ท่านเซอร์เอ่ยยอมแพ้ เชลซี (เรื่องเงิน)

พูดถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว หลายคนคงทราบกิติศัพท์ดีว่า หมอเป็นคนหัวดื้อ และเกลียดคำว่า แพ้มากขนาดไหน เรียกว่า ยิ่งแก่ยิ่งดื้อก็คงจะไม่ผิดอะไรนักเพราะถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เฮียแพนด้า ไม่บ้ากาม แกคงตัดสินใจโบกมืออำลาเก้าอี้นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปตั้งแต่ปีมะโว้แหง ๆ เอ แล้วไอ้ปีมะโว้นี่มันประมาณพ.ศ.อะไรใครรู้ช่วยบอกผมทีเด่ะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อนแล้วมีหรือที่หัวใจอ่อน ๆ ของเซอร์ อเล็กซ์จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามการกัดเซาะของกาลเวลา ครับ วันนี้ จอมคนแห่งโรงละครแห่งความฝันยอมพูดคำว่า ยอมแพ้ ออกมาแล้ว แถมเป็นการยอมแพ้ให้กับอริตัวฉกาจอย่าง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เสียด้วย

แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า ท่านเซอร์แกจะยอมแพ้ และยกถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ชิพให้กับทีมรวมดาราโลกของ โชเซ่ มูรินโญ่เสียล่ะ เพราะจริง ๆ แล้วที่แกบอกว่า ยอมแพ้เชลซีน่ะ เป็นการยอมแพ้ในเรื่องของอำนาจเงินต่างหาก ซึ่งจะว่าไป พ.ศ.นี้ไม่ว่าทีมไหนก็คงต้องยอมแพ้ให้กับอำนาจเงินของ เสี่ยหมี โรมัน อบราโมวิช ทั้งนั้น แหละว่ามะ

สำหรับเรื่องของเรื่องของเรื่องนี้มันมีอยู่ว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ (จริง ๆ ก็แค่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี่เองแหละ) เซอร์ อเล็กซ์ แกออกมาพูดใส่ไมค์นักข่าวด้วย ภาษาประกิดเปื้อนสำเนียงคนเมืองขี้เมาว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ของตนไม่มีศักยภาพทางการเงินเพียงพอที่จะต่อกรกับเชลซีของ เฮียเครียด จนต้องเป็นฝ่ายยกธงขาวยอม แพ้ตั้งแต่นกกระจอกไม่ทันจิบน้ำมาโดยตลอด ยามที่ทั้งสองสโมสรเกิดไปปิ๊งปั้งนักเตะรายเดียวกันขึ้นมา

จะว่า ไปมันก็จริงของท่านเซอร์แกเพราะนักเตะที่เคยอยู่ในลิสต์ของ เร้ด เดวิลส์ อย่าง อาร์เยน ร็อบเบน, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ และมิชาแอล เอสเซียงนั้น ปัจจุบัน ต่างก็โดนเชลซีงาบไปโชว์ฝีเท้ายังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เรียบร้อยโรงเรียนเสี่ยหมีแล้วทั้งสิ้น เฮ้อ ขออนุญาตถอนหายใจแทนสาวกเรด อาร์มี่หนึ่งดอก

กรณีของนักเตะ 3 รายที่เอ่ยถึงมาข้างต้นนั้น ยังถือว่าไม่เท่าไหร่เพราะก่อนที่เชลซีจะมาคว้าตัวไปนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ได้ตีตราจองนักเตะเหล่านี้เอาไว้ แต่อย่างใด แต่สำหรับในรายของ จอห์น โอบี มิเกล นักเตะดาวรุ่งชาวไนจีเรีย ของลิน ออสโล นี่สิ ทั้งที่จับมือเซ็นสัญญากันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ดาเตะทีมอินทรีมรกตน้อยมัน ก็ยังทะลึ่งกลับคำออกมาบอกว่าอยากย้ายไปเล่นกับทีมดังแห่งกรุงลอนดอนมากกว่า จนกลายเป็นข้อพิพาทใหญ่โตจนถึงขั้นที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ต้องยื่นมือเข้า มาช่วยสะสางซะอย่างงั้น

เฟอร์กี้ กล่าวว่า ผมคิดว่าเราไม่อยากแม้แต่จะคิดในเรื่องที่จะแข่งขันกับเชลซี ถ้าหากเชลซีอยากได้ตัวผู้เล่นที่เราให้ความสนใจอยู่ด้วย เราก็คงจะเอาชนะ พวกเขาไม่ได้แน่ๆ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่จะไปยื้อแย่งตัวนักเตะคนนั้น เว้นเสียแต่ว่าพวกเขามีใจอยากจะย้ายมาอยู่กับยูไนเต็ด อย่างเช่นพาร์ค ชี-ซอง อย่างไรก็ดี ดาวรุ่ง คนไหนก็ตามที่อยากจะเจริญก้าวหน้าในชีวิตค้าแข้ง ควรจะคิดให้ถี่ถ้วนเกี่ยวกับการย้ายมาร่วมทีมกับเรา เพราะสถิติที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นกันไปแล้วว่าเราจะหยิบยื่น โอกาสให้กับพวกเขาเสมอ

พร้อมกันนี้ กุนซือชาวเมืองวิสกี้ยังได้กล่าวถึงบรรดานักเตะดาวรุ่งของทีมอย่างอดัม เอ็คเคอร์สลี่ย์, แดนนี่ ซิมป์สัน, ซิลแวน อีแบงค์-เบล็ค และลี มาร์ติน ที่เพิ่ง จะลงประเดิมลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบสาม นัดที่ ปีศาจแดง เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไล่ทุบ บาร์เน็ตต ์ ทีมระดับลีกทู (ดิวิชั่น 3) ไป ขาดลอย 4-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อีกด้วยว่า น่าจะเป็นกำลังสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอีกนานทีเดียว

มันจะเป็นค่ำคืนน่าตื่นเต้นสำหรับบรรดานักเตะดาวรุ่ง ผมหวังว่ากองเชียร์จะได้เห็นความยอดเยี่ยมของนักเตะเหล่านี้ในช่วงหลายปีข้างหน้านี้ ผมกำลัง พยายามวางรากฐานให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และผมก็ต้องการจะสร้างให้มันมั่นคงยั่งยืนยาวนานไปอีกหลายๆ ปี ไม่ใช่เพียงแค่สองนาทีเท่านั้น บรมกุนซือชาวเมือง วิสกี้ กล่าว

ในเมื่อรู้ตัวว่า ไม่อาจจะทานอำนาจเงินของเชลซีได้แบบนี้ เห็นทีท่านเซอร์น่าจะหันกลับมาสร้างทีมโดยการปั้นเด็กขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เหมือนเดิมอาจจะดีกว่า เพราะจะว่าไปแล้ว เด็กผีชุดคลาส ออฟ 2005 แต่ละคนนี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นหัวโจ๊กอย่าง คีแรน ริชาร์ดสัน ที่ได้ดิบได้ดีจนถึงขั้นติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ไปแล้วเรียบร้อย, ลี มาร์ติน ปีกจอมพลิ้วที่มีลีลาลากเลื้อยอันน่าตื่นตาตื่นใจ, จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ดาวยิงลูกครึ่งอิตาเลียน-อเมริกัน หรือ ปิเก้ เบอร์นาบิว ปราการหลังชาว เมืองกระทิงดุ

ไม่แน่นะครับถ้าโชคดี บางที แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะค้นพบเพชรในตรมแบบที่เคยค้นพบเด็กแก็งค์คลาส ออฟ 1992 อย่าง ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม, 2 พี่น้อง แกรี่ กะ ฟิล เนวิลส์, นิคกี้ บัตต์ และพอล สโคลส์ ก็เป็นได้ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรอกครับ จริงมะ