กิ๊กส์ เบิ้ล รูน ปิดกล่องนำผีเปิดบ้านถลุงเดอะบลูส์ 3-0

กิ๊กส์ เบิ้ล รูน ปิดกล่องนำผีเปิดบ้านถลุงเดอะบลูส์ 3-0

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2549 00:02 น.

ไรอัน กิ๊กส์ เหมาสองประตูบวกกับลูกยิงปิดกล่องของ เวย์น รูนี่ย์ ทำให้ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านถลุง เดอะ บลูส์ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไปได้อย่างง่ายดาย 3-0 พร้อมกับทวงอันดับ 2 ของตารางคืนมาจาก หงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ

ฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หวังพาแมนฯ ยูไนเต็ด ทำคะแนนแซงหน้า ลิเวอร์พูล กลับไปรั้งอันดับ 2 อีกครั้ง เกมนี้ไม่ปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นอะไรมากนักคู่หน้ายังให้ เวย์น รูนี่ย์ ประสานงานกับ หลุยส์ ซาฮา ต่อไปแผงมิดฟิลด์มี ไรอัน กิ๊กส์ ปั้นเกมแดนกลาง ส่วนแนวรับ เนมันย่า วิดิช ได้โอกาสลงมายืนคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ โดยมี แกรี่ เนวิลล์ ปักหลังแบ็กขวาและก็เป็นการลงสนามนัดที่ 500 ของเขาพอดิบพอดี

ด้าน สตีฟ บรูซ มาเยือนถิ่นเก่าในฐานะกุนซือ เบอร์มิงแฮม ซึ่งมีงานหนักในการลุ้นพาทีมลุ้นหนีการตกชั้น และเกมนี้ก็ประสบปัญหาพอสมควรเมื่อ แม็ทธิว อัพสัน กองหลังตัวหลักบาดเจ็บต้องส่ง มาร์ติน ลัตก้า ลงมาจับคู่กับ เคนนี่ คันนิ่งแฮม แดนกลางมี ยิริ ยาโรซิก คอยคุมจังหวะส่วนคู่หน้า ดัดลี่ย์ แคมป์เบลล์ ได้โอกาสยืนจับคู่กับ เอมิล เฮสกี้

เริ่มเกมการแข่งขันไปแค่ 3 นาทีเหล่า เร้ด เดวิลส์ ได้เฮกันตั้งแต่หัววันเมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาและ กิ๊กส์ ก็ปั่นด้วยซ้าย เทย์เลอร์ บินปัดไปชนเสากระเด้งมาโดนหลังของเขาเข้าประตูไปอย่างโชคร้ายส่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 พอเสียประตูไปทีมเยือนยังตั้งขบวนไม่ได้แต่มาได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะเช่นกัน เฮสกี้ อาศัยความสูงใหญ่ได้โขกบอลแต่ก็เป็น ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ปัดพ้นเสาแรกออกไปได้ เบอร์มิงแฮม มาได้ลุ้นอีกจังหวะ แคมป์เบลล์ ได้ยิงในกรอบเขตโทษแต่ไปตรงตัวนายทวารเจ้าบ้าน

เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 15 สกอร์กลับไหลเป็น 2-0 สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ดเมื่อ กิ๊กส์ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ รูนี่ย์ ก่อนที่จะเป็นปีกพ่อมดหลุดเข้าไปแปบอลสวนทาง เทย์เลอร์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย ผ่านครึ่งชั่วโมงเจ้าบ้านหันมาเล่นเกมช้าเน้นความแน่นอนเป็นหลัง ส่วนทีมเยือนโอกาสทำเกมรุกเพื่อลุ้นทำประตูคืนยังไม่มีมากนัก

แต่เมื่อเจ้าถิ่นได้ตอบโต้ขึ้นไปก็เกือบได้ประตูทิ้งห่างเมื่อ กิ๊กส์ แทงทะลุให้ รูนี่ย์ หลุดเข้าไปยิงบอลเฉียดเสาไกลออกไปนิดเดียว จังหวะถัดมา ริชาร์ดสัน กระดกให้ รูนี่ย์ ได้หลุดเข้าไปยิงอีกครั้งแต่บอลก็ไม่ตรงกรอบอีก เข้าสู่ช่วงท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทำการเปลี่ยนตัวเอา ปาร์ค จี ซอง ลงมาเล่นแทน ริชาร์ดสัน ซึ่งโดนเสียบหนักโดย ยาโรซิก ถึงขั้นเล่นต่อไม่ไหวต้องออกจากสนามไป จบ 45 นาทีแรก สกอร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

เปิดฉากกลับมาเล่นในครึ่งเวลาหลัง เบอร์มิงแฮม ยังพยายามตั้งเกมของตัวเองให้ได้พอมีจังหวะทำเกมบุกบ้างกลับไปเสียบอลในจังหวะสุดท้ายทุกครั้ง ด้านแมนฯ ยูไนเต็ด สกอร์ที่นำด้วยความต่างสองประตูทำให้พวกเขาเล่นงาน เน้นไม่ให้พลาดง่ายเป็นหลัก ผ่านหนึ่งชั่วโมงเจ้าถิ่นได้จังหวะเปิดเกมบุกอีกครั้งเพื่อเอาใจแฟนๆ ทั้งกิ๊กส์ และโรนัลโด้ ได้เปิดบอลฉวัดเฉวียนไปหน้าประตูแต่ ซาฮา ยังเข้าไปถึงบอล

ทีมเยือนมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกบนกรอบเขตโทษ คลีเมนซ์ ลักไก่ยิงเร็วด้วยซ้ายแต่บอลปั่นไปโดนกำแพงมนุษย์ของเจ้าบ้านที่กระโดดบล็อกกระดอนออกหลังไป เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เฟอร์กี้ ให้โอกาสแก่ รุด ฟาน นิสเตลรอย ซึ่งโดนดร็อปเป็นตัวสำรองมา 5 นัดติดได้ลงมาเล่นแทน ซาฮา ที่ทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าใดนัก ช่วงท้ายทีมเยือนพลาดโอกาสเมื่อ ยาโรซิก ตบบอลมาให้ เฮสกี้ ยิงโล่งๆ แต่ส่งบอลขึ้นฟ้า

เมื่อเบอร์มิงแฮมทำไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยตอกย้ำด้วยประตู 3-0 เมื่อ ฟาน เดอร์ ซาร์ เปิดเกมก่อนที่ โรนัลโด้ จะโขกต่อให้ รูนี่ย์ หลุดเข้าไปยิงบอลเสียบตาข่ายในนาทีที่ 83 ทีมเยือนพยายามฮึดตีไข่แตกแต่ลูกซ้ำจ่อๆ ของ คลีเมนซ์ ไปติดเซฟของนายทวารเจ้าถิ่นอีก ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยไปได้อย่างขาดลอย พร้อมกับขึ้นไปรั้งอันดับ 2 โดยมีอยู่ 66 คะแนนจากการลงสนาม 30 นัด ส่วนเบอร์มิงแฮม กองอยู่อันดับ 18 ดังเดิมมีอยู่เพียง 24 คะแนน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี่ เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันย่า วิดิช , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , จอห์น โอเชีย , ไรอัน กิ๊กส์ , คีแรน ริชาร์ดสัน , เวย์น รูนี่ย์ , หลุยส์ ซาฮา

เบอร์มิงแฮม : ไมค์ เทย์เลอร์ , มาริโอ เมลช็อต , เคนนี่ คันนิ่งแฮม , มาร์ติน ลัตก้า , สแตน ลาซาริดิส , เจอร์เมน เพนแนนท์ , ยิริ ยาโรซิก , เดเมี่ยน จอห์นสัน , สตีเฟ่น คลีเมนซ์ , ดัดลี่ย์ แคมป์เบลล์ , เอมิล เฮสกี้

ผลการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์

มิดเดิลสโบรช์ 4-3 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : สเตลิออส ยานนาโคปูลอส (น.4) , 1-1 : จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ (จุดโทษ น.8) , 2-0 : มาร์ค วิดูก้า (น.30) , 3-1 : จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ (น.47) , 3-2 : เจย์ เจย์ โอโคชา (น.57) , 3-3 : ราดี้ จาอิดี้ (น.81) , 4-3 : สจ๊วร์ต พาร์นาบี้ (น.90)]

ชาร์ลตัน แอธเลติก 3-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
[1-0 : ดาร์เรน เบนท์ (จุดโทษ น.24) , 1-1 : สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ (น.35) , 2-1 : ลี โบว์เยอร์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.36) , 3-1 : เจย์ โบธรอยด์ (น.89)]

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 เบอร์มิงแฮม ซิตี้
[1-0 : ไรอัน กิ๊กส์ (น.3) , 2-0 : ไรอัน กิ๊กส์ (น.15) , 3-0 : เวย์น รูนี่ย์ (น.83)]

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์