การกลับมาของ เดอะ คิง อีกคน

src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/110120E8T81250.jpg


 


ต้นเดือนที่ผ่านมา สาวก เดอะ ค็อป ได้เห็นการคืนสู่ลีกอังกฤษอีกครั้งของ คิง เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานของสโมสร หงส์แดง ลิเวอร์พูล ซึ่งกลับมาคุมทัพจนจบฤดูกาลนี้ ล่าสุด เอริค คันโตน่า เจ้าของฉายา คิง อีกคน ก็ได้ คัมแบ๊ก มาโลดแล่นในแวดวงลูกหนังกับเขาเช่นกัน 



ตำนานแข้ง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของ นิวยอร์ก คอสมอส อดีตสโมสรชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ช่วงทศวรรษ 70-80 เพื่อช่วยต้นสังกัดสร้างทัพขึ้นใหม่เพื่อเข้าแข่งขัน เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ หรือ เอ็มแอลเอส ให้ทันภายใน 2 ปีข้างหน้า ก่อนกลับมาเป็นหนึ่งในทีมที่ดีสุดของโลกอีกครั้ง งานนี้ถือว่าท้าทายมาก เพราะอดีตแชมป์ลีกอเมริกาเหนือ (เอ็นเอแอลเอส) 5 สมัย (1972, 1977, 1978, 1980, 1982) แห่งนี้ ยุบสโมสรไปนาน 26 ปี แม้ทำงานเป็นทีมอิสระด้วยการตั้งทีมเยาวชน เพื่อให้ชื่อคอสมอสไม่ล้มหายไปพร้อมกับลีกดังกล่าว

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110120I9S3S.jpg
เดอะ คิง เอริค คันโตน่า กับบัลลังก์ในสโมสร นิวยอร์ก คอสมอส
 



ชื่อคอสมอสถูกขายในปี 2009 ให้องค์กรใหม่ที่มี เปเล่ อดีตกองหน้าเจ้าตำนานชาวบราซิล เป็นประธานกิตติมศักดิ์ ซึ่งได้ประกาศตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2010 แล้วว่าสโมสรที่เขาเคยเล่นให้แห่งนี้จะหวนคืนสู่ถิ่นนิวยอร์กอีกครั้ง เพราะเอ็มแอลเอสต้องการขยายลีกเช่นกัน โดยมีการเจรจาระหว่างหน่วยงานต่างๆในเมืองดังกล่าว รวมทั้งเจ้าของสโมสร นิวยอร์ก เร้ด บูลล์ส ทั้งในอดีต และปัจจุบัน กลุ่ม 2002 ที่นำโดยเปเล่มีแผนการ 2 อย่าง คือสร้างทีมใหม่ หรือให้คอสมอสเป็นทีมรวมดาราเฉพาะกิจ เดินสายแข่งทั่วไปเหมือนทีมบาสเก็ตบอล ฮาร์เลม โกล๊บทร็อตเตอร์ส แต่การเคลื่อนไหวเพื่อตั้งคอสมอสขึ้นใหม่ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก เพราะมีการเตรียมให้ แวนคูเวอร์ ไว้ท์แคปส์ หรือ ซีแอตเติ้ล ซาวเดอร์ส อดีตสมาขิกเอ็นเอแอลเอส กลับเข้ามาแข่งเอ็มแอลเอสเช่นกัน 



โครงการณ์เป็นรูปเป็นร่างเกิดขึ้นตั้งแต่ พอล เคมสลี่ย์ อดีตรองประธานสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อ และภาพลักษณ์ของคอสมอส มาจาก จี. เป๊ปเป้ ปินตัน อดีตผู้จัดการทั่วไปของคอสมอส เมื่อ 29 สิงหาคม 2009 และกลายเป็นประธานสโมสรคนล่าสุด หลังจากนั้นพวกเขาก็ร่วมมือกับทีมท้องถิ่น ตั้งศูนย์เยาวชนขึ้นมาในย่านควีนส์ เพื่อสร้างทีมอายุต่ำกว่า 12-18 ปี โดย โจวานนี่ ซาวาเรเซ่ อดีตกองหน้าทีมชาติเวเนซูเอล่า ของสโมสร นิวยอร์ก-นิวเจอร์ซี่ย์ เมโทรสตาร์ส วัย 40 ปี เป็นผู้อำนวยการ เน้นพัฒนาดาวรุ่งที่มีความสามารถจากละแวกนิวยอร์ก ขณะ เท็ด โครโนปูลอส อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสหรัฐฯ ของสโมสร นิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น วัย 38 ปี ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เยาวชนสาขาตะวันตกอีกด้วย

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110120A3P1R.jpg
ก็องโต้พร้อมมาพลิกโฉมวงการลูกหนังเมืองมะกันให้กลับมาบูมเหมือนอดีตอีกครั้ง
 



หน้าที่ของคันโตน่าในวัย 44 ปี คือการช่วยประกอบทีมขึ้นมาใหม่ร่วมกับ โคบี้ โจนส์ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสหรัฐฯ วัย 40 ปี ซึ่งลาออกจากการเป็นผู้ช่วยโค้ช ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ มารับงานรองผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา นอกจากนั้นคอสมอสยังแต่งตั้ง เทอร์รี่ เบิร์น อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ เดวิด เบ็คแฮม อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ เป็นรองประธานสโมสร, ริค แพร์รี่ อดีตประธานคณะผู้บริหาร ลิเวอร์พูล เป็นประธานกรรมการ และ จอร์โจ้ คินาเยีย อดีตผู้เล่นคอสมอสยุคปี 1976-83 เป็นฑูตนานาชาติของสโมสร แถมมีข่าวว่าเบ็คแฮม อดีตเพื่อนร่วมค่าย ปีศาจแดง ของคันโตน่า อาจมารับตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของคอสมอส หลังหมดสัญญากับแกแล็กซี่ ช่วงเดือน ก.ค. 2012 ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเหล่าสตาฟฟ์โค้ช รวมถึงผู้เล่นในทีมคอสมอสยุคใหม่ จะมีใครบ้าง แต่คงไม่ใข่ธรรมดาแน่นอน 



ในอดีตคอสมอสเต็มไปด้วยสุดยอดของการที่ขนมาโชว์ฝีมือกันตลอดอายุ 14 ปีของสโมสร นำโดย เปเล่ (1975-77) เจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย ผู้ซึ่งต้นสังกัดต้องยกเลิกเสื้อหมายเลข 10 ไปเลย เขาและ ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ กัปตันทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลกปี 1974 ช่วยให้คอสมอสคว้าแชมป์ลีกอเมริกาเหนือปี 1977 แต่ แดร์ ไกเซอร์ อยู่คอสมอส 4 ปี (ไม่ต่อเนื่องกัน) พาต้นสังกัดคว้าแชมป์อีกในฤดูกาล 1977–78, 1979–80 ต่อมามีทั้ง โยฮัน นีสเกนส์ (1979–84) มิดฟิลด์ กับ วิม ไรส์เบอร์เก้น (1979–83) กองหลัง สองแข้งทีมชาติฮอลแลนด์ชุดรองแชมป์โลกปี 1974 และ 1978, สตีเฟ่น ฮันท์ (1982) อดีตปีกทีมชาติอังกฤษ, วลาดิสลาฟ สมูด้า (1973–86) ตำนานนักเตะทีมชาติโปแลนด์, ฮูลิโอ เซซาร์ โรเมโร่ มิดฟิลด์ และ โรเบร์โต้ กาบานยาส กองหน้า สองตำนานของทีมชาติปารากวัย (1980-84)

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110120J2P2R.jpg
สมัยก่อนคอสมอสมีตำนานลูกหนังโลกอย่าง เปเล่ (เบอร์ 10) นำทัพ
 



ส่วนโค้ชมี กอร์ดอน แบร็ดลี่ย์ โค้ชชาวอังกฤษ ซึ่งต่อมาได้คุมทีมชาติสหรัฐ ช่วยคอสมอสครองแชมป์ลีกอเมริกาเหนือครั้งแรกเมื่อปี 1972 และอยู่ในตำแหน่งนานสุด 4 ปี, เอ็ดดี้ เฟอร์มานี่ อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลี ผู้เคยเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน และ ซามพ์โดเรีย ซึ่งคุมคอสมอสถึง 2 ช่วง พาทีมคว้าแชมป์ปี 1978, ฮันเนส ไวส์ไวเลอร์ ตำนานโค้ชเยอรมันที่เป็นแชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย พาทีมคว้าแชมป์ปี 1980 และ ฮูลิโอ มัซไซ ผู้ดึงเปเล่มาคอสมอส ก่อนได้คุมทีมปี 1980 กับ 1982-83 ช่วยให้ซิวแชมป์ 1982 



ก็องโต้ ไม่เคยคุมทีม หรือเป็นผู้บริหารค่ายใดมาก่อน ยกเว้นควบตำแหน่งผู้เล่น-โค้ชทีมฟุตบอลชายหาดของฝรั่งเศส ครอบครัวของเขาก็ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับงานด้านนี้ อัลแบร์ พ่อของเขา คือบุรุษพยาบาลผู้ป่วยโรคจิต และนักวาดภาพจากซาร์ดิเนีย ส่วนแม่ต้องลี้ภัยจากเมืองบาร์เซโลน่า เพราะเข้าร่วมขบวนการต่อต้านนายพลฟรังโก้ ระหว่างสงครามกลางเมืองของสเปน สายเลือดพ่อแม่ที่ผสมผสานกับมาร์กเซย ที่มีชื่อเรื่องปัญหาอาชญากรรม แถมมี บรู๊ซ ลี เป็นฮีโร่ อธิบายความเป็นขบถในตัวคันโตน่าอย่างดี เขาเริ่มต้นอาชีพนักเตะกับ โอแซร์ เคยถูกปรับจากการชกหน้า บรูโน่ มาร์ตินี่ เพื่อนร่วมทีม จนถูกปล่อยจให้ มาร์ติกส์ ยืมตัว เคยเตะบอลทิ้งขึ้นอัฒจันทร์ และฉีกเสื้อแข่งจนขาดหลังถูกเปลี่ยนตัวออก มาร์กเซย จึงสั่งแบน 1 เดือน ช่วงนั้นเลยต้องพเนจรไปอยู่ บอร์กโดซ์, มงต์เปลลิเย่ร์ และ นีมส์ แถมถูกแบนจากทีมชาติฝรั่งเศส 1 ปี เพราะให้สัมภาษณ์ถึง อองรี มิเชล กุนซือ “ตราไก่” เวลานั้นว่าเป็น “พวกสมองกลวง” ปี 1991 เขาโดนแบน 1 เดือนจากการขว้างบอลใส่ผู้ตัดสิน ระหว่างชี้แจงกับคณะกรรมการวินัยสหพันธ์ฟุตบอล เขายังด่าประธานที่พิจารณาคดี และคณะกรรมการแต่ละคนว่า “ไอ้พวกโง่” ทำให้ถูกลงโทษเพิ่มเป็น 2 เท่า
 
src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110120F8P5L.jpg
การอยู่กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้ ผีแดง ประสบความสำเร็จ และเจ้าตัวได้ประสบการณ์ดีๆเช่นกัน
 



การระเห็จมาอังกฤษทำให้คันโตน่าได้คำชมมากขึ้น หลังคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย เอฟเอ คัพ 2 ครั้ง รวมทั้ง แชริตี้ ชีลด์ อีก 4 หน กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นผู้เล่นแห่งปี 1996 ของสมาคมนักข่าวฟุตบอลอังกฤษ และปี 1994 จากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ คว้าตำแหน่งผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ และติดทีมยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษของพรีเมียร์ลีก แต่เขาก็ยังกระโดดกังฟูใส่แฟนบอล คริสตัล พาเลซ จนโดนปรับเงิน 20,000 ปอนด์จาก ปีศาจแดง และสมาคมฟุตบอลอังกฤษ แบนถึง 8 เดือน 



การแสดงถือเป็นงานหลักของคันโตน่า นับตั้งแต่เขาเลิกเล่นฟุตบอล เมื่อปี 1997 ถึงจะทำหลายอย่างได้ดีเช่น วาดรูป หรือถ่ายภาพ (ภาพถ่ายสู้วัวกระทิงของเขาถูกนำออกแสดงในนิทรรศการหลายแห่ง) และเพราะงานแสดงนี่เองทำให้คันโตน่าเลิกกับ อิซาแบลล์ ภรรยาคนแรก ซึ่งมีลูกด้วยกัน 2 คน ราฟาเอล และ โจเซฟีน เพื่อไปแต่งงานใหม่กับ ราชิด้า บราคนี่ นักแสดงสาวเชื้อสายแอลจีเรีย ที่เคยร่วมงานกันในเรื่อง โลเทรม็องเชอร์ ปัจจุบันคันโตน่ามีผลงาน 16 เรื่อง

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110120F7T1R.jpg
ที่ผ่านมาไปเล่นภาพยนตร์เสียจนได้ ราชิด้า บราคนี่ ดาราสาวมาเป็นภรรยาใหม่
 



การมาสหรัฐฯคราวนี้ คอสมอสน่าจะใช้ชื่อเสียงของคันโตน่า ในการดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชน, สปอนเซอร์, แฟนบอล และเด็กๆที่อยากเก่งเหมือนเขา ส่วนประสบการณ์ที่อยู่มาแล้วหลายสโมสร เขาก็คงช่วยแนะนำต้นสังกัดใหม่ได้บ้าง แม้อาจไม่มีความเข้าใจระบบการแข่งขันในสหรัฐฯก็ตาม แต่สิ่งได้แน่ๆคือเอ็มแอลเอส กลับมาเป็นที่สนใจของหลายฝ่ายอีกครั้ง หลังจากดึงเบ็คแฮม และ เธียร์รี่ อองรี มาแล้ว แต่กระแสความนิยมของลีกแห่งนี้ก็เหมือนไม่ได้ดีขึ้นเลย 



กระทั่ง คิง เดินทางมาถึง ทุกอย่างจึงเริ่มฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์