งานล่ม!ผีหัวทิ่มโดนกุหลาบบุกล้มโต๊ะ 3-2

งานล่ม!ผีหัวทิ่มโดนกุหลาบบุกล้มโต๊ะ 3-2

ไวน์ฉลองวันเกิดพร้อมวันปีใหม่ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกระเด็นกระดอนกันไปคนละทางเลยทีเดียว เมื่อมาเจอพลังใจเกินร้อยของทีมบ๊วยอย่างแบล็คเบิร์นบุกมาเผาเครื่องแบบสุดช็อกถึงถิ่น 3-2 ชอกช้ำทิ้งทวนปีเก่าด้วยการอดขึ้นเป็นจ่าฝูงไป

พรีเมียร์ ลีก

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2554

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 : 3 แบล็คเบิร์น

ประตู :
0-1 ยาคูบู น.16, 0-2 ยาคูบู น.51, 1-2 เบอร์บาตอฟ น.52, 2-2 เบอร์บาตอฟ น.62, 2-3 แฮนลี่ย์ น.80

คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก แมนยู 2-3 แบล็คเบิร์น


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของแบล็คเบิร์น โดยหวังที่จะกำนัลของขวัญวันเกิดให้กับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันที่อายุครบ 70 ปีวันนี้เลยด้วย

ทีมแมนฯยูไนเต็ดที่เดี้ยงกันไปเป็นเข่ง ก็ยังต้องจัดตัวกันลงแปล่งๆเหมือนเดิม โดยวาเลนเซียยืนแบ็คขวา ขณะที่เซ็นเตอร์คู่เป็นคาร์ริคและเอฟร่า ด้านซ้ายเป็นราฟาเอล แต่สุดท้ายคงต้องดูว่าเวลาแข่งจะยืนกันยังไง

ยังดีที่มิดฟิลด์ตรงกลางได้โจนส์กลับมาช่วยได้อีกครั้ง แต่ที่น่าแปลกใจเลยก็คือไม่มีชื่อของรูนี่ย์ทั้งตัวจริงและสำรองในเกมนี้

แบล็คเบิร์นวันนี้มาหวังแบ่งแต้มและแน่นอนว่าพวกเขาคงอยากที่จะให้บันน์โชว์ฟอร์มเด็ดต่อเนื่อง จากหลังเกมที่แล้วองค์ลงเซฟกระจุยช่วยทีมแบ่งแต้มลิเวอร์พูลได้สำเร็จ

ครึ่งแรก

ผีลุยแต่แรกเริ่ม
เปิดเกมมาได้ไม่ทันไร แมนฯยูไนเต็ดก็ใส่เกียร์บุกลุยเข้าหาแบล็คเบิร์นเลยทันที แต่ส่วนมากมักจะกลายเป็นจังหวะหวาดเสียวเฉี่ยวไปมามากกว่า ไอ้จังหวะจะๆนั้นยังไม่มี เพราะแบล็คเบิร์นเองก็กันเอาไว้ได้หมด

หวังดี ... เป็นร้าย!พี่เบิร์บทำเสียจุดโทษ
นาทีที่ 15 อุตส่าวิ่งลงไปช่วยเกมรับหวังจะแบ่งาภระให้เพื่อน กลายเป็นไปทำเสียจุดโทษซะอย่างนั้น ทำหรับเบอร์บาตอฟที่เหนี่ยวแซมบ้าล้มลง ผู้ตัดสินไม่มีลังเลเป่าให้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ยาคูบูจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือ 1-0 แบล็คเบิร์นพลิกมานำก่อนหน้าตาเฉย

ผีกดดันได้แต่มันไม่สุด
แม้ว่าเกมของแมนฯยูไนเต็ดจะได้บุกใส่แบล็คเบิร์น แต่การเข้าทำนั้นค่อนข้างจะตันพอสมควร เพราะเกมนี้เทขึ้นไปทางด้านขวาซะส่วนมาก โดยจะให้เอฟร่าขึ้นทางซ้ายคนเดียวคล้ายในเกมที่แล้ว แต่ยังไม่เวิร์คสำหรับวันนี้ เพราะต้องชมด้วยว่าแบล็คเบิร์นยืนกันแน่นปึ้กเลย

บันน์ดูมั่นใจแม่นเป๊ะ
นอกจากเกมรับที่แน่นปึ้กแล้ว วันนี้แฟนบอลแบล็คเบิร์นน่าจะอุ่นใจกับประตูที่นำอยู่ได้พอสมควร เพราะจังหวะออกมารับหรือตัดบอลแต่ละครั้งของบันน์นั้นมันพอดีเป๊ะ ไม่มีหละหลวมเลยสักนิด

โจนส์เกือบทำประตูทีมเก่าได้
นาทีที่ 27 เกือบจะยิงประตูทีมเก่าตัวเองได้แล้วสำหรับโจนส์ ในจังหวะที่เขาเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ลูกเตะมุมที่เพื่อนเปิดมาจะหล่นตุ๊บลงเท้า โจนส์เลยพยายามรีบยิงทันที แต่กลายเป็นยิงไปติดเอร์นานเดซที่ยืนบังไลน์อยู่ เลยวืดกันไปซะงั้น

แผนเบิร์บช่วยหลังชักจะไม่เวิร์ค
ทุกครั้งที่มีลูกเซ็ตพีชของทางทีมเยือน ดูเหมือนว่าเฟอร์กูสันจะสั่งให้เบอร์บาตอฟลงไปช่วยประกบแซมบ้าที่ตัวสูงใหญ่ในเกมรับ แต่ดูแล้วเหมือนว่าการดวลกันของคู่นี้ หัวหอกศิลปินจะพ่ายทุกครั้งไป แต่ถ้าวัดกันจริงๆใครจะหยุดพี่แกได้ก็คงยากเหมือนกันสำหรับแซมบ้า

กุหลาบเกมดีขึ้นอีก
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ยิ่งเล่นตอนนี้เหมือนกับว่าแบล็คเบิร์นจะทำได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะแดนกลางที่ครองบอลได้ดีกว่าเดิม แถมทุกครั้งที่บอมบ์เข้าไปในกรอบเขตโทษก็สร้างความเสียงซ่านได้น่าดู

บังจิ้มไม่ผ่านมือบันน์
นาทีที่ 44 โอกาสแบบจะๆของแมนฯยูไนเต็ดเพิ่งจะมาได้จากจังหวะที่เอฟร่าเติมขึ้นไปโยนเข้าในกรอบเขตโทษ บอลหล่นลงที่นานี่ก็จริง แต่เหมือนจะใกล้ตัวไปนิด ปีกอาบังเลยต้องยิงแบบจิ้มพยายามให้หนีมือบันน์ที่สุด แต่นายทวารแบล็คเบิร์นก็ยังบินปัดออกไปได้ไม่มีพลาด

แม้จะพยายามบุกกดดันในช่วงเวลาที่เหลือ แต่แมนฯยูไนเต็ดก็ไม่สามารถทำประตูตีเสมอแบล็คเบิร์นได้ โดนนำอยู่ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง

แมนฯยูไนเต็ดปรับแท็คติกด้วยการถอดเอาเอร์นานเดซออกและส่งอันแดร์สันลงไปเล่นแทน เพื่อที่จะผนึกกำลังในแดนกลางให้มากขึ้นกว่าเดิม

ผีโคตรช็อก!ยาคูบูเบิ้ลเม็ดสอง
เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่กี่นาที แบล็คเบิร์นก็ทำช็อกแฟนบอลด้วยการทำประตูที่สองนำห่างไปอย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่คาร์ริคสกัดไม่ได้และโจนส์เองก็เข้าปะทะไม่ดีพอ ทำให้ยาคูบูหลุดเข้าไปดวลเดี่ยว ก่อนที่จะซัดผ่านเด เกอาเข้าไป ทำให้ให้ทีมเยือนนำห่าง 2-0

เขี่ยปุ๊บได้ปั๊บ!พี่เบิร์บแก้ตัวตีไข่แตก
นาทีที่ 52 แมนฯยูไนเต็ดฉวยโอกาสในจังหวะที่แบล็คเบิร์นชะล่าใจ เขี่ยแล้วก็ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวา เอ็นซองซี่ไปสกัดบอลไม่ดี ทำให้โดนราฟาเอลเปิดยัดสวนเข้าไป บอลเข้าทางเบอร์บาตอฟที่ตั้งหัวโหม่งส่งบอลเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดฟื้นเร็ว ตามมาเป็น 2-1

แก้ตัวเต็มข้อ!ผีคัมแบ็คตีเจ๊าแล้ว
นาทีที่ 62 จากความผิดพลาดของพีเดอร์เซ่นที่จ่ายบอลขึ้นหน้าไปไม่ดี โดนราฟาเอลโหม่งสวนกลับไปให้กับวาเลนเซียกระชากขึ้นไปเปิดเข้ากลาง เบอร์บาตอฟยืนเข้าตำแหน่งพอดิบพอดีแปบอลผ่านเข้าไปนอนกองอยู่ก้นตาข่ายสำเร็จ แมนฯยูไนเต็ดตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ

ผีบุกกดดันหนัก
ในช่วงที่โมเมนตั้มหันมาทางพวกเขาแบบนี้ แมนฯยูไนเต็ดก็ไม่พลาดที่จะเปิดเกมบุกใส่แบล็คเบิร์นแบบไม่ให้ตั้งตัว แต่มาถึงตอนนี้ทีมเยือนก็ยังถือว่านิ่งใช้ได้ เพราะกันเอาไว้ได้หมดและได้สวนอยู่เนืองๆด้วย

กุหลาบยังยันอยู่
เกมกำลังจะเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ไม่รู้ว่าชะตากรรมของแมนฯยูไนเต็ดจะเหมือนลิเวอร์พูลในเกมที่แล้วหรือไม่ เพราะพยายามบุกเท่าไหร่ก็เจอเกมรับอันเหนียวแน่นของแบล็คเบิร์นยันเอาไว้แบบสุดตัว เอะเอะสกัดเอะอะเตะมุมตลอด

เด เกอาโดนแล้ว!โดนฤทธิ์เซ็ตพีชตูม
นาทีที่ 80 พอดีการออกไปตัดบอลของเด เกอาที่ง่องแง่งมาตลอดทั้งเกม ก็มาเผยไต๋ความผิดพลาดเต็มที่จนได้ เมื่อเด เกอาออกไปตัดบอลไม่ถึง โดนเฮนลี่ย์โถมเข้าไปโหม่งจังหวะแรกได้ ก่อนที่จะใช้ความสูงใช้เทคตัวซ้ำดาบสอง ส่งบอลเข้าประตูไปเน้นๆ แบล็คเบิร์นกลับขึ้นมานำอีกครั้งเป็น 3-2

ผีเวลาเหลือน้อยแล้ว
เวลายิ่งหายไปมากขึ้นทุกที ความกดดันที่สูงเพิ่มขึ้นไปอีกสำหรับเจ้าบ้านที่ไม่อยากจะต้องพ่ายแพ้คาบ้านของตัวเองให้กับทีมบ๊วยในวันสิ้นปีนี้

ช็อกเลยจริงๆในนาทีสุดท้าย เมื่อแมนฯยูไนเต็ดมีโอกาสได้ตีเสมอจากลูกยิงซ้ำของโจนส์ในกรอบเขตโทษ แต่เหมือนบอลจะไปติดคีนดาวรุ่งที่เพิ่งลงมาในครึ่ง ทำให้พลาดได้ประตู โดนแบล็คเบิร์นเอาชนะ 3-2 แบบสุดช็อกจริงๆ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอดที่จะขึ้นนำเป้นจ่าฝูงไป เพราะแมนฯซิตี้เตะวันพรุ่งนี้ ส่วนแบล็คเบิร์นก็สามารถเก็บสามคะแนนนอกบ้านได้สำเร็จเป็นเกมแรกเลยด้วย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
ดาวิด เด เกอา 4.5, ฟีล โจนส์ 4.5, ไมเคิ่ล คาร์ริค 4.5, ปาทริซ เอฟร่า 6, ราฟาเอล(คีน - น.86), ปาร์ค จี ซุง 5.5, นานี่ 5, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 7, แดนนี่ เวลเบ็ค 5, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 5(อันแดร์สัน 5 น.45), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 8

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, พอล พ็อกบา, มาเม่ บิราม ดิยุฟ, เอเซเกียล ฟรานเออร์ส, ลาร์เนลล์ โคล

แบล็คเบิร์น : มาร์ค บันน์ 6.5, แกรนท์ แฮนลี่ย์ 7.5, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า 7.5, อดัม เฮนลี่ย์ 7, เจสัน โลว์ 5, ราโดซาฟ เปโตรวิช 6,สตีเว่ เอ็นซองซี่ 7, มอร์เท่น กัมส์ป พีเดอร์เซ่น 5, รูเบน โรชิน่า 6(มอร์ริส 6.5 น.55), ยาคูบู อเยกเบนี่ 8.5*(สลูว์ - น.90), เมาโร ฟอร์มิก้า 6(กู้ดวิลลี - น.85)

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : นิค แบล็คแมน, ไซม่อน วุคเซวิช, อมิเน่ คูอัมบ้า, แจ็ค คีน



















_________________

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์