ซีซั่น รีวิว โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ (2007/08)



สถิติการลงเล่นและการทำประตู
พรีเมียร์ ลีก ลงเล่น 23 นัด, ยิง 2 ประตู
เอฟเอ คัพ ลงเล่น 3 นัด
คาร์ลิ่ง คัพ ไม่ได้ลงเล่น
ยูโรเปี้ยนส์ คัพ ลงเล่น 8 นัด
รายการอื่นๆ ไม่ได้ลงเล่น
สถิติในฤดูกาลนี้ ลงเล่น 34 นัด, ยิง 2 ประตู
สถิติรวมกับสโมสร ลงเล่น 34 นัด, ยิง 2 ประตู

ผลงานที่น่าประทับใจ
แมนฯ ยูไนเต็ด 2 - 1 อาร์เซน่อล วันที่ 13 เมษายน 2008 เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูจากลูกจุดโทษอันงดงามจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากนั้น โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ก็แย่งซีนไปได้ การที่โรนัลโด้สามารถทำสถิติการทำประตู สร้างความอิจฉาให้กับเหล่าดาวยิงในพรีเมียร์ ลีก ทุกคนนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย การเล่นตำแหน่งเดียวกันในฐานะมิดฟิลด์ ทำให้เขายึดตำแหน่งยิงฟรีคิกนอกกรอบให้ปีศาจแดง กลายเป็นการยิงบอลรุกฆาตที่พุ่งไปตุงตาข่ายโดยไม่อาจหยุดยั้งปล่อยให้ เยนส์ เลห์มันน์ ได้แต่ยืนมองบอลลอยผ่านไป

ข่าวคราวในวงการฟุตบอลนั้นแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดข้อตกลงอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม ปีที่ผ่านมา ทำให้โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ เปลี่ยนสภาพจากหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จักมาเป็นมิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยปริยาย การเซ็นสัญญานั้นยังบอกเราว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีความตั้งใจที่จะพัฒนามิดฟิลด์ระดับโลกของเขาขึ้นไปอีก แม้ว่าจะเก็บฝีเท้าได้ห่างจากกิ๊กซี่ และสโคลส์ อยู่หลายพันก้าว แต่หนุ่มฮาร์กรีฟส์ วัย 26 ก็เป็นหนึ่งในทีมมิดฟิลด์รุ่นใหม่อย่างแน่นอน โดยร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริก และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ด้วยทีมใหม่ที่ยังหนุ่มแน่น กับผู้เล่นสดใหม่อย่าง แอนเดอร์สัน และ นานี่ ที่ตบเท้าเข้ามาร่วมทีมพร้อมๆ กัน แฟนๆ ปีศาจแดงจึงร่วมเปิดฤดูกาลด้วยความเพลิดเพลิน แต่ถึงแม้จะเซ็นสัญญาใหม่ 18 ล้านปอนด์ เขาก็ต้องถูกถอนชื่ออกจากการแข่งขันเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ ในความเป็นจริงแล้ว ฤดูกาลแรกของฮาร์กรีฟส์ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลายเป็นฤดูกาลแห่งความสำเร็จที่แลกมาด้วยอาการบาดเจ็บมากมาย เริ่มจากชัยชนะของสามเกมในเดือนสิงหาคม โดยเฉพาะเกมดาร์บี้ แมตช์ กับแมนฯ ซิตี้ แล้วมิดฟิลด์ชาวอังกฤษผู้นี้ก็มีปัญหาหัวเข่าที่ลุกลาม และไม่ดีขึ้นเลยจนกระทั่งปลายเดือนตุลาคม ที่เขาได้กลับมาเล่นอีกครั้ง เขาเคยออกมายอมรับว่า ปัญหาที่หัวเข่าของเขาเป็นปัญหาเรื้อรัง เขากล่าวว่า มันเป็นเส้นเอ็นตรงกระดูกสะบ้าหัวเข่า ถ้าเจ็บทีนึงแล้ว มันก็จะเจ็บไปตลอด ผมไม่มีทางเลือกมาก หมอก็บอกว่าผมก็ต้องหาทางจัดการกับมันให้ได้ โชคดีที่เขาจัดการกับปัญหานี้ได้หลังคริสต์มาส ซึ่งเป็นช่วงที่เข้มข้นของการเก็บแต้มปลายฤดูกาลที่ต้องทุ่มสุดตัว และในเดือนเมษายนยังมีอีกแปดเกมที่รอเขาอยู่

สิ่งที่เขาควรขอบคุณมากที่สุดอาจจะเป็นตำแหน่งที่เขาเล่น ทั้งในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศกับบาร์เซโลน่า และเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อเขาได้ลงเล่นแทน เนมานย่า วิดิช ที่ต้องออกเพราะได้รับบาดเจ็บ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งเขาไปทำหน้าที่อุดรูรั่วตำแหน่งแบ็คขวา เขาสามารถควบคุมอารมณ์จากความท้าทายนั้นได้ และเล่นอย่างมั่นใจ และเยือกเย็น ทำให้เขาได้ลงเล่นในเกมที่พบกับ บาเยิร์น มิวนิค เป็นเรื่องน่าประทับใจมากที่ ฮาร์กรีฟส์ สามารถแสดงฝีมือได้ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด และการยิงลูกฟรีคิกเอาชนะอาร์เซน่อลมาได้นั้น ก็เป็นการโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาล ลูกดวลจุดโทษอันแผ่วเบาของเขาในเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก กับเชลซี ซึ่งอาจเป็นลูกโทษที่โดดเด่นที่สุดในคืนนั้น ช่วยให้เข้าใกล้กับการสร้างฤดูกาลที่เป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด และแน่นอนว่า ฮาร์กรีฟส์ ยังคงเก็บไม้เด็ดๆ ไว้กับตัวเขาอีกมากมาย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์