ผีตัวไหนจะลงหลุม?โดย..คิม คนดี :



เดือนมีนา ที่อากาศร้อนได้ใจจริงๆ เรื่องฮอตๆยามนี้ถ้าไม่เอ่ยถึงศึกใหญ่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง วันพุธที่ 10 มีนาคม นี้ ระหว่าง ปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เอซี มิลาน คงมิได้ เนื่องจากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับวงการลูกหนังของเมืองนอกยังอดไม่ได้ที่จะออกมาให้คอมเม้นท์กันรายวัน 



ย้อนไปนัดแรกที่มิลาน ต้องปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของยูไนเต็ด ที่บุกไปพิชิต ปีศาจแดง-ดำ ได้ถึงรัง 3-2 ทำให้เกมในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นเรื่องที่ไม่ยากลำบากจนเกินไปนักในการวางแท็คติกรับมือ



กระนั้นสิ่งที่แน่นอนอาจแปรเปลี่ยนเป็นไม่แน่นอนได้เสมอ ยิ่งในโลกลูกหนังด้วยแล้ว สกอร์ที่ทีมของท่านเซอร์ถือความได้เปรียบ ต้องถือว่าจิ๊บๆ 



เชื่อเหลือเกินว่าแท็คติกที่แต่ละทีมวางหมากมาซัดกันในนัดสองนั้นจะต้องรัดกุมและเด็ดขาดกว่านัดแรก และไม่อาจคาดเดาได้ว่ารูปเกมจะออกมาถึงพริกถึงขิงหรือเน้นออกอาวุธกันเน้นๆเนื้อๆ



ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ประตูแรกของเกมว่าเป็นฝั่งไหนได้ก่อนเท่านั้น ตรงนี้จะมีผลต่อรูปเกมโดยรวมทั้งหมดทันที ลองนึกภาพดูว่าถ้าเป็น มิลาน ได้ตั้งแต่ต้นเกม กำลังใจมา สกอร์รวมกลับมาเท่ากัน แม้ว่าจะต้องเร่งยิงเพิ่มเพื่อแซงเข้ารอบก็เถอะ แต่โมเมนตั้มมันเหวี่ยงกลับมาหาทีมดังจากอิตาลี แน่ 


src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O100306A8S0N.jpg

เดวิด เบ็คแฮม เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของเกมนี้กับการกลับไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้ง



 


ในทางกลับกันหากเป็นอสูรแดง สอยขึ้นนำก่อนก็แทบจะปิดโอกาสการคัมแบ็คของลูกทีมเลโอนาร์โด้ ทันที ซึ่งดูเหมือนว่ารูปโฉมของเกมอย่างนี้มันเข้าทางเซอร์ อเล็กซ์ เสียด้วย 



อ่านคำให้สัมภาษณ์ของรานิเอรี่ แล้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง มิลาน จะต้องเล่นให้ได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติจริงๆถึงจะสามารถเก็บสกอร์ที่พวกเขาต้องการไปได้จากโรงละครแห่งความฝัน 



ถามว่าศักยภาพของรอสโซเนรี่ ชุดนี้ดีพอจะทำประตูแมนฯยูในถิ่นได้ถึงสองประตูมั๊ย? คงต้องตอบว่ามีความเป็นไปได้ ทว่าต้องยอมรับความจริงกันด้วยว่าโอกาสที่จะทำอย่างนั้นใส่ยอดทีมของพรีเมียร์ ลีก ยุคนี้ มันจะยากเกินไปหรือเปล่าสำหรับ มิลาน...



แน่นอนว่า ผีแดง มีปัญหาแนวรับเจ็บกันระนาวกราวรูด แม้ว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ จะหายเจ็บกลับมาช่วยทีม แต่ต้องเสีย จอนนี่ อีแวนส์ ที่บาดเจ็บหัวเข่ามาจากการรับใช้ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ เมื่อรวมกับ ราฟาเอล และจอห์น โอเช ทำให้ทางเลือกในแผงหลังมีไม่มากนัก อีกทั้งจะมั่นใจได้เหรอว่า ริโอ กลับมาเที่ยวนี้แล้วจะไม่ผิดพลาดแบบน่าเขกกะโหลกอีก 



ส่วนแดนหน้าการไร้ ไมเคิล โอเว่น ที่ปิดเทอมใหญ่ก่อนใครเพื่อน ต้องพักทั้งซีซั่นจากอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าที่ได้รับมาในนัดชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ กับ แอสตัน วิลล่า นั้น คงไม่ถึงกับส่งแรงสั่นสะเทือนเลือนลั่นอะไร แต่ในทางกลับกันถ้า รูน เจ็บนี่สิ เรื่องใหญ่หลวงนัก 



การขาด โอเว่น เปิดทางให้ เบอร์บาตอฟ จับจองพื้นที่ของตัวเองได้อย่างมั่นคงมากขึ้น และ อาจรวมไปถึงโอกาสของเจ้าหนูชาวอิตาเลี่ยนอย่างเฟเดริโก้ มาเคด้า ที่ใกล้จะหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาซ้อมในสัปดาห์หน้า อีกรายด้วย



ขณะที่ มิลาน พวกเขารู้ดีว่านี่คือสัปดาห์ชี้ขาดซีซั่นนี้ว่าจะล้มเหลวมือเปล่าหรือว่าได้ลุ้นหยิบจับโทรฟี่อะไรกับชาวบ้านเค้าบ้าง หลังจากหมดลุ้นในถ้วยโคปปา อิตาเลีย ไปตั้งแต่เดือนมกราคม แล้ว ด้วยการเสียท่าคาบ้านให้กับอูดิเนเซ่ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนในกัลโช่ เซเรีย อา. แม้ว่าแต้มไม่ได้ห่างจาก อินเตอร์ ปรปักษ์ร่วมเมืองมากมายอะไร ทว่าถ้ามองถึงความสม่ำเสมอในการเก็บชัยชนะแล้ว ทาง เจ้างูใหญ่ ดูน่าเชื่อถือมากกว่า 



ปัญหาที่ต้องกังวลคือ อเลซานเดร ปาโต้ กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิเลี่ยน ที่มีอาการบาดเจ็บจะลงได้หรือเปล่า หากไม่ไหวภาระหนักจะตกไปอยู่กับคลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ทันที



จุดที่น่าสนใจอยู่ที่ ผีผู้ดี จะไม่มี ไมเคิล คาร์ริค ในแดนกลาง หลังจากถูกไล่ออกในเกมแรกที่มิลาน ตรงนี้จะส่งผลเสียต่อห้องเครื่องของยูไนเต็ด หรือเปล่า? เพราะ พอล สโคลส์ นับวันเหลือแต่ความเก๋าแล้ว อีกทั้งชอบฟาวล์พร่ำเพรื่อผิดจังหวะจนทีมรวน ส่วน ไรอัน กิ๊กส์ ที่ข้อมือหักก็ไม่น่าลงเล่นเกมนี้ไหว 



นี่เท่ากับว่า ไอ้รถถัง เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กองกลางจอมดีเดือดของมิลาน ที่ได้พักมาเต็มๆ เพราะติดโทษแบนในลีกจะเล่นได้ง่ายขึ้นเมื่อมีคู่ปะทะที่ไม่ได้มีประสบการณ์ในถ้วยยูซีแอล มากนัก 


src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O100306F5R7M.jpg

เวย์น รูนี่ย์ อาจเป็นคนตัดสินเกมอีกครั้ง



 


แม้จุดเล็กๆน้อยๆดูว่าปีศาจแดง-ดำ พอจะได้เปรียบอยู่บ้าง แต่ประเด็นหลักคือชั่วโมงนี้จะหาใครหยุด เวย์น รูนี่ย์ ได้ล่ะ ซีซั่นนี้กดไปแล้ว 27 ประตู จากทุกถ้วย อีกทั้งบรรยากาศในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นี่มันขุมนรกดีๆนี่เอง 



รอดูกันว่ากลางสัปดาห์นี้ เจ้าถิ่นจะลากมิลานลงหลุมแต่โดยดี หรือดันทะเล่อทะล่าผิดพลาดเองง่ายๆกลายเป็นขุดหลุมฝังกลบตัวเองกันแน่ ... 


> KIM KON-DEE


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์