RVP สุดยอดแฮทริก!ผีซิววิลล่า 3-0 เถลิงแชมป์ลีกสมัยที่ 20

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 เป็นประวัติศาสตร์ของยิ่งใหญ่ของสโมสร เมื่อโรบิน ฟาน เพอร์ซี่จัดการระเบิดแฮทริกสุดเมพในครึ่งแรกรวดเดียว ส่งให้ชนะแอสตัน วิลล่า 3-0 เป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีกสมัยที่ 13 ทั้งที่เหลือเกมให้เล่นอีกถึง 4 นัด

พรีเมียร์ ลีก

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2556


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 - 0 แอสตัน วิลล่า

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตู :
1-0 ฟาน เพอร์ซี่ น.2, 2-0 ฟาน เพอร์ซี่ น.13, 3-0 ฟาน เพอร์ซี่ น.33

ท่ามกลางแฟนบอลมากมายที่เข้ามาชมเกมในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะกลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 13 และแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ทันทีที่พวกเขาได้ชัยชนะในเกมกับวิลล่านี้

"ปีศาจแดง" โดยเฟอร์กูสันจัดเต็มสุดๆ วางฟาน เพอร์ซี่ที่กลับมายิงได้แล้วในแดนหน้า โดยมีคากาวะยืนหน้าต่ำและรูนี่ย์กับบทบาทใหม่เป็นกองกลางให้ทีม

กองหลังมีการปรับเอาอีแวนส์ลงยืนคู่กับโจนส์ที่เกมนี้ได้เล่นตำแหน่งธรรมชาติของตัวเองสักที

วิลล่าแม้ว่า 2 เกมหลังจะเก็บได้ 4 คะแนน แต่กการมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ดนี่ต้องบอกว่าหินเอามากๆที่จะคว้าแต้มออกไป โดยเฉพาะกับการที่เจ้าบ้านเตรียมฉลองแชมป์แบบนี้

แลมเบิร์ตคงต้องหวังพึ่งเบนเทเก้ในการสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับ "ปีศาจแดง" โดยมีอักบอนลาฮอร์อีกคนที่สมัยก่อนพี่แกยิงแมนฯยูไนเต็ดได้บ่อยๆ

ครึ่งแรก

ป๋ายิ้มแป้น!ผีเตะ 2 นาที RVP ซัดเลย
จะรอนานไปใย เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็กำนัลแฟนบอลที่มาเบียดกันเต็มสนามด้วยประตูขึ้นนำเลย จากจังหวะที่วาเลนเซียป้ายบอลคืนให้ราฟาเอลที่เติมมาเปิดโด่งยาว เหมือนจะลึกไป แต่กิ๊กส์ตามไปเก็บตกก่อนใช้ลูกเก๋าตวัดบอลเข้ากลางผ่านหน้าประตู ไปถึงเสาสองที่มีฟาน เพอร์ซี่รอสังหารซัดด้วยซ้ายเข้าไปไม่มีเหลือ แมนฯยูไนเต็ดขึ้นนำ 1-0RVP โหม่งชงแต่ชินจิยิงติด
นาทีที่ 9 เกือบจะเป็นยอดฟอร์มทั้งยิงทั้งจ่ายไปแล้วสำหรับฟาน เพอร์ซี่ที่ไปรองบอลเปิดของกิ๊กส์เสาสองที่เดิม ก่อนจะโขกชงกลับเข้ากลางให้กับคากาวะหวังปั้นเพื่อนให้ได้ซัดเหน่ง แต่ฟลาร์ดันโล่มาสกัดบล็อกไว้ก่อน

คึกเฟ่อร์!หย๋อยเติมมาซัดชนเสา
เกมต่อเนื่องสุดๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่บุกกดดันไม่หยุด ต่อด้วยจังหวะที่ราฟาเอลเติมเกมขึ้นมาสูง แล้วสบโอกาสว่ามีช่องหว่างจากการเก็บตกบอลนอกกรอบเลยซัดแบบเฉือนๆด้วยขวา บอลพุ่งโค้งจะเสียบตาข่ายอยู่แล้ว แต่กลับชนเสาไกลซะก่อน

เขากลับมาจริงๆ!RVP วอลเล่ย์ระดับโลกผีนำ 2-0
แอสตัน วิลล่าเกือบจะได้จากเบนเทเก้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องมาเจอลูกยิงระดับโลกของฟาน เพอร์ซี่ที่เขาเคยทำได้เมื่อซีซั่นที่แล้วกับอาร์เซนอล เพราะรูนี่ย์ตักบอลโด่งยาวจากกลางสนามมาให้ฟาน เพอร์ซี่วิ่งวัดกับกองหลัง ก่อนที่จะง้างตีนชาร์จพลังรอแล้วซัดวอลเล่ย์ตูมเดียว บอลเข้าข้อพุ่งแหวกอากาศไปเสียบซุ้บที่เสาไกลสวยจนกุซานต้องจำนน แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 2-0

ผีเกมเบาลงเยอะ
หลังจากได้ประตูนำห่างถึง 2-0 แน่นอนว่าเครื่องของแมนฯยูไนเต็ดต้องผ่อนลงไปกว่าเดิมเยอะพอสมควร ตอนนี้เป็นทีของวิลล่าที่ได้ครองบอลบุกใส่ ทำให้ต้องลงไปช่วยเกมรับกันอยู่หลายคน เกมบุกหายไปในช่วงก่อนจะเข้าครึ่งชั่วโมงของนัดนี้

โคตรสุดตีน!RVP ระเบิดแฮทริกส่งผีแชมป์
นาทีที่ 33 ไอ้ 10 นัดที่เคยฝืดลืมไปหมดได้เลย เมื่อฟาน เพอร์ซี่มาทำแฮทริกของเขาในเกมนี้ได้ จากจังหวะสวนกลับของแมนฯยูไนเต็ด แม้ว่าจังหวะที่เพื่อนจิ้มบอลให้ในเขตโทษดูเหมือนจะกึ่งๆว่าอาจจะล้ำหน้า แต่เขาก็แตะบอลแต่งหนีกองหลังวิลล่าได้งาม ก่อนที่จะตะวัดยิงเสียบสามเหลี่ยมหนีบล็อกของกองหลังสุดเป๊ะ แมนฯยูไนเต็ดนำ 3-0 พร้อมแฮทริกของยอดดาวยิงเลือดดัตช์

แก๊บบี้ได้ยิงเฉี่ยวไปเหมือนกัน
นาทีที่ 41 ปล่อยให้โดนท่าเดียวแบบไม่ได้ลุ้นเลยก็จะเกินไปหน่อย วิลล่าพยายามปั้นเกมไปกดดันแมนฯยูไนเต็ด ก่อนที่อักบอนลาฮอร์จะมีโอกาสตวัดยิงนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลมันพุ่งหลุดออกหลังไป

จบ 45 นาทีแรกลงไปพร้อมกับการเป็นพระเอกที่โดดเด่นกว่าใครทั้งปวงของฟาน เพอร์ซี่ที่ซัดแฮทริกส่งให้แมนฯยูไนเต็ดนำห่าง 3-0 และกำลังจะเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ของพวกเขา หากว่าไม่ก่อความผิดพลาดในครึ่งหลังแบบน่าเกลียด

ครึ่งหลัง

ลามะกลัวไม่สนุก?พลาดซะเพื่อนเสียว
ลงไปเล่นครึ่งหลังได้ 4 นาทีกลายเป็นว่าเกมที่ไม่มีอะไร เด เกอากลับมาทำให้มีเฉย เพราะจังหวะที่วิลล่าครอวบอลเข้ากลางดูแล้วไม่มีอะไร แต่นายด่านสแปนิชออกไปคว้าบอลพลาดจนทำให้ราฟาเอลต้องเตะสกัดออกหลัง เป็นเหตุให้โดนเล่นลูกเตะมุมที่วิลล่าได้โหม่งลุ้นประตู ยังดีมีฟาน เพอร์ซี่ลงไปยืนคุมเส้นโขกทิ้งออกมาได้อีก ทั้งยิงทั้งป้องกันเลยทีเดียว
ผีชักจะเหนือยจนป๋าต้องออกมาดุ
ไปๆมาๆชักจะเข้าฟอร์มเดิมอีกแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่เครื่องดับไปดื้อๆ เกมรุกแทบไม่เห็น แถมยังก่อความผิดพลาดในแนวรับจนเกือบโดนเบนเทเก้ซัดเอา ยังดีที่เด เกอาล้มตัวเซฟได้ แต่ก็ยังไม่พ้นจากการกดดัน

เกมเป็นของวิลล่าล้วนเลย
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกมไปนี่ แมนฯยูไนเต็ดยังหาจังหวะทำเกมรุกของตัวเองไม่ค่อยจะได้เลย มีแต่ต้องคอยสกัดเกมรุกของวิลล่า แต่ทีมเยือนเองก็ยังขาดประสิทธิภาพที่แน่นอน เบนเทเก้พยายามจะเล่นกับเพื่อนแต่ดูจะไม่เข้าใจกันอยู่หน่อยๆ

ไวมันน์ทั้งไม่ยิงทั้งไม่จ่าย
นาทีที่ 67 จริงๆน่าจะทำได้ดีกว่านี้สักหน่อยสำหรับจังหวะของไวมันน์ที่กองหลังแมนฯยูไนเต็ดพลาดกันไปแล้ว ทำให้เขาได้สวนบอลขึ้นหน้าก่อนที่จะปาดเข้ากลาง แต่กลายเป็นระยะมันไม่ได้ทั้งจ่ายให้เพื่อนหรือยิง อดไปเลย

หมูออก?ป๋าส่งโก๋แดนลงเล่น
นาทีที่ 72 ไม่รู้ว่ามีเหตุอะไรหรือเปล่า แต่เฟอร์กูสันก็เลือกเปลี่ยนตัวเอารูนี่ย์ออกไปจากสนาม พร้อมกับท่าทางเซ็งๆของเจ้าตัวที่คงอยากจะอยู่จนจบเกมได้ฉลองสัมผัสความรู้สึกฉลองแชมป์แบบนี้ ก่อนที่จะส่งเวบเบ็คลงไปเล่นแทน

มีแอบเสียว!ลามะต้องบินปัดป้อง
อีก 3 นาทีต่อมา หวาดเสียวได้ที่เหมือนกันสำหรับจังหวะซัดไกลของเอล อาห์มาดี้ที่ส่องนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งส่ายก่ะยาก แต่เด เกอาก็ดีดตัวปัดทิ้งข้ามคานไปได้ ลูกยากๆเขาชอบ

ชินจิหมูซูชิหกแบบสุดๆ
นาทีที่ 77 ถ้านี่เป็นลูกตัดสินอะไรแบบนั้นคงโดนด่าเละไปแล้วสำหรับคากาวะที่อุตส่าห์ได้บอลมาจากเพื่อนในเขตโทษ แถมยังหลบกองหลังไปได้สวย เหน่งๆกับกูซานแล้ว แต่เขากลับเอี้ยวตัวหวดด้วยซ้ายข้ามคานไปหน้าตาเฉยเลย น่าเสียดายจริง

ช่วงท้ายเกมก็มีจังหวะยื้อกันไปมา แต่ก็ไม่ได้มีทีมไหนทำประตูเพิ่มเติมแต่อย่างใด จบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 ขึ้นคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ได้สำเร็จดั่งใจหวังด้วย 84 คะแนนที่มีและเหลือเกมให้เล่นอีก 4 นัด เพราะแมนเชสเตอร์ ซิตี้หมดหวังแล้ว

อีกทั้งฟาน เพอร์ซี่ยังมีลุ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดในพรีเมียร์ ลีกอีกด้วย จาก 24 ประตูที่เขาทำได้และนำอยู่ขณะนี้ รวมทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีพีเอฟเอที่น่าลุ้นเอามากๆไม่แพ้กันเลย

ส่วนแอสตัน วิลล่ายังอยู่อันดับที่ 17 มีแต้มห่างโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยังอันตรายมาก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
: ดาบิด เด เกอา, ราฟาเอล, ปาทริซ เอฟร่า
, ฟีล โจนส์, จอนนี่ อีแวนส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เวย์น รูนี่ย์(เวลเบ็ค น.72), ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ชินจิ คากาวะ, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์, อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์, นานี่, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ

แอสตัน วิลล่า : แบรด กูซาน, รอน ฟลาร์, โจเซ็ฟ เบนเน็ตต์(คลาร์ก น.80), เนธาน เบเกอร์, แมทธิว ลอว์ตัน, ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย(เอล อาห์มาดี้ น.45), กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, แอชลี่ย์ เวสต์วูด, ฟาเบียง เดลฟ์, อังเดรียส ไวมันน์, คริสเตียน เบนเทเก้

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เชย์ กิฟเว่น, เบร็ตต์ โฮลแมน, ดาร์เรน เบนท์, ยาคูบะ ซิลย่า, จอร์แดน บาวเวอร์รี่ย์

































เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์