ปืนผนึกทัพใหญ่ล้างอายผีชปล.คืนนี้

ศึกชี้ชะตาหาทีมแรกที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วยใบโตของยุโรป ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล รวมพลแข้งหลักกลับสู่ทีมอีกครั้งเพื่อทำศึกล้างตากับ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่พ่ายมาในเกมแรก ไปติดตาม ความพร้อมทั้งสองทีมก่อนเริ่มเกมกันครับ


ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008/09
(รอบรองชนะเลิศ นัดสอง)
วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม 2552
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
(ผลนัดแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 1-0)
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน

เกมรอบตัดเชือก นัดชี้ชะตาเพื่อหาทีมผ่านเข้าชิงชนะเลิศที่สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม อาร์เซน่อล ต้องการชัยชนะสถานเดียวเท่านั้นหลังจากแพ้มาที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล เตรียมเรียกแข้งตัวหลักคืนทัพพร้อมหน้า หลังปล่อยให้บรรดาดาวรุ่งได้ลงโชว์ลีลาในเกมถล่ม พอร์ทสมัธ 3-0 เมื่อวันเสาร์ บรรดาแข้งตัวหลักอย่าง มานูเอล อัลมูเนีย, มิกาแอล ซิลแวสตร์, โคโล่ ตูเร่, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่ และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ไม่มีส่วนร่วมเลยในเกมเมื่อวันเสาร์ เท่ากับทั้งหมดจะกลับคืนสู่ทีม 11 คนแรกแน่นอน


เดอะ กันเนอร์ส ยังมีข่าวดีที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกทีมชาติฮอลแลนด์ เตรียมตัวกลับมาลงสนามได้ในเกมนี้ หลังจากล่าสุดหายเจ็บโคนขากลับมาลงซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว และน่าจะได้ลงเล่นเป็นคู่หอก ตามที่ เวนเกอร์ ตั้งใจไว้ว่าใช้แผนกองหน้าคู่เพื่อยิงประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ ยังต้องขาด กาแอล กลิชี่ แบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศส ที่ยังไม่สามารถกลับมาฟิตได้ ทำให้ คีแรน กิ๊บส์ แบ็กดาวรุ่งชาวอังกฤษ จะต้องรับผิดชอบเกมรับทางฝั่งซ้ายต่อไป


ขณะที่ อังเดร อาร์ชาวิน ดาวยิงรัสเซียน จะต้องกลับไปนั่งดูเพื่อนเล่นเช่นเคยจากการติดคัพ-ไท หลังเล่นให้เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มาแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม แถม เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา หัวหอกทีมชาติโครเอเชีย เชื้อสายบราซิเลี่ยน ก็เกิดบาดเจ็บโคนขาหนีบซ้ำขึ้นมาอีก หมดสิทธิ์เตะเกมนี้


ปืนโตจะใช้ระบบ 4-4-2 ในเกมนี้ มานูเอล อัลมูเนีย เใาเสา แผงแบ็กโฟร์ประกอบด้วย บาการี่ ซานญ่า, โคโล ตูเร่, มิกาแอล ซิลแวสตร์ และ คีแรน กิ๊บส์ ให้ อเล็กซ์ ซง ยืนมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับ เชส ฟาเบรกาส ขณะที่ริมเส้นสองฝั่งมี ธีโอ วัลค็อตต์ กับ ซามีร์ นาสรี่ และหน้าคู่เป็น เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่


ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการแค่ผลเสมอ ไม่ว่าด้วยสกอร์ใดก็ตาม ก็จะผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน และจะมีโอกาสเป็นทีมแรกที่ได้ป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสภาพทีมที่สมบูรณ์ขึ้นหลังจากพักตัวหลักบางรายในเกมลีกนัดชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 เมื่อวันเสาร์

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังคนสำคัญ กลับมาลงฝึกซ้อมได้แล้วเมื่อวันจันทร์ หลังได้รับบาดเจ็บชายโครงมาจากเกมชนะ อาร์เซน่อล 1-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน โดนคาดการณ์กันในทีแรกว่าต้องพักยาว แต่ล่าสุดดาวเตะ 30 กลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแล้ว และจะได้ลงคุมเกมรับอย่างแน่นอนในเกมวันอังคารนี้


เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ นายทวารมือหนึ่งตัวเก๋า, ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางตัวเชื่อมเกม, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางสกอตติช และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกโปรตุเกสตัวความหวัง ไม่มีส่วนร่วมกับเกมลีกเมื่อวันเสาร์ แต่เกมนี้ทั้งหมดจะกลับคืนสนาม


ขณะที่ 6 คนแรกที่ได้ลงสนามตัวจริงเกมอัด เดอะ โบโร่ อย่าง จอนนี่ อีแวนส์, พาร์ค ชี-ซอง, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ เฟเดริโก้ มาเคด้า จะถูกสั่งถอยมาเป็นตัวสำรองทั้งหมด


อย่างไรก็ดี เซอร์ อเล็กซ์ มีปัญหาหนักใจเล็กๆ เมื่อ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้ายตัวจริงชาวฝรั่งเศส มีปัญหาเจ็บติดตัวจากเกมชนะเดอะ โบโร่ และชวดลงซ้อมมื้อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทว่าก็คาดว่า เอวร่า จะถูกเข็นลงสนามอย่างแน่นอน แม้จะสามารถปรับเอา จอห์น โอเช มารับหน้าที่แทน และใช้แบ็กขวาเป็น ราฟาเอล ดา ซิลวา ได้ก็ตาม


เวส บราวน์ แบ็กขวาอีกคน ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ และไม่ได้ซ้อมเช่นกันเมื่อวันจันทร์ และไม่น่าจะมีชื่อในเกมนี้ ขณะที่ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กับ แกรี่ เนวิลล์ มีปัญหาบาดเจ็บซ้ำซาก รายแรกยังกลับมาไม่ได้จนซีซั่นหน้า ส่วนรายหลังยังต้องพักอีกระยะ


เกมนี้ ปีศาจแดงจะใช้ระบบเดิมกับเมื่อวันพุธที่แล้ว คือ 4-3-3 เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ เฝ้าเสา แผงกองหลังประกอบด้วย จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช และ ปาทริซ เอวร่า ส่วนสามมิดฟิลด์ตัวกลางเป็น ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค และ อันแดร์สัน ขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ จะถ่างออกมาริมเส้นในระบบสามหัวหอกร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเวซ

รายชื่อผู้เล่นที่ที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล (4-4-2) : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานญ่า, โคโล ตูเร่, มิกาแอล ซิลแวสตร์, คีแรน กิ๊บส์ - อเล็กซ์ ซง, ธีโอ วัลค็อตต์, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่ - เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-3-3) : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ - จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน - เวย์น รูนี่ย์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเวซ

ผู้ตัดสิน : โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ (อิตาลี)

บ่อนเปิดราคาผีบุกยันปืน1-1จ่ายต่ำสุด

แล็ดโบร๊กส์ บริษัทรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษ เปิดราคาสำหรับผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 วันอังคารนี้ ระหว่าง อาร์เซน่อล-แมนฯ ยูไนเต็ด โดยสกอร์เสมอ 1-1 เป็นราคาที่จ่ายต่ำสุดที่ 11/2 (แทง 2 จ่าย 11 ไม่รวมทุน)


ขณะที่โอกาสแพ้-ชนะมีราคาสูสีอย่างยิ่ง เมื่อสกอร์ที่ อาร์เซน่อล หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะชนะ 1-0 จ่ายเท่ากันที่ 6/1 เท่ากับสกอร์ 0-0 ในเกมนี้


จากนั้นตามด้วยสกอร์ 2-1 ที่ยังจ่ายเท่ากันอีกที่ 9/1 อย่างไรก็ตามอัตราที่ ปืนโต จะชนะ 2-0 จ่ายต่ำกว่าโอกาสที่ ปีศาจแดง จะชนะ 2-0 เล็กน้อยที่ 10/1 และ 11/1 ตามลำดับ ส่วนสกอร์ 2-2 อยู่ที่ 14/1 นอกนั้นจ่ายมากกว่า 22 เท่าขึ้นไป

โด้ยังเต็งหนึ่งบุกซัดเม็ดแรกปืน

ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกตัวเก่งแมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงถูกยกเป็นเต็งหนึ่งที่จะยิงประตูแรกได้ ในเกมที่ต้นสังกัดจะบุกไปเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของ อาร์เซน่อล วันอังคารนี้ โดย แล็ดโบร๊กส์ เปิดราคาไว้ที่ 11/2 (แทง 2 จ่าย 11 ไม่รวมทุน)


ขณะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับ เวย์น รูนี่ย์ มีราคาตามมาที่ 6/1 เท่ากับโอกาสไม่มีสกอร์ในเกมนี้ ถัดมาเป็นราคา 8/1 สำหรับ คาร์ลอส เตเวซ, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ และ นิคลาส เบนท์เนอร์ ตามมาด้วยกองหน้าดาวรุ่งของทั้งสองทีมอย่าง เฟเดริโก้ มาเคด้า กับ คาร์ลอส เวล่า อยู่ที่ 9/1 และ ธีโอ วัลค็อตต์ กับ เชส ฟาเบรกาส อยู่ที่ 10/1 นอกนั้นจ่ายมากกว่า 11 เท่าขึ้นไป

โรบิน,มิก้าคัมแบ็กซ้อมรอชนผี

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ กับ มิกาแอล ซิลแวสตร์ กองหลังชาวฝรั่งเศส หายเจ็บกลับมาลงฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ปืนโต ได้แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ต้นสังกัดจะมีคิวรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง วันอังคารที่ 5 พ.ค.นี้

ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ได้เล่นให้ต้นสังกัดนับตั้งแต่เจ็บโคนขาหนีบระหว่างเกมที่ทีมแพ้ เชลซี 1-2 ศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะ เมื่อ 18 เม.ย. ขณะที่ มิก้า ซิลแวสตร์ มีอาการเจ็บโคนขาหนีบเล็กน้อยจนลงเล่นไม่ได้ในเกมที่ทีมเอาชนะ พอร์ทสมัธ 3-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


แต่ในการฝึกซ้อมมื้อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้ง ฟาน เพอร์ซี่ กับ ซิลแวสตร์ กลับมาซ้อมได้เต็มที่แล้ว และจะด้ลงสนามในเกมตัดสินชะตาของทีมสำหรับซีซั่นนี้ ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อไป

ปืนเหนียวไม่แพ้เกมยุโรปในบ้าน27นัดติด

อาร์เซน่อล พกสถิติสุดหรูในการลงเล่นเกมยุโรปที่บ้านตัวเองก่อนจะพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบรองชนะเลิศ นัดสอง วันอังคารนี้ เมื่อไม่ปราชัยให้กับคู่ต่อสู้มา 27 นัดติดต่อกันแล้ว นับตั้งแต่เคยแพ้ เชลซี 1-2 เมื่อปี 2004


อาร์เซน่อล แพ้ในถิ่นตัวเองครั้งล่าสุดคือเกมที่โดน เชลซี บุกมาชนะ 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ นัดสอง ปี 2004 ซึ่งครั้งนั้นยังเล่นที่สนามไฮบิวรี่ รังเก่าอยู่ นั่นหมายความว่านับตั้งแต่เปิดใช้ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในปี 2006 อาร์เซน่อล ยังไม่เคยแพ้ในเกมยุโรปเลย


27 นัด ที่อาร์เซน่อล ไม่แพ้ในบ้านเป็นการชนะ 19 นัดและเสมอ 8 นัด ยิงได้ 53 ประตูและเสียเพียง 8 ประตูเท่านั้น

ซีซั่นนี้ยังไม่โดนยิงในบ้าน

นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ที่ไม่แพ้ใครในในการเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่บ้านมา 27 นัดติด ยังไม่เสียประตูในฤดูกาลนี้เลย รวมแล้ว 6 นัดติดต่อกัน หรือ 604 นาที


นักเตะคนล่าสุดที่บุกมายิงอาร์เซน่อล ได้ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม คือ เดิร์ค เค้าท์ หัวหอกลิเวอร์พูล ในเกมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อปีที่แล้ว แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาอาร์เซน่อลไม่เคยเสียประตูในบ้านเลย


6 นัดล่าสุดที่อาร์เซน่อล รักษาคลีนชีตในถิ่นตัวเอง เริ่มจากชนะ ทเวนเต้ 4-0 ในรอบคัดเลือก รอบสาม จากนั้นในรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัดมี ชนะ ปอร์โต้ 4-0, เสมอ เฟเนร์บาห์เช่ 0-0, ชนะ ดินาโม เคียฟ 1-0 รอบ 16 ทีมสุดท้ายชนะ โรม่า 1-0 และรอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะ บียาร์เรอัล 3-0

แต่ไม่เคยผ่านทีมผู้ดีถ้วยยุโรป

อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล มีผลงานที่ไม่ดีนัก หากต้องมาเจอกับทีมจากอังกฤษด้วยกันในรอบน็อกเอาท์ถ้วยยุโรป เมื่อสถิติ 2 ครั้งหลังสุดลงเอยด้วยการตกรอบทั้งหมด


ทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ โคจรมาพบกับ เชลซี ทีมร่วมลีกด้วยกันในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อปี 2004 แต่ต้องตกรอบเมื่อพ่ายไปด้วยสกอร์รวม 2-3


ขณะที่ครั้งล่าสุดคือการพบกับ ลิเวอร์พูล ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ปีที่แล้ว แต่ก็พ่ายไปอีกในสกอร์รวม 3-5
ผีไม่เสียประตูน็อกเอาท์นอกบ้าน 4 นัดติด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กุมความได้เปรียบจากการชนะ อาร์เซน่อลมาได้ก่อน 1-0 ที่บ้านตัวเอง เตรียมยกพลมาเยือนถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยผลงานไม่เสียประตูในเกมรอบน็อกเอาท์เลยใน 4 นัดหลังสุด


นับตั้งแต่เสมอ โอลิมปิก ลียง 1-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ปีที่แล้ว แมนฯยูไนเต็ด ไม่เสียประตูในรอบน็อกเอาท์อีกเลยเริ่มจากบุกชนะ โรม่า 2-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ตามด้วย บุกเสมอ บาร์เซโลน่า 0-0 ที่คัมป์ นู ในรอบรองชนะเลิศ


ถัดมาในฤดูกาลนี้ เริ่มจากบุกเสมอ อินเตอร์ มิลาน 0-0 ที่ซาน ซิโร่ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และนัดล่าสุดบุกชนะ เอฟซี ปอร์โต้ 1-0 ถึงโปรตุเกส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และทำให้เข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จ

สถิติเวนเกอร์,เซอร์เจอกันสุดสูสี

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อล และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ของแมนฯยูไนเต็ด มีผลงานที่สูสีมากทีเดียวในการเจอกันเอง จากการชนะคนละ 14 นัดและเสมอกัน 10 นัด


เวนเกอร์ เข้ามาคุมทีมปืนใหญ่ในฤดูกาล 1996/97 และนำทีมดวลกับปีศาจแดงของเซอร์ อเล็กซ์ มาแล้ว 38 นัดจากทุกรายการ ปรากฎว่าชนะไปฝ่ายละ 14 นัด และเสมอ 10 นัด

ขณะที่สถิติทั้งหมดที่ อาร์เซน่อล พบกับ แมนฯยูไนเต็ด คือ 205 นัด และเป็นทางปีศาจแดงที่มีสถิติเหนือกว่าคือชนะ 83 นัด ปืนใหญ่ชนะ 77 นัดและอีก 45 นัดเสมอกันไป

ตะลึง! ผีมีเตเวซเตะชปลไม่เคยแพ้

เผยสถิติน่าทึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยพลาดท่าเพลี่ยงพล้ำ พ่ายให้ใครเลยในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หากมี คาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ ลงสนามไม่ว่าตัวจริงหรือตัวสำรอง หลังจาก เตเวซ ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ ปีศาจแดง มาแล้ว 20 เกม


เตเวซ ย้ายจากเวสต์แฮม มาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่นก่อน และนำทีมเป็นแชมป์ด้วยการเตะจุดโทษเอาชนะ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศที่กรุงมอสโก โดยดาวยิงวัย 25 ลงเล่นเกมยุโรปในซีซั่น 2007/08 ไปทั้งสิ้น 12 นัด ยิง 4 ประตู และ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 9 นัด เสมอ 3 ไม่แพ้ใคร


ส่วนในซีซั่น 2008/09 นี้ เตเวซ เล่นเกมยุโรป 8 นัด ยิง 2 ประตู และ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3 นัด เสมอ 5 ไม่แพ้ใครเลยเช่นกัน

สรุปผลงานของ เตเวซ ที่ลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก
- ฤดูกาล 2007/08
19 ก.ย. 2007 สปอร์ติ้ง ลิสบอน 0-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
2 ต.ค. 2007 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 โรม่า
23 ต.ค. 2007 ดินาโม เคียฟ 2-4 แมนฯ ยูไนเต็ด
7 พ.ย. 2007 แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 ดินาโม เคียฟ (ยิง 1 ประตู)
27 พ.ย. 2007 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 สปอร์ติ้ง ลิสบอน (ยิง 1 ประตู)
20 ก.พ. 2008 ลียง 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (ยิง 1 ประตู)
4 มี.ค. 2008 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ลียง
1 เม.ย. 2008 โรม่า 0-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
9 เม.ย. 2008 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 โรม่า (ยิง 1 ประตู)
23 เม.ย. 2008 บาร์เซโลน่า 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
29 เม.ย. 2008 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 บาร์เซโลน่า
21 พ.ค. 2008 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี
- ฤดูกาล 2008/09
17 ก.ย. 2008 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 บียาร์เรอัล
30 ก.ย. 2008 อัลบอร์ก 0-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
21 ต.ค. 2008 แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เซลติก
05 พ.ย. 2008 เซลติก 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
25 พ.ย. 2008 บียาร์เรอัล 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
10 ธ.ค. 2008 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 อัลบอร์ก (ยิง 1 ประตู)
07 เม.ย. 2009 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 ปอร์โต้ (ยิง 1 ประตู)
29 เม.ย. 2009 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 อาร์เซน่อล

ข้อมูลที่น่าสนใจก่อนเกม อาร์เซน่อล-แมนฯ ยูไนเต็ด
แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้เปรียบจากผลการแข่งขันนัดแรก แต่ว่าการไปเยือน อาร์เซน่อล เกมนี้ไม่ง่ายนอกจากสถิติไร้พ่ายในบ้านอันยาวนานแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ อาร์เซน่อล ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นในรอบ 10 นัดหลังสุด
ลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่แพ้ในบ้านใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มา 27 เกมแล้ว นับแต่พ่ายต่อเชลซี 1-2 เมื่อเมษายน 2004
อาร์เซน่อล ชนะ 4 เสมอ 1 ในบ้านฤดูกาลนี้ และไม่เสียประตูให้ผู้มาเยือนนานถึง 514 นาทีแล้ว ประตูสุดท้ายเสียให้กับคู่แข่งจากพรีเมียร์ลีก ด้วยกันเองอย่าง ลิเวอร์พูล ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ปีที่แล้ว จากฝีเท้าของ เดิร์ก เค้าท์ โดยจบลงที่ 1-1
อย่างไรก็ตาม ยูไนเต็ด ก็ไม่เสียประตูในการออกไปเป็นทีมเยือนเลยใน 4 เกมหลังสุดในรอบน็อกเอาท์ นับตั้งแต่เสมอกับ โอลิมปิก ลียง 1-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายฤดูกาลที่แล้ว จากนั้นตามด้วยบุกชนะ โรม่า 2-0, เสมอ บาร์เซโลน่า 0-0 มาปีนี้ บุกเสมอ อินเตอร์ มิลาน 0-0 และชนะ ปอร์โต้ 1-0
แต่ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล กลับมาเข้ารอบได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จาก 8 ครั้ง ในถ้วยยุโรป ถ้าพวกเขาดันออกไปแพ้นอกบ้านในเกมแรก , เกิดขึ้นใน ยูฟ่า คัพ รอบ2 ปี 1978/79 ที่เจอกับ ไฮจ์ดุ๊ค สปลิต หลังจากเกมแรกออกไปแพ้ 1-2 แล้วกลับมาชนะในบ้าน 1-0 เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน
ถ้านัดแรก อาร์เซน่อล ออกไปแพ้นอกบ้านมาด้วยสกอร์ 0-1 พวกเขาจะตกรอบตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมา อันประกอบด้วย แพ้ พีเอสวี 0-1 ก่อนกลับมาเสมอ 1-1 ในบ้าน ในชปล. ปี2006/07, แพ้ วินเตอร์สแล็ก ใน ยูฟ่า คัพ รอบ2 ปี 1981/82 (แพ้ 0-1 เยือน, ชนะ 2-1 เหย้า), แพ้ เซอร์เวด้า ซเวซด้า ใน ยูฟ่า คัพ รอบ 3 ปี 1978/79 ( แพ้ 0-1 เยือน, เสมอ 1-1 เหย้า) และ แพ้ พีเอโอเค ใน ยูฟ่า คัพ รอบแรกปี 1997/98 (แพ้ 0-1 เยือน, เสมอ 1-1 เหย้า).
แต่สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตรงข้ามกันเลย ถ้าพวกเขาชนะเลกแรกในบ้านแล้ว พวกเขาเคยพลาดตกรอบแค่ 5 ครั้งเท่านั้นจาก 21 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งสุดท้าย ที่พวกเขาชนะเลกแรกในบ้าน พวกเขาตกรอบ คือในรอบรองชนะเลิศ ปี 2006/07 ต่อ เอซี มิลาน (ชนะ 3-2 เหย้า, พ่าย 0-3 เยือน)
มากกว่านั้น ยูไนเต็ด แพ้ถึง 2 จาก 3 ครั้งเมื่อพวกเขาชนะในบ้านนัดแรก 1-0 โดยครั้งเดียวที่พวกเขาเข้ารอบคือครั้งที่ได้แชมป์ยุโรปสมัยแรกปี 1967/68 ในรอบรองชนะเลิศ ที่เอาชนะ เรอัล มาดริด ได้ 1-0 ก่อนบุกไปเสมอ 3-3 ที่ สเปน ส่วนอีก 2 ครั้งที่ต้องผิดหวังคือ พ่าย ยูเวนตุส ใน ยูฟ่า คัพ รอบ2 ปี 1976/77 (ชนะ 1-0 เหย้า, แพ้ 0-3 เยือน) และ แพ้ เซเคสเฟเฮอร์วารี่ วีดีโอตัน ของฮังการี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ รายการเดียวกันนั้นในปี 1984/85 (ชนะ 1-0 เหย้า, แพ้ 0-1 เยือน แล้วพ่ายจุดโทษ 4-5)
ทาง อาร์เซน่อล ต้องการผ่านไปเล่นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปี แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการป้องกันแชมป์เอาไว้ให้ได้
ยูไนเต็ด ไม่แพ้ในการออกไปเป็นทีมเยือน 2 ปีกว่าแล้ว เป็นจำนวน 11 เกมติดต่อกันโดยย้อนไปถึงพฤษภาคม 2007 ที่แพ้ เอซี มิลาน ในรอบรองชนะเลิศ เป็นเกมสุดท้าย และคิดในฤดูาลนี้ พวกเขาชนะ 2 เสมอ 3 นอกบ้าน
นี่คือสถิติการเล่นรอบรองชนะเลิศรายการนี้เป็นครั้งที่ 11 ของพวกเขาโดยก่อนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่าน 3 ตก 7 ครั้ง
- 2007/08 ชนะ บาร์เซโลน่า 1-0 (0-0 เยือน, 1-0 เหย้า)
- 2006/07 แพ้ เอซี มิลาน 3-5 (3-2 เหย้า, 0-3 เยือน)
- 2001/02 แพ้ เลเวอร์คูเซ่น 3-3 (2-2 เหย้า, 1-1 เยือน)
- 1998/99 ชนะ ยูเวนตุส 4-3 (1-1 เหย้า, 3-2 เยือน)
- 1996/97 แพ้ ดอร์ทมุนด์ 0-2 (0-1 เยือน, 0-1 เหย้า)
- 1968/69 แพ้ เอซี มิลาน 1-2 (0-2 เยือน, 1-0 เหย้า)
- 1967/68 ชนะ เรอัล มาดริด 4-3 (1-0 เหย้า, 3-3 เยือน)
- 1965/66 แพ้ เอฟเค ปาร์ติซาน 1-2 (0-2 เยือน, 1-0 เหย้า)
- 1957/58 แพ้ เอซี มิลาน 2-5 (2-1 เหย้า, 0-4 เยือน)
- 1956/57 แพ้ เรอัล มาดริด 3-5 (1-3 เยือน, 2-2 เหย้า)
นี่เป็นครั้งที่ 2 ของ อาร์เซน่อล ในรอบรองชนะเลิศรายการนี้ โดยครั้งเดียวก่อนนี้คือในปี 2005/06 ที่ชนะ บียาร์เรอัล ได้ (1-0 เหย้า, 0-0 เยือน)
หากไม่นับเกมที่แล้ว ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายชนะในครั้งเดียวของพวกเขาที่เจอกับทีมอังกฤษด้วยกันในรายการนี้ คือนัดชิงชนะเลิศ ปีที่แล้วที่ชนะ เชลซี ด้วยการดวลจุดโทษ
ย้อนกลับไป พวกเขาก็เป็นผู้ชนะ ในการเจอกับทีมอังกฤษด้วยกันเอง แบบ เหย้า-เยือน ครั้งเดียวของพวกเขาในรายการยุโรป คือการเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ในรอบแรกของ คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1963/64 ด้วยการออกไปแพ้ก่อน 0-2 แต่กลับมาชนะในบ้าน 4-1
อาร์เซน่อล หวังให้เป็น 'third time lucky' ในการเจอกับทีมอังกฤษด้วยกันในยุโรป เพราะสองครั้งก่อนนี้แพ้มาตลอด โดยล่าสุดในฤดูกาลที่แล้ว แพ้ตกรอบ 8 ทีมในรายการนี้ ต่อ ลิเวอร์พูล (1-1 เหย้า, 2-4 เยือน) และย้อนไปในปี 2003/04 รอบเดียวกัน ก็แพ้ให้แก่ เชลซี (1-1 เยือน, 1-2 เหย้า)
ยูไนเต็ด เจอกับ อาร์เซน่อล มาทั้งสิ้น 205 เกมในทุกรายการ เฮด ทู เฮด คือ ยูไนเต็ด ชนะ 83 อาร์เซน่อล ชนะ 77 เสมอกัน 45
กุนซือของทั้งสองทีมเป็นสองคนที่คุมทีมเดียวยาวนานสุดในพรีเมียร์ลีก เวลานี้ โดย เซอร์ อเล็กซ์ เข้ารับงานที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ปลายปี 1986 ส่วน เวนเกอร์ มาถึง ลอนดอน ตั้งแต่ปี 1996 เริ่มเป็นคู่อริกันในปี 1996/97 และนับแต่นั้นมา สถิติการเจอกันของทั้งคู่คือ เวนเกอร์ ชนะ 14 เฟอร์กี้ ชนะ 14 เสมอกัน 10 นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังเคยดวลจุดโทษกันมาแล้ว ในนัดชิง เอฟเอ คัพ ปี2005 และเป็น อาร์เซน่อล ที่ชนะไป 5-4
ขณะที่ ยูไนเต็ด ก็เป็นฝ่ายชนะได้ก่อนในการจุดโทษเพื่อชิงถาด คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปี 2003 โดยเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4-3
ครั้งล่าสุดที่เจอกันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน โดย อาร์เซน่อล เอาชนะไปได้ 2-1 ซามีร์ นาสรี่ เหมายิงสองประตู
อาร์เซน่อล ยังเป็นผู้ชนะในครั้งสุดท้ายที่พวกเขาต้อนรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฟุตบอลถ้วย เป็นเกม ลีก คัพ รอบ3 เมื่อพฤศจิกายน ปี 2001 โดยเอาชนะไป 4-0 จากแฮตทริก ของ ซิลแว็ง วิลตอร์ โดยนักเตะจากทั้งสองทีมที่ได้ลงเล่นในเกมนั้นที่ยังเหลืออยู่มีแค่ จอห์น โอเช คนเดียว
ตั้งแต่ อาร์เซน่อล มาใช้สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยบุกมาชนะได้เลย ครั้งสุดท้ายที่ทำสำเร็จคือสมัยเป็น ไฮบิวรี่ ช่วงกุมภาพันธ์ 2005 ที่บุกชนะ 4-2
และตลอด 3 ครั้ง ที่ ปีศาจแดง มาเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม สนามใหม่นี้ มีประตูในนาทีที่ 90 เกิดขึ้นทุกเกม
ยูไนเต็ด ไม่เคยแพ้ อาร์เซน่อล เมื่อดวลกันในรอบรองชนะเลิศ รวมถึงในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ และ เวนเกอร์ ด้วย โดยมีสถิติดังนี้ :
- เอฟเอ คัพ 2003/04, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 1-0
- เอฟเอ คัพ 1998/99 แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ 0-0, ชนะ 2-1 (นัดรีเพลย์ ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ)
- เอฟเอ คัพ 1982/83 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-1
- ลีก คัพ 1982/83 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4-2 (เยือน), ชนะ 2-1 (เหย้า)
มีสองนักเตะในชุดปัจจุบันของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ในรอบรองชนะเลิศมาแล้ว ในเอฟเอ คัพ 2004 เป็น พอล สโคลส์ และ เอฟเอ คัพ ปี 1999 ก็เป็น ไรอัน กิ๊กส์ กับลูกลากเดี่ยวไปยิงที่รู้จักกันดี
สถิติของ อาร์เซน่อล ในการเปิดบ้านรับมือ แมนฯ ยูไนเต็ด คือ ชนะ 55 เสมอ 17 แพ้ 24 แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะในสกอร์ที่จะช่วยให้พวกเขาเข้ารอบชิงได้เลย นับแต่ชนะ 3-1 ในเกมลีก เมื่อพฤศจิกายน 2001 หมายถึง 8 เกมเข้าไปแล้ว
ชัยชนะ 30 จาก 55 ครั้งของ อาร์เซน่อล ในบ้านที่ผ่านมา ความห่างของสกอร์เพียงพอจะทำให้พวกเขาเข้าชิงได้ โดยมี 6 นัดด้วยกันที่ชนะในสกอร์ 1-0
ครั้งแรกที่ทั้งสองทีมเจอกันที่ลอนดอน คือในดิวิชั่น 2 โบราณ วันที่ 30 มีนาคม 1895 โดย อาร์เซน่อล เอาชนะไปได้ 3-2
ชัยชนะมโหราฬสุดของ อาร์เซน่อล คือ 5-0 ใน เอฟเอ คัพ เมื่อเดือนมกราคม 1937
ชัยชนะมากสุดที่ ยูไนเต็ด ในการออกไปเยือน อาร์เซน่อล เกิดขึ้นในพฤศจิกายน ปี 1990 เมื่อพวกเขาช็อคเกมรับสุดเหนียวของ อาร์เซน่อล ถ้วยการบุกไปถลุง 6-2 ในเกม ลีก คัพ รอบ4 โดย ลี ชาร์ป ยิงแฮททริก
มิกาแอล ซิลแวสตร์ เป็นคนพังประตูให้ ยูไนเต็ด ได้ในเกมที่ทั้งคู่ เสมอกัน 1-1 ใน คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปี 2003 ก่อนจบลงที่ ยูไนเต็ด ชนะจุดโทษ 4-3 โดย ซิลแวสต์ เล่นให้ ยูไนเต็ด นานถึง 9 ปี ระหว่าง ปี 1999 ถึง 2008 คว้าแชมป์ ในประเทศมาครบหมดแล้ว, แชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ อีกอย่างละครั้ง ในส่วนตัวของเขาเอง
ผู้ชนะจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่าง เชลซี หรือ บาร์เซโลน่า ที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม วันที่ 27 พฤษภาคม 2009

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์