ช็อค!!ผีพังคาบ้าน,สิงโตพลิกชนะ

ช็อค!!ผีพังคาบ้าน,สิงโตพลิกชนะ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2548 23:06 น.

มอร์เท่น แกรมส์ต พีเดอเซ่น กลายเป็นฮีโร่ของแบล็คเบิร์นกระหน่ำคนเดียวสองลูกนำต้นสังกัดบุกมาอัดแมนฯยูไนเต็ดถึงถิ่น 2-1 ศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ (24 ก.ย.) เป็นการยัดเยียดความปราชัยให้กับลูกทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เกมแรกของฤดูกาล รวมทั้งเป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 43 ปีของกุหลาบไฟที่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ศึกพรีเมียร์ลีก
แมนฯยูไนเต็ด 1 แบล็คเบิร์น 2
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แมนฯยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของแบล็คเบิร์น นัดนี้เจ้าถิ่นขาดนักเตะตัวหลักหลายรายทั้ง รอย คีน, กาเบรียล ไฮน์เซ่, แกรี่ เนวิลล์, เวส บราวน์ และ ควินตัน ฟอร์จูน ขณะที่ทีมเยือนได้ แอนดี้ ท็อดด์ กลับมาจากโทษแบน

เริ่มเกมขึ้นมา แมนฯยูไนเต็ด ยังไม่เร่งเกมทำให้ทั้งสองฝ่ายยังเล่นกันได้สูสี แต่พอผ่านไปไม่นานเจ้าถิ่นก็ครองบอลกดดันทีมเยือนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามเป็น แบล็คเบิร์น ที่ได้ทักทายก่อนจากการยิงไกลของ เคร็ก เบลลามี่ แต่ ฟาน เดอ ซาร์ รับเข้าซอง

เกมเริ่มคึกคักขึ้นและในนาทีที่ 13 แมนฯยูไนเต็ด ได้โอกาสจะๆครั้งแรกเป็น อลัน สมิธ ยิงไกลเต็มข้อ แต่ แบร็ด ฟรีเดล ทุบออกมาได้ ตามด้วยอีก 2 นาทีต่อมา พอล สโคลส์ จะได้ชาร์จระยะไม่กี่หลาหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย

แมนฯยูไนเต็ด ดาหน้าบุกเป็นระลอกและในนาทีที่ 17 ก็เกือบจะออกนำอีกครั้ง เป็น พอล สโคลส์ วางลูกเตะมุมเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย โหม่งโดนไม่เต็ม ทว่ากลายเป็นดีไปเข้าทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยืนอยู่หน้าหากประตูโล่งๆทว่าดันแหย่ขาไม่ถึงซะอีก

เจ้าถิ่นมัวแต่บุกเพลินจนเกือบจะโดนทะลวงไปก่อน เมื่อ เบลลามี่ เปิดบอลแบบได้เสียไปในกรอบเขตโทษให้ พอล ดิ๊กคอฟ ได้พุ่งโหม่งโล่งๆ แต่ ฟาน เดอ ซาร์ ใช้ขาเซฟเอาไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จังหวะต่อมา แมนฯยูไนเต็ด โต้กลับและ ฟาน นิสเตลรอย ได้กลับตัวยิงในกรอบ 18 หลา ทว่ากดข้ามคานไป

เกมทั้งสองฝ่ายแลกหมัดกันคนละทีและนาทีที่ 31 แบล็คเบิร์น น่าจะได้ประตูออกนำอย่างที่สุด เมื่อ พีเดอร์เซ่น เลี้ยงตะลุยเข้ามาในกรอบเขตโทษ โดนกองหลังสกัดบอลไปเข้าทาง ดิ๊กคอฟ ที่กวาดต่อไปให้ เบนท์ลี่ย์ ได้แปเน้นๆทว่ายังไม่ผ่านมือ ฟาน เดอ ซาร์ เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม 2 นาทีต่อมาทีมเยือนก็ขึ้นนำสมใจ เมื่อมาได้ฟรีคิกริมเส้นทางฝั่งขวา เป็น มอร์เท่น แกรมส์ต พีเดอร์เซ่น ปั่นโค้งด้วยซ้ายผ่านกลุ่มผู้เล่นทั้งสองทีมเสียบตาข่ายเสาสองชนิดที่ ฟาน เดอ ซาร์ ไม่ได้ขยับ แบล็คเบิร์น ออกนำ 1-0 หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายทำอะไรกันไม่ได้จนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลังเล่นได้เพียง 2 นาที แมนฯยูไนเต็ด น่าจะตีเสมอได้เมื่อ พอล สโคลส์ หลุดเดี่ยวเข้าไปแปเน้นๆในกรอบเขตโทษทว่า ฟรีเดล โชว์ซูเปอร์เซฟเหยียดขาสกัดได้หวุดหวิด ตามด้วยฟรีคิกครึ่งยิงครึ่งผ่านของ โรนัลโด้ ทว่า รุด ฟาน นิสเตลรอย เข้าชาร์จจ่อๆไม่โดน

เกมรุกของ แมนฯยูไนเต็ด ไม่ดุดันทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องถอด ดาร์เรน เฟลตเชอร์ ออกแล้วส่ง เวย์น รูนี่ย์ ลงมาแทน ตามด้วย ฟิลิป บาร์ดลี่ย์ ลงมาแทน จอห์น โอเชีย แต่เป็น แบล็คเบิร์น ได้ลุ้นจากการเปิดได้เสียของ เบลลามี่ ทว่า ฟาน เดอร์ ซาร์ ใช้ขาสกัดออกมา

มี รูนี่ย์ ลงมาเกมบุกของเจ้าถิ่นวูบวาบขึ้นทว่า แบล็คเบิร์น ยังป้องกันเอาไว้ได้ จนถึงนาทีที่ แมนฯยูไนเต็ด ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 67 เป็นการยิงไกลของ เวย์น รูนี่ย์ ที่ทำให้ แบร็ด ฟรีเดล ต้องปัดออกมา ทว่าไม่พ้นไปเข้าทาง รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่แต่งจังหวะอย่างใจเย็นก่อนแปตุงตาข่ายโล่งๆ สกอร์ขยับ 1-1

หลังจากนั้น แมนฯยูไนเต็ด ส่ง ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาแทน ปาร์ค จี ซอง เน้นเกมริมเส้นเต็มพิกัด ทว่าช่วงนาทีที่ 81 พอล สโคลส์ จ่ายบอลพลาดโดนตัดได้ เป็น มอร์เท่น แกรมส์ต พีเดอร์เซ่น ลากเข้าไปกดด้วยซ้ายเต็มข้อสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าไปอย่างสุดสวย

ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯยูไนเต็ด บุกแหลกหมายจะตามตีเสมอให้ได้ อย่างไรก็ตามจังหวะสุดท้ายก็มาติดนิดติดหน่อย ครบ 90 นาที แมนฯยูไนเต็ด พังคาบ้าน 1-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด - เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิกาแอล ซิลแวสตร์, จอห์น โอเชีย, คีแรน ริชาร์ดสัน, ดาร์เรน เฟลตเชอร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, พอล สโคลส์, ปาร์ค จี ซอง, อลัน สมิธ, รุด ฟาน นิสเตลรอย
แบล็คเบิร์น - แบร็ด ฟรีเดล, ไมเคิล เกรย์, ซูรีบ คิซานิสวิลี่, ลูคัส นีลล์, ไรอัน เนลสัน, เดวิด เบนท์ลี่ย์, มอร์เท่น แกรมส์ต พีเดอร์เซ่น, ร็อบบี้ ชาเวจ, ตูกาย เคริโมกลู, เคร็ก เบลลามี่, พอล ดิ๊กคอฟ

สรุปผลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (เบอร์ - วอร์น็อค og. น.72,ปันดิอานี่ น.75 ลิ - การ์เซีย น.68,ซิสเซ่ น.85)
เชลซี ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1(เชลซี -แลมพาร์ด น.45,75 (จุดโทษ) แอส - มัวร์ น.44
เอฟเวอร์ตัน แพ้ วีแกน 0-1 (วีแกน - ฟรานซิส น.47)
แมนฯยูไนเต็ด แพ้ แบล็คเบิร์น 1-2 (แมนฯยู - ฟาน นิสเตลรอย น.68, แบล็ค - พีเดอร์เซ่น น.33,81)
นิวคาสเซิ่ล ชนะ แมนฯซิตี้ 1-0 (นิว - โอเว่น น.18)
เวสต์บรอมวิช แพ้ ชาร์ลตัน 1-2 (เวสต์ - เดวี่ส์ น.51, ชาร์ลตัน - เมอร์ฟี่ย์ น.9,31)
เวสต์แฮม เสมอ อาร์เซน่อล 0-0
โบลตัน - ปอร์ทสมัธ

มือขวาเฟอร์กี้ชี้ยิงทิ้งยิงขว้างเลยแพ้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2548 01:34 น.

คาร์ลอส เคยรอช มือขวาของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอมรับความพ่ายแพ้ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่มีต่อแบล็คเบิร์น เหมือนฝันร้ายของแมนฯยูไนเต็ด ตำหนิแนวรุกพลาดโอกาสงามๆหลายครั้ง ยันยังไม่คิดถึงการไล่ล่าเชลซีขอให้ทีมมุ่งมั่นทำผลงานให้ดีขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก

แมนฯยูไนเต็ด พบกับความพ่ายแพ่ครั้งแรกในฤดูกาล หลังเสียท่าต่อ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ 1-2 ในศึกพรีเมียร์ลีกที่รังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยทีมเยือนได้ มอร์เท่น แกรมส์ต พีเดอร์เซ่น เหมาคนเดียวสองลูก ขณะที่ปีศาจแดงแก้คืนได้ประตูเดียวจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย

หลังเกม คาร์ลอส เคยรอช ผู้ช่วยผู้จัดการทีมแมนฯยูไนเต็ด กล่าวว่า เราพลาดโอกาสงามๆหลายครั้ง เราเล่นเกมรุกได้ยอดเยี่ยมในครึ่งแรก ความพ่ายแพ้นัดนี้เหมือนฝันร้ายเลย มันสำคัญมากเพราะเราไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส บางนัดเราไม่เคยเล่นได้ดีแบบนี้แต่ยังยิงได้ถึง 3 หรือ 4 ลูกเลย

ผู้ช่วยชาวโปรตุเกสกล่าวต่อว่า เราต้องรักษาแนวทางการเล่นไว้ต่อไปรวมทั้งความเชื่อมั่นด้วย ถ้านัดนี้ ทั้ง รุด, คริสเตียโน่, รูนี่ย์ และ สโคลส์ ฉวยโอกาสจากที่มีผมคิดว่าเราน่าจะยิงได้อย่างน้อย 3 หรือ 4 ลูก ส่วนการตัดสินในพัก รูนี่ย์ เป็นตัวสำรอง เราต้องการให้โอกาสกับนักเตะคนอื่น เรามีเกมสำคัญรออยู่ข้างหน้า ดังนั้นจึงเป็นจังหวะที่ดีที่เราจะใช้งาน จี

จากผลความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด มีคะแนนตามหลังจ่าฝูงเชลซีเป็น 10 คะแนน ในเรื่องนี้ เคยรอช แนะนักเตะในทีมไม่ต้องไปสนใจผลงานของคู่แข่งแต่ให้หันมาเน้นในเกมของตนเอง เรามีงานต้องทำ เราไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นในการชิงชัย ทุกวันและทุกเกมเราต้องให้ความสนใจกับงานของตนเองเป็นอันดับแรก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์