สมควร!ผีอย่างห่วยบุกพ่ายวีแกน 1-0 โดนเรือจี้

สมควร!ผีอย่างห่วยบุกพ่ายวีแกน 1-0 โดนเรือจี้ 

ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสมควรแพ้ให้สาแก่ใจ ในวันที่พวกเขาเล่นกันแบบไร้แรงฮึดไม่เหมือนกับทีมที่ลุ้นแชมป์ ก่อนจะโดนวีแกนที่รวมพลังใจกันเล่นได้น่าดูชมกว่าและเอาชนะไปด้วยประตูชัยของมาโลนี่ย์ 1-0 ทำให้นำจ่าฝูงเหลือแค่ 5 แต้มแล้ว 

พรีเมียร์ ลีก 

วันพุธที่ 11 เมษายน 2555 

สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี๊ยม 

วีแกน 1 : 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

ประตู : 1-0 มาโลนี่ย์ น.50 

เกมนี้ต่างฝ่ายต่างต้องการ 3 คะแนนสุดล้ำค่ากันทั้งนั้น แม้ว่าจุดมุ่งหมายของทั้งสองทีมจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็ตาม 

เจ้าบ้านวีแกนต้องการ 3 คะแนนเพื่อให้รอดพ้นการตกชั้นในฤดูกาลนี้ให้ได้ ซึ่งฟอร์มของพวกเขาในช่วงหลังทำให้มีลุ้นขึ้นมาพอสมควรด้วย 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหวังที่ะคว้าชัยชนะเพื่อรักษาระยะห่างการนำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในอันดับที่ 2 ให้เป็น 8 คะแนนต่อไป 

รูนี่ย์, เอร์นานเดซ, ยังและวาเลนเซียที่กำลังฟอร์มจัดจ้านต่างก็ตบเท้ากันลงสนามเพื่อหวังที่จะทะลวงแนวรับของวีแกนให้ได้ 

ครึ่งแรก 

ได้แลกกันไปเบาๆ 
เริ่มเกมมา 13 นาที เหมือนยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางสักเท่าไหร่สำหรับทั้งสองทีม โดยเฉพาะแมนฯยูไนเต็ดที่ยังหาโอกาสเหมาะๆไม่ได้ มีจังหวะของเอร์นานเดซก็ยิงไปติดบล็อก ส่วนเจ้าบ้านได้ลุ้นจากเบอร์เซฆัวส์ แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป 

โจนส์เติมไปโขกแต่พลาด 
นาทีที่ 19 ขอมีส่วนร่วมในการลุ้นประตูกับเพื่อนบ้างเหมือนกันสำหรับโจนส์ ที่เติมขึ้นไปได้โขกบอลหน้าประตูในจังหวะที่ทีมได้เตะมุม แต่บอลของเขาก็พุ่งหลุดกรอบออกไป 

เจ้าบ้านยิ่งเล่นยิ่งดี 
ยิ่งเวลาล่วงผ่านไป เกมของวีแกนก็เป็นของดัชนีที่ทำได้ดีขึ้นตามลำดับ ผิดกับแมนฯยูไนเต็ดที่ยิ่งเล่นยิ่งฝืดยังไงไม่รู้ พยายามที่จะหาโอกาสเข้าไปบวกกับกองหลังวีแกนแล้ว แต่ก็ยังตันๆอยู่ดี เป็นเจ้าบ้านที่มีโอกาสได้ลุ้นกว่าเสียอีก 

ได้ไง!?โมเสสโหม่งเฮแต่วีแกนไม่ได้ 
นาทีที่ 31 มาร์ติเนซกุนซือของวีแกนถึงกับฉุนขาดบวกงงเต๊ก เพราะจังหวะเตะมุมของลูกทีมโยนบอลเข้ากลางอย่างสวย โมเสสได้เทคตัวขึ้นโหม่งแบบไม่ได้ไปเบียดหรือไปกดใคร โหม่งบอลเข้าประตูไป แต่ไลน์แมนกลับตีธงขึ้นมาว่าไม่เป็นประตู ท่ามกลางความมึนงง แม้ว่าจะดูจากภาพช้าก็ยังไม่เคลียร์อยู่ดีว่าไปฟาวล์ตรงจุดไหน อะไรยังไง แต่ที่แน่ๆจังหวะนี้เป็นประเด็นร้อยเปอร์เซ็นต์ 

ผีเกมก็ยังไม่ดีขึ้น 
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก หลังจากมหาเฮงไม่เสียประตูไปก่อนหน้านี้ แต่แมนฯยูไนเต็ดก็ยังขยับระดับเกมของพวกเขาไปไม่ได้มากกว่าที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเกมรุกที่เจาะไม่ได้เลย 

ขนดกเล่นยากเพื่ออะไร? 
นาทีที่ 42 โอกาสมาถึงแล้วแท้ๆ แต่แข้งประสบการณ์สูงอย่างกิ๊กส์กลับเลือกเล่นไม่ถูกจังหวะ เมื่อวีแกนจ่ายบอลกันเสีย โดนแมนฯยูไนเต็ดฉกได้ ก่อนที่จะจ่ายไปให้กิ๊กส์ที่มีพื้นที่ว่างเหลืออื้อซ่าที่จะเก็บบอลไว้กับตัวหรือแตะเข้าไปจุดโทษ แต่เขากลับหลอกตอกส้นเร็ว สุดท้ายคือผิดพลาดเสียบอลกลับไปให้กับวีแกนเหมือนเดิม 

จบ 45 นาทีแรกของเกมที่น่าอึดอัดของแมนฯยูไนเต็ดซึ่งรอดพ้นจากการเสียประตูไปอย่างเหลือเชื่อ ทั้งคู่ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 นอกเหนือจากจังหวะที่กรรมการไม่ให้ประตูแล้ว เชื่อว่าแฟนวีแกนคงปลื้มไม่น้อยที่ทีมเล่นกันได้ดีขนาดนี้ 

ครึ่งหลัง 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องปรับเกมอย่างไว ด้วยการส่งเคลฟเวอร์ลี่ย์ลงไปเล่นแทนยังซึ่งครึ่งแรกบทบาทถือว่าน้อยกว่าที่หวังเอาไว้มาก

ไม่ให้อีกสิโว้ย!มาโลนี่ย์ปั่นเสียบเสาสวยสุด 
นาทีที่ 50 แน่จริงเป่าอีกเลยสำหรับวีแกนที่พวกเขาได้ประตูขึ้นนำแบบเคลียร์สุดๆ แถมยังสวยได้ใจอีกด้วย เมื่อมาโลนี่ย์ทำชิ่งสั้นๆกับเพื่อนในจังหวะเตะมุม ก่อนที่จะแตะกระชากหนีเข้ากลาง แล้วจัดการปั่นบอลพุ่งโค้งไปเสาสอง หนีมือของเด เกอาเข้าไปเสียบเสาดังฉึก วีแกนขึ้นนำ 1-0 หน้าเจื่อนเลยสำหรับเซอร์ อเล็กซ์ 

จังหวะนี้มีการเล่นภาพช้ากันให้ดูนิดหน่อย เหมือนตั้งใจจะสื่อว่าจริงๆวีแกนไม่ควรได้เตะมุมแต่แรก เพราะบอลไปโดนเบอร์เซชัวส์ออกไปในจังหวะเบียดกับโจนส์ 

พลังใจต่างกันเยอะ!แข้งวีแกนวิ่งลืมตาย 
ผ่านชั่วหนึ่งชั่วโมงเต็ม ที่แตกต่างมากขึ้นเรื่อยๆในเกมนี้เลยก็คือความมุ่งมั่นของนักเตะในสนาม เพราะวีแกนเล่นด้วยพลังใจที่ส่งผ่านออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนแมนฯยูไนเต็ดเหมือนจะเฉื่อยๆเนือยๆ ต่อกันไม่ค่อยติด โดยเฉพาะกิ๊กส์ที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะเล่นยากไปไหน 

ป๋าเทหมดหน้าตักเปลี่ยนครบ 3 แล้ว 
นาทีที่ 66 ถือว่าทิ้งไพ่ใบสุดท้ายที่จะปรับแท็คติกลงมาตั้งแต่เนิ่นๆเลยสำหรับเซอร์ อเล็กซ์ หลังจากเพิ่งจะเปลี่ยนเอาเวลเบ็คลงไปเล่นแทนเอร์นานเดซไม่นาน ก็มาส่งนานี่ไปแทนรูนี่ย์ที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออกซะด้วย ต้องดูว่าเกมจะดีขึ้นหรือไม่ 

ผีโวยบ้าง!โจนส์เปิดอัดมือไม่ได้จุดโทษ 
อีก 5 นาทีต่อมา เป็นแมนฯยูไนเต็ดที่โวยบ้าง เมื่อโจนส์เติมขึ้นไปเปิดบอลทางริมเส้นฝั่งขวา บอลพุ่งแรงไปโดนบล็อกของกองหลังวีแกนซึ่งเมื่อดูจากภาพช้าแล้วโดนมือเต็มๆ แต่ไลน์แมนที่ยืนอยู่ฝั่งเดียวกันไม่ว่าอะไร ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นทีมเยือน 

โจนส์ฝืนสกัดจนเจ็บอีก 
นาทีที่ 80 ดูเหมือนจะแย่ซะแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อโจนส์พยายามเข้าสกัดบอลจากผู้เล่นของวีแกนจนทำให้เจ็บหัวเข่าขึ้นมา ในยามที่ทีมต้องการประตูแบบนี้ ถ้ามาเสียผู้เล่นไปอีกคงไม่ดีแน่ 

วีแกนน่าได้ประตูที่สองมาก 
อีก 2 นาทีต่อมา เป็นช่วงเวลาบุกกดดันของวีแกนโดยแท้จริง เมื่อพวกเขาเติมขึ้นไปกันเป็นชุด จนทำให้เด เกอาต้องออกแรงเซฟ ก่อนที่จะมายิงแฉลบบล็อกกองหลังออกไปอีก ดูแล้วได้ลุ้นดีแท้ 

โก๋แดนซัดไม่ผ่านอัล ฮับซี่ 
นาทีที่ 84 ถือว่าจ่ายได้เยี่ยมเลยสำหรับเคลฟเวอร์ลี่ย์ในจังหวะที่เขาไหลบอลทะลุช่องไปให้กับเวลเบ็คได้ตวัดยิงมุมแคบในกรอบเขตโทษ แต่นาทีนี้ถ้าลูกไม่ยากเกินไปกินอัล ฮับซี่ยาก เลยติดเซฟไปตามระเบียบ 

ทด 5 นาที?ผีได้ลุ้นต่ออีกเฮือก 
ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินออกมาชูป้ายทด 5 นาที ทำให้แมนฯยูไนเต็ดมีโอกาสที่จะลุ้นต่ออีกเฮือกหนึง แต่ดูจากรูปเกมแล้วแฟนๆน่าจะทำใจกันหลายคน 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

วีแกน : อาลี อัล ฮับซี่, แกรี่ คาลด์เวลล์, เมย์นอร์ ฟิเกรัว, อันโตลิน อัลคาราซ, ฌอง เบอร์เซชัวร์, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, เจมส์ แม็คอาเธอร์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, ฌอน มาโลนี่ย์, วิคเตอร์ โมเสส, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอฟร่า, ฟีล โจนส์, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอชลี่ย์ ยัง, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : 



 
 
 


แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck