บิ๊กแมตช์ผีแดงเปิดรังรอดับซ่าเชลซี

"บิ๊กแมตช์"ผีแดงเปิดรังรอดับซ่าเชลซี

รุด ฟาน นิสเตลรอย หัวหอกรองดาวซัลโวพรีเมียร์ชิพ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2548 16:38 น.

หลังจากเคยหยุดอหังการ ปืนโต ด้วยการยัดเยียดความปราชัย พร้อมยุติสถิติไม่แพ้ใครของ อาร์เซนอล ไว้ที่ 49 นัด ถึงเวลาที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องนำขุนพล ปีศาจแดง ดับโอหังแห่งจ่าฝูง เชลซี แต่จะทำได้หรือไม่? ห้าทุ่มวันอาทิตย์นี้มีคำตอบ

สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ กลับมาเตะกันอีกครั้งหลังจากที่หลายทีมในอังกฤษต่างผ่านศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาเมื่อกลางสัปดาห์ ซึ่งบางทีมก็โชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะ อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ที่ต่างนัดกันคว้า 3 คะแนนเต็ม ขณะที่ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างเล่นเหมือนกลัวเข้ารอบเร็วเลยควงกันไปพ่ายนอกบ้านทั้งคู่ แต่ยังมีโอกาสแก้ตัวในนัดที่เหลืออยู่

วกกลับมาที่คิวแข่งพรีเมียร์ชิพคู่ใหญ่ประจำสัปดาห์นี้ จะเป็นคู่อื่นไกลไหนได้ หากเป็นการพบกันของ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ที่จะเปิดสนามโอลด์ แทร็ฟอร์ด ต้อนรับจ่าฝูงฟอร์มร้อนแรง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในเวลา 23.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2548

ในส่วนผลงานในเกมพรีเมียร์ลีกของทีมเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นไม่สวยโสภาเอาเสียเลย เมื่อออกนอกบ้านโดยไม่เอาฟอร์มเก่งครั้งเก่าติดตัวไปด้วย ผลสุดท้ายก็พ่ายเละในถิ่น ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม ของ สิงห์แดง มิดเดิลสโบรห์ 1-4 ก่อนจะพกฟอร์มบู่สุดบูดไปเหยียบแผ่นดินฝรั่งเศส แต่ก็เป็นฝ่ายโดนเหยียบเสียเอง เมื่อพ่าย ลีลล์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 0-1 นับผลงานที่ย่ำแย่ติดต่อกันของปีศาจแดงเลยทีเดียว จากการพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องนั้นส่งผลให้ ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดนวิจารณ์ในเรื่องจัดตัวผู้เล่น และระบบการเล่นของทีม จนทำให้ เร้ด อาร์มี่ ไม่สามารถเก็บแต้มได้เลยในสองเกมล่าสุด

ด้านสภาพความพร้อมของทีมก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย เมื่อนักเตะตัวหลักหลายราย อาทิ กาเบรียล ไฮน์เซ่, แกรี่ เนวิลล์, รอย คีน และ ไรอัน กิ๊กซ์ ต่างก็ล้วนนั่งเล่น และนอนยิ้มกันอยู่ในห้องพยาบาลของสโมสร รอเยียวยารักษาอาการบาดเจ็บกัน ทำให้ผู้เล่นที่จะลงสนามคงต้องพึ่งนักเตะหน้าเดิมๆ ในสองเกมที่พาทีมออกทะเลจนกลายเป็น ผีทะเล อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเกมนี้กุนซือปีศาจแดงน่าจะใช้ระบบการเล่นแบบ 4-3-3 เหมือนเช่นเคย โดย เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะได้ยืนเฝ้าเสา ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาร์ฟยังคงใช้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ มิกกาแอล ซิลแวสต์ ด้านแบ็กขวา-ซ้าย น่าจะเป็น จอห์น โอเชีย และ คีแรน ริชาร์ดสัน ขณะที่แดนกลางคงหนีไม่พ้น อลัน สมิธ, ดาเรน เฟลชเชอร์ และ พอล สโคลส์ สำหรับเกมรุกจะใช้ ปาร์ค จี ซอง, รุด ฟาน นิสเตลรอย และ เวนย์ รูนี่ย์ คอยกดดันแผงหลังเชลซี ส่วนเจ้าหนู คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองไปก่อน

ส่วนทีมเยือนนั้น โฮเซ่ มูรินโญ่ เพิ่งพาลูกทีมบุกไปแพ้ รีล เบติส 0-1 ถึงแผ่นดินสเปน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ แม้จะเริ่มโชว์ฟอร์มสะดุดให้คู่แข่งได้เริ่มแอบยิ้มกันบ้าน แต่ สิงโตน้ำเงิน ก็ยังคงไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ชิพอยู่ดี เมื่อเกมนัดล่าสุด แม้ว่า กุหลาบเพลิง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส จะทำได้ดี แต่ก็ยืนระยะไม่ไหวพ่ายจ่าฝูง 4-2 ซึ่งแสดงได้เห็นว่าแม้จะเริ่มแผ่วแต่ก็ยังเสมอต้นเสมอปลายในลีกอยู่ดี

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางดาวซัลโวพรีเมียร์ชิพ

เมื่อหันไปมองเรื่องสภาพความพร้อม ต้องยอมรับว่า เฮียเครียด ได้เปรียบทีมอื่นอยู่หลายช่วงตัว เมื่อผู้เล่นในทีมล้วนอุดมไปด้วยแข้งพันล้านร่วมล้นทีม อีกทั้งยังได้ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ปีกทีมชาติไอร์แลนด์ กลับมาจากอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ เวย์น บริดจ์ แบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษ แต่เชื่อว่าบอสใหญ่อย่าง มูรินโญ่ คงไม่เสี่ยงส่งลงเล่นเกมหนักแบบนี้ตั้งแต่นาทีแรกแน่นอน คาดว่า กุนซือจอมโวย คงไม่หนีจากระบบ 4-3-3 ที่ใช้มานาน โดยจะมอบตำแหน่งนายทวารมือ 1 ให้กับ ปีเตอร์ เช็ก ต่อไป ส่วนคู่ปราการหลังน่าจะเป็นการจับคู่กันของ ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ กับ จอห์น เทอร์รี่ ด้านแบ็กขวา-ซ้ายคงเป็น วิลเลี่ยม กัลลาส กับ อาเซียร์ เดล ออร์โน่ ส่วนแผงมิดฟิลด์จะเป็นหน้าเดิมอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง และ โคล้ด มาเกเลเล่ ขณะที่แนวรุกคาดว่า อาร์เยน ร็อบเบน และ โจ โคล จะรับหน้าที่เดินเกมทางริมเส้น ปล่อยให้ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา รับหน้าที่ทะลวงตาข่าย

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด
วันที่ 10 พฤษภาคม 2548 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ เชลซี 1-3

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
ฟุตบอลลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 53 ครั้ง, เชลซี ชนะ 35 ครั้ง และ เสมอกัน 38 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 7 ครั้ง, เชลซี ชนะ 8 ครั้ง และ เสมอกัน 11 ครั้ง

ผลงานการเจอกันในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ฟุตบอลลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 24 ครั้ง, เชลซีชนะ 17 ครั้ง และ เสมอกัน 22 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3 ครั้ง, เชลซี ชนะ 4 ครั้ง และ เสมอกัน 6 ครั้ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-3) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิกกาแอล ซิลแวสต์, คีแรน ริชาร์ดสัน, อลัน สมิธ, ดาเรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ปาร์ค จี ซอง, รุด ฟาน นิสเตลรอย และ เวย์น รูนี่ย์

เชลซี (4-3-3): ปีเตอร์ เช็ก, วิลเลี่ยม กัลลาส, ริคาร์โด้ คาวัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, อาเซียร์ เดล ออร์โน่, มิคาเอล เอสเซียง, โคล้ด มาเกเลเล่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, อาร์เยน ร็อบเบน, โจ โคล และ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา

สำหรับรูปเกมนั้นทีมเจ้าถิ่นฟอร์มการเล่นยังกู่ไม่กลับ ผลงานไม่ดีขึ้นเลย ผิดกับทีมเยือนที่ยังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่แน่นอนกว่า อย่างไรก็ตาม เกมบิ๊กแมตช์เกมนี้น่าสนใจตรงที่ทั้งคู่เพิ่งสะกดคำว่า แพ้ ในเกมยุโรปมาเมื่อกลางสัปดาห์ และคงต้องเรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับมา โดยเฉพาะทีมเจ้าถิ่น ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดเกมรุกเต็มสูบ เพื่อกลับมาสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์อีกครั้ง (แถมยังเป็นวันครบรอบการคุมทีมครบ 19 ปี ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการทำงานร่วมกับ ยูไนเต็ด) ด้านทีมเยือน สิงโตน้ำเงินคราม เกมนี้ กุนซือหน้าเครียด น่าจะวางหมากมาเล่นแบบรัดกุม เนื่องจากเริ่มหวั่นเกรงการทำงานในแผงหลังของทีมที่เริ่มเสียประตูติดต่อกันในหลายเกมที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังไม่แพ้เลยในเกมลีกก็ตาม...

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์