"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเตรียมขายหุ้นของสโมสรในตลาดหุ้นนิว ยอร์กโดยมีมูลค่าหุ้นละ 14 ดอลล่าร์สหรัฐซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้แต่แรก
หุ้นของยูไนเต็ดเปิดตัวด้วยราคา 14 ดอลล่าร์สหรัฐต่อหุ้นซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ราว 16-20 ดอลล่าร์สหรัฐ
หุ้นดังกล่าวจะเริ่มเปิดขายในวันนี้ในตลาดหุ้นนิว ยอร์กหลังยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์พยายามระดมทุนมาปล้นหนี้ของสโมสรที่เจ้าของไปกู้มาเทคโอเวอร์เมื่อปี 2005
สโมสรเก่าแก่อายุ 134 ปีซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัยเป็นหนึ่งในทืมกีฬาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่านักลงทุนที่จะซื้อหุ้นของพวกเขาน่าจะเป็นบรรดาแฟนบอลมากกว่าคนที่หวังหาผลกำไร
"มันจะเป็นการซื้อขายในระดับของแฟนบอลเนื่องจากผู้ที่แสวงหาผลกำไรจะถูกต่อต้าน"แซม ฮามาเดห์ซีอีโอของพรีฟโก้ซึ่งทำการวิจัยเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่างๆกล่าว
"ทีมที่ชนะไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จในการลงทุนหรอกนะ"
ตระกูลเกลเซอร์เข้ามาเทคโอเวอร์ยูไนเต็ดในปี 2005 ด้วยมูลค่า 1.47 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐโดยส่วนใหญ่เป็นเงินที่ไปกู้ยืมมา ทั้งนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม ยูไนเต็ดยังมีหนี้สินราว 666.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐทั้งที่ไม่เคยมีหนี้มาก่อนเลยตอนที่ถูกซื้อเมื่อ 7 ปีก่อน
หลังการเสนอขายหุ้นในตลาดแล้ว ตระกูลเกลเซอร์จะยังคงควบคุมทีมผ่านหุ้นคลาส บีซึ่งมีอำนาจในการโหวตมากกว่าหุ้นที่ขายสู่สาธารณชนถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามนักเคราะห์ยังคงมีข้อสงสัยอยู่มากเพราะยอดทีมแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดไม่ได้เป็นบริษัทที่มีการเจริญเติบโตสูงและมีหนี้สินอยู่มหาศาล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหวังขยายสปอนเซอร์ให้มากขึ้นรวมถึงดีลไลเซนซ์อื่นๆโดยพวกเขาขายสิ้นค้าที่เป็นแบรนด์ของตนเองได้ถึง 5 ล้านชิ้นเมื่อปีที่ผ่านมา
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมายูไนเต็ดเพิ่งบรรลุข้อตกลงกับเชฟโรเล็ตในการเป็นสปอนเซอร์บนเสื้อแข่งของพวกเขายาว 7 ปีมูลค่า 559 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ขณะที่รายก็เติบโตขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ในปี 2011 คิดเป็นมูลค่ารวม 159.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
นิค อินฮอร์ทนักวิเคราะห์ชื่อดังได้แสดงความเห็นว่าดีลเหล่านี้เป็นเพียง 1 ใน 3 ของธุรกิจเท่านั้นเพราะอีก 2 ส่วนมาจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและการขายบัตรเข้าชมเกมในสนาม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
