบอลไปสุดเส้นหลังก่อนตบเข้ากลาง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ แตะต่อให้ ริชาร์ดสัน ได้ยิงแต่บอลก็หลุดคาน มาถึงนาทีที่ 48 กลายเป็น เรดดิ้ง ที่ได้ลูกจุดโทษเมื่อ แกรี่ เนวิลล์ ทำแฮนด์บอลและก็เป็น ดอยล์ รับหน้าที่สังหารไปติดมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่บอลยังแรงพอที่จะเข้าไปซุกก้นตาข่ายทำให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0


พอเสียประตูไปทีมเยือนพยายามตั้งเกมบุกแต่รูปแบบการเล่นยังเป็นการถ่ายบอลออกข้างและเปิดเข้ามาเสียเป็นส่วนใหญ่

กาเบรียล ไฮน์เซ่ หยอดเข้ากลางให้ เฟล็ทเชอร์ สอดขึ้นมาโขกแต่บอลเฉียดเสาออกไป เมื่อเกมไม่ดีขึ้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องแก้เกมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการส่ง หลุยส์ ซาฮา มาเล่นเกมรุกและก็ถอดเอา ริชาร์ดสัน ที่ทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันออกไป


เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ดาหน้าบุกใส่เป็นชุดๆ

จนแผงหลังเรดดิ้ง สกัดไม่ขาดมาเข้าทางให้ สโคลส์ วิ่งเข้ามาหวดเต็มๆ แต่บอลแฉลบทำให้หลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ เฟอร์กี้ จะทิ้งไพ่สองใบสุดท้ายด้วยการส่ง จอห์น โอเชีย และโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ลงมาเล่นแทน ไฮน์เซ่ กับ เฟล็ทเชอร์


จนมาถึงนาทีที่ 73 สาวกผีแดงได้เฮกันจนได้เมื่อ

โรนัลโด้ อาศัยทักษะการเลี้ยงบอลจี้เข้ามาก่อนตัดจากซ้ายยิงด้วยเท้าขวาส่งบอลเสียบเสาไกลอย่างสวยงามทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 เมื่อเกมดูจะปั่นป่วนไปทำให้ สตีฟ ค็อปเปลล์ ต้องแก้เกมบ้างด้วยการส่ง บรินยาร์ กุนนาร์สสัน ลงมาช่วยแดนกลางพร้อมกับถอด ลิต้า ซึ่งเป็นกองหน้าออกมา

ช่วงท้ายเกมทีมเยือนยังคงทำเกมรุกต่อเนื่อง โซลชา เปิดบอลจากฝั่งขวาให้ โรนัลโด้ โถมเข้ามาโหม่งแต่บอลไปตรงตัว ฮาห์เนมันน์ จบ 90 นาที เรดดิ้ง ทำสำเร็จเปิดบ้านยันเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 โดย เดอะ รอยัลส์ มีเพิ่มเป็น 10 แต้มจากการลงสนาม 6 นัด รั้งอันดับ 7 ของตาราง ส่วน ผีแดง มีเพิ่มเป็น 13 คะแนน อยู่ในอันดับ 3 ต่อไป


รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม


เรดดิ้ง : มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ , แกรม เมอร์ตี้ , อิบราฮิม ซงโก้ , อิวาร์ อินกิมาร์สสัน , นิคกี้ โชรี่ย์ , โซล คี เฮือน , สตีฟ ซิดเวลล์ , เจมส์ ฮาร์เปอร์ , บ็อบบี้ คอนเวย์ , เลอรอย ลิต้า , เควิน ดอยล์

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี่ เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันย่า วิดิช , กาเบรียล ไฮน์เซ่ , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ไมเคิล คาร์ริค , คีแรน ริชาร์ดสัน , พอล สโคลส์ , เวย์น รูนี่ย์



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์