ลิเวอร์พูลอิ่มบุญ

ลิเวอร์พูลอิ่มบุญ

ภาพการเฉลิมฉลองหลังสิ้นเสียงนกหวีดที่แอนฟิลด์บอกเราได้อย่างชัดเจนว่านี่คือความพ่ายแพ้ที่เปรียบเสมือนของฮาวานท์ & วอเทอร์ลูวิลล์และเหนือความคาดหมายแม้กระทั่งแฟนบอลของตัวเองด้วย!!

สำหรับสโมสรที่เพิ่งก่อตั้งสโมสรมาได้เพียงแค่ 10 ปีการขึ้นนำทีมที่อยู่มาก่อนนับร้อยปีและเพิ่งคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ห้าเมื่อเกือบๆสามปีก่อนจึงเป็นสิ่งที่คงหาบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

แค่ประตูแรกตั้งแต่นาทีที่ 8 ก็ทำให้แฟนบอลน้องหมูอ้วนคนนึงถึงกับร้องไห้โฮและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นประตูที่ว่านั้นคือชัยชนะของฮาวานท์ไปเรียบร้อยแล้ว

สองประตูที่ทีมนอกลีกทำได้มาจากความผิดพลาดของนักเตะลิเวอร์พูลทั้งสิ้นโดยลูกแรกมาร์ติน สเคอร์เทลกองหลังค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์ส่งคืนหลังไม่ดีจนเสียเตะมุมก่อนกลายเป็นที่มาของลูกโขกประวัติศาสตร์ของ Richard Pacquette และหลังลูคัส ไลว่าตีเสมอไม่นานสตีฟ ฟินแนนซึ่งเล่นแย่ที่สุดในฤดูกาลนี้จับบอลระดับเบสิกลั่นจนสงเคราะห์ให้สเคอร์เทลมีชื่อทำประตูผิดฝั่งในวันประเดิมfull debut

แต่เมื่อเกมดำเนินไปเรื่อยๆโดยเฉพาะครึ่งเวลาหลังฮาวานท์ซึ่งเล่นแบบใส่ซื่อมีแผนเดียวตามประสาทีมนอกลีกความแตกต่างของทั้งสองทีมก็ชัดเจนมากขึ้นโดยที่ความเป็นนักเตะอาชีพและมือสมัครเล่นคือความสามารถเฉพาะตัวเป็นตัวบ่งชี้ชัยชนะในที่สุด

เอฟเอ คัพรอบสี่ที่แอนฟิลด์จึงเปรียบเสมือนแมทช์การกุศลที่แฟนบอลและนักเตะThe Hawksแฮปปี้กับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ตายแล้วเกิดใหม่ก็อาจไม่ได้สัมผัสส่วนเดอะค็อปนอกจากได้ตั๋วเข้ารอบ 5 ยังรู้สึกอิ่มบุญเพราะทำรายได้ให้ทีมนอกลีกกว่าครึ่งล้านปอนด์และจะเอามาหมุนบริหารทีมได้อีกหลายปี

.....แม้ท้ายที่สุดแล้วเควิน สคริเว่นผู้รักษาประตูกรรมกรต้องกลับมาอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงต่อรายได้ 250 ปอนด์ต่อสัปดาห์หรือต้องทำงาน 9 ปีถึงจะมีรายได้เท่าสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดทำ 7 วันก็ตาม!!!!!

รายละเอียดในเกมผมคงขอผ่านนะครับเพราะบทสรุปของเกมนี้เป็นไปตามความคาดหมายอยู่แล้วแต่ในความรู้สึกของเดอะค็อปซึ่งไม่ได้หลับหูหลับตาเชียร์อาจมีความรู้สึกเสียดายที่โอกาสงามๆแบบนี้พวกดาวรุ่งอย่างเอล ซาร์,แจ็ค ฮอบบ์หรือแม้กระทั่งลินฟิลด์ ฯลฯ กลับไม่มีส่วนร่วมเลย

ถ้าเป็นแมนฯยูไนเต็ด,อาร์เซนอลหรือเชลซีนี่คือเกมที่แฟนบอลจะได้เห็นเด็กท้องถิ่นหรือในอคาเดมี่ลงแจ้งเกิดประปรายอย่างต่ำๆ 1-2 คน

เชื่อผมเถอะครับพวกดาวรุ่งกลุ่มนี้คงคิดอยู่ในใจว่าอนาคตในทีมหงส์แดงช่างมืดมนอับเฉาซะเหลือเกินเพราะแค่โอกาสในทีมชุดใหญ่ลงเล่นกับนอกลีกแค่ลงเล่นนาทีเดียวยังไม่ตกถึงท้องเลย

ราฟาเอล เบนิเตซคงไม่กล้าส่งดาวรุ่งลงสนามเพราะณ เวลานี้ผลการแข่งขันทุกๆนัดหมายถึงความมั่นคงในตำแหน่งผู้จัดการทีมของตัวเอง อันนี้ก็น่าเห็นใจครับ

แม้เกมฟุตบอลนัดเดียวจอดแบบนี้ยังไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ล่วงหน้าแต่ผมเชื่อ(และเชื่อค่อนข้างมาก)ว่าเดอะค็อปควรเผื่อใจเอาไว้บ้างในกรณีที่ต้องถูกจับฉลากออกไปเป็นทีมเยือนบิ๊กทรีในรอบ 5

ชั่วโมงนี้คงต้องยอมรับว่าทั้งฟอร์มการเล่นและสภาพจิตใจเป็นรองทุกอย่างยิ่งต้องออกนอกบ้านไปเยือนถิ่นเสือสิงห์กระทิงแร่ดแค่เสมอก็เหมือนได้ชัยชนะแล้วครับ