10ฆาตกรโหด ผุ้หญิง-โรคจิต

10 ผู้หญิง... ฆาตกรโหด-โรคจิต... โลกตะลึง...



 



ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาผู้หญิงบางคนพยายามก่ออาชญากรรมที่น่ากลัว


หลายครั้งสังคมและคนทั่วโลกถึงกับช็อกการกระทำของพวกเธอเหล่านั้น ที่ฆ่าเหยื่อผู้บริสุทธิ์


โดยปราศจากแรงจูงใจและเลือดเย็น และนี้คือ 10 รายการฆาตกรหญิงที่สุดแสนจะอันตราย






 


10. Diane Downs (วันที่ 7 สิงหาคม 1955)



 




 





 




 



ไดแอน ดาวน์ เธออาจเป็นนักเขียนหนังสือเล่มเล็กๆ ในชื่อ Ann Rule


แต่หลายคนรู้จักเธอในฐานะหญิงสาวชาวอเมริกันที่ฆ่าลูกของเธอมากกว่า


โดยสาเหตุที่ฆ่าลูกนั้นก็คือแฟนใหม่ของเธอไม่อยากเลี้ยงลูกติดของเธอ


ดังนั้นเธอเลยกำจัดลูกที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของเธอออก



 



เมื่อ 19 พฤษภาคม 1983 เธอได้พาลูกๆ สามคนชื่อ คริสตี้,เชอริล และแดนนี่ ขึ้นรถ


แล้วไปที่ทางไร้ผู้คนสัญจร จากนั้นก็หยุดรถแล้วก็ยิงลูกสามคนอย่างเลือดเย็น


เชอริลบุตรคนที่สองของเธออายุ 7 ปีเสียชีวิตเกือบทันที ส่วนเด็กคนอื่นๆ รอดชีวิตมาได้


แต่ก็พิการ คริสอายุ 8 ปี อัมพาตตั้งแต่เอวลงมาหลังจากถูกยิงในระยะเผาขน


ส่วนแดนนี่ถูกยิงจนอัมพาตด้านหนึ่งของร่างกายและมีปัญหาการพูด


จากนั้นทำเป็นแม่ที่แสนดีพาไปรักษาพยาบาลใกล้ๆ โดยเธอบอกตำรวจว่า


ถูกคนแปลกหน้าผิวดำที่พยายามขโมยรถโจมตีเธอและลูกๆ หากแต่เมื่อทำการสอบสวน


ก็พบว่าเธอโกหกแต่ เธอนั้นแหละที่ฆ่าเด็ก



 



แต่กระนั้นเธอก็ทำตัวเป็นแม่ผู้น่าสงสารไร้เดียงสาเจ้าน้ำตาออกสื่อมากมายหาว่า


โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ร้ายอยากให้สังคมเห็นอกเห็นใจ แต่สุดท้ายเธอก็จำนน


เมื่อลูกของเธอให้การต่อศาลว่าแม่เป็นฆาตกร ส่งผลทำให้ศาลตัดสินเธอในปี 1984


โดยพิพากษาให้จำคุก 50 ปี ในปี 1987 เธอหนีออกจากเรือนจำ


ก่อนที่จะถูกจับกลับมาอีกครั้ง



 




 



000


000


000



 



 


9. Susan Smith (เกิด 26 กันยายน 1971)



 



 




 




 



เรื่องราวของซูซาน สมิทนั้นน่ากลัวกว่าอันดับ 10 นิดหน่อย


แม้เนื้อหาหลักๆ จะเหมือนกันก็เถอะ โดยของซูซาน สมิท นั้นเป็นหญิงชาวอเมริกัน


ที่ทำการฆาตกรรมลูกชายแท้ๆ ของเธอ 2 คนคือไมเคิล 3 ขวบ และอเล็กซ์ 1 ขวบ


ที่ยังเด็กมาก โดยเธอพาเด็กขึ้นในรถยนต์แล้วขับรถพาไปยังขอบสระน้ำ


รัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เมื่อมาถึงสระน้ำเธอก็ออกจากรถ


ส่วนเด็กสองคนซึ่งตอนนั้นกำลังหลับอยู่ด้านหลัง เธอก็ทำการล็อกให้ขังอยู่ในรถ


ไม่ให้ไปไหน จากนั้นก็ทำให้การปล่อยเบรก รถพุ่งลงไปสระน้ำ


เธอยืนดูรถกำลังจมอย่างช้าๆ จากนั้นเธอก็สวมบทคุณแม่รักลูกเจ้าน้ำตาโทรไปหาตำรวจ


เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1994 ว่าถูกคนร้าย คนดำจี้บังคับให้เธอลงจากรถยนต์ของเธอ


และขโมยรถยนต์ซึ่งมีบุตรเล็กๆ ของเธอ 2 คน ติดไปกับรถยนต์คันดังกล่าวด้วย 


ตำรวจใช้เวลาในการค้นหารถยนต์และเด็กทั้งสองนาน 10 วัน จนพบรถยนต์คันดังกล่าว


จมอยู่ใต้ทะเลสาบ ศพเด็กทั้งสองถูกคาดเข็มขัดนิรภัยติดกับที่นั่ง


แต่ก็ไม่พบร่องรอยคนร้ายแต่อย่างใด ซึ่งในระหว่างนี้คนทั่วประเทศและทั่วโลก


ต่างส่งกำลังใจมากมาย และเริ่มมีปัญหาเหยียดเชื้อชาติเกิดขึ้นด้วย


เนื่องจากพวกเขาโทษ คนผิวดำ ว่าเป็นผู้สร้างปัญหานี้ทั้งหมด



 



อย่างไรก็ตามตำรวจเชื่อว่าซูซาน สมิธฆ่าลูกของเธอและอำพรางคดีอย่างแน่นอน


ทำให้การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มไปด้วยเข้มข้น หักเหลี่ยม เพื่อเอาตัวซูซาน


มาลงโทษตามกฎหมายให้จงได้ ผลสุดท้ายพวกเขาจึงจับซูซานเข้าเครื่องจับเท็จ


จนกระทั้งเอ่ยปากรับสารภาพถึงแผนการก่ออาชญากรรมที่น่าสยดสยองที่เธอก่อทั้งหมด


(ทั้ง ๆ ที่ตำรวจไม่มีหลักฐานอย่างอื่นจะเอาผิดกับเธอได้)



 



เธอเล่าวัยเด็กเธอถูกละเมิดทางเพศและร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง เคยมีความสัมพันธ์


ทางเพศกับพ่อเลี้ยงพร้อมกับแม่ แถมบางครั้งก็ทำกันในที่สาธารณะด้วย


ส่งผลทำให้เธอกลายเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยปัญหาหมกมุ่นทางเพศ ต้องการความรักอุดมคติ


และต้องการมีชีวิตอยู่อย่างงดงาม สิ่งเหล่านี้เป็นอาการทางจิตของพวกที่มีบุคลิกภาพ


บูชาตนเอง และสาเหตุที่เธอฆ่าบุตรนั้นก็เหมือนกรณีเช่นกันไดแอน ดาวน์


โดยคนรักคนใหม่ของเธอรับไม่ได้หากอยู่กับเธอโดยมีลูกสองคนติดมาด้วย


จนเป็นเหตุทำให้ซูซานฆ่าเด็กเพื่อตัดปัญหา ผลสุดท้ายเธอถูกจับคุก 30 ปี


ปัจจุบันเธอยังคงอยู่ในเรือนจำที่เซาท์แคโรไลนา แต่กระนั้นก็ยังมีข่าวเล็ดรอดสู่โลกภายนอก


ว่าเธอมีเพศสัมพันธ์กับยามสองคนในคุก จนเธอเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


 



 



000


000


000



 




 



8. Karla Homolka (4 พฤษภาคม 1970)



 




 





 




 



คาร์ล่า โฮมอลก้า ฆาตกรต่อเนื่องชาวแคนาดาผมสีบลอนด์นี้เป็นที่รู้จักของชาวแคนาดา


ในฐานะฆาตกรที่น่าเกลียดชังและคนทรยศเพศหญิง เธอได้ร่วมมือกับแฟนของเธอ


พอล เบอร์นาร์โด ในการช่วยเหลือแฟนข่มขืนน้องสาวแท้ๆ ของตนเอง


จนน้องสาวเธอขาดใจตาย (เนื่องจากพิษสารมึนเมา) แสดงให้เห็นว่าเธอบูชาแฟนของเธอ


มากยิ่งกว่าครอบครัวของเธอเสียอีก



 



แต่แฟนของเธอยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น เขายังบังคับให้เธอร่วมมือล่อลวง ลักพาตัว


ข่มขืน และฆ่าเด็กสาวสองคน รวมไปถึงให้เธอถ่ายวีดีโอเทปอัดเก็บไว้ด้วย


มีทั้งตอนขับถ่าย ข่มขืน ทรมาน และเซ็กต์วิตถาร (เช่นใช้ขวดไวท์ทิ่มทวารหนัก,


ฉี่รดตัวเหยื่อ) ก่อนที่จะฆ่ารัดคอตายและเอาศพไปทิ้ง


ก่อนที่เรื่องจะจบลงเมื่อปี1993 เมื่อคาร์ล่าทนแฟนตบตีไม่ไหวเลยออกมาแฉเรื่องราว


สิ่งที่ทั้งสองทำทั้งหมดให้ตำรวจฟัง



 



หลังจากที่พอลถูกจับกุม ความจริงคาร์ล่าน่าจะโดนด้วย ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด


หากแต่เธอได้ใช้ความเป็นผู้หญิง สวมบทเป็นเหยื่อผู้น่าสงสารที่โดนสามีบังคับให้ร่วมมือ


ไม่งั้นเธอจะเป็นเหยื่ออีกคน แถมเธอยังสามารถเจรจาต่อรองในชั้นศาลโดยแลกโทษเบา


เพื่อให้เธอเป็นพยานให้โทษแก่นายพอล เบอร์นาร์โด ซึ่งมันก็ได้ผล


แฟนของเธอโดนจำคุกตลอดชีวิต ส่วนเธอใช้เวลา 12 ปีในคุก และถูกปล่อยเป็นอิสระ


ในปี 2005 หลังออกจากคุกเธอยังสวมบทบาทเป็นหญิงสาวผู้น่าสงสารออกสถานีโทรทัศน์


จนเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งแคนาดา ใน2007 คาร์ล่าตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนหน้า


พาลูกชายอายุขวบกว่าๆ อพยพไปต่างประเทศ  ในปี 2009 คาร์ล่าก็กลับมาอีกครั้ง


มีข่าวลื่อว่าเธอกลับไปเรียนกฎหมายและใช้ชีวิตใหม่



 




 



000


000


000


 



 



7. Beverly Allitt (4 ตุลาคม 1968)



 




 





 




 



เบเวอรี่ เอลลิทท์ เธอมีฉายาว่า ยมทูตแห่งความตายเป็นนางพยาบาลที่ได้รับฉายา


ว่า ยมทูต เป้าหมายของเธอคือเหล่าเด็กที่ไร้เดียงสาที่ไร้ทางสู้


ในขณะที่เธอทำงานเป็นนักเรียนพยาบาลในแผนกผู้ป่วยเด็กใน น็อตติงแฮม


และเคสเตเวน โดยวิธีการสังหารของเธอคือการใช้โพแทสเซียมคลอดไรด์หรืออินซูลิน


เข้าสู่ร่างกายของเด็กเหล่านั้น เพื่อทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น


ส่งผลทำให้เด็กในหอผู้ป่วยที่เธอรับผิดชอบเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำถึง 13 ชีวิต



 



การโจมตีเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์ โดยเด็กที่ตายเหล่านี้มีอายุเพียงเจ็ดสัปดาห์


หรือห้าขวบเท่านั้น หลังเธอถูกจับกุมจิตแพทย์ผู้ทำการตรวจสอบสุขภาพจิต


แต่เธอได้อ้างถึงความผิดปกติของสุขภาพจิตของเธอที่เรียกว่า Munchausen Syndrome 


ซึ่งโรคดังกล่าวนี้ไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการสมมุติของเธอเอง โดยเธออ้างว่าเธอทำร้าย


และฆ่าเด็กเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นๆ ให้มองเธอบ้าง


สุดท้ายเธอถูกพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ในน็อตติ้งแฮมคราวน์คอร์ทในปี 1993


และรักษาทางจิตที่โรงพยาบาล Rampton Secure



 




 



000


000


000


 



 



6. Andrea Yates(2 กรกฎาคม 1964)



 




 





 




 



บางครั้งอาการป่วยทางจิตก็สามารถก่อให้เกิดอาชญากรรมได้เช่นกัน จำพวกความผิดปกติ


ของบุคลิกภาพเช่นได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง (จำพวกเสียงสวรรค์) ให้ทำอะไรบางอย่าง


ที่แสนจะโหดร้าย เช่น อย่างกรณีของแอนเดรีย เยทส์ที่เธอฆ่าลูกชายของเธอทั้งหมดห้าคน


โดยการจับกดน้ำตายหมด



 



แอนเดรีย เยทส์ไม่ได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นจิตเภท แต่เธอมีอาการเจ็บป่วยทางจิต


รวมไปถึงสุขภาพมาช้านาน เธอพยายามฆ่าตัวตาย และเกือบเสียชีวิตหลังคลอดบุตรมาแล้ว


เธอเป็นคนคลั่งศาสนาอย่างน่ากลัว และมีโรคอารมณ์แปรปรวนหลังคลอด 


จิตแพทย์ได้ให้คำแนะนำเธอว่าอย่ามีบุตรมาก แต่ปรากฏว่าเธอคลอดเด็กจำนวนมากเกินไป


เธอเลี้ยงลูกทั้งห้าของเธอไม่ไหว เด็กพวกนี้รำคาญเกินไปสำหรับเธอ สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจ


สังหารลูกๆ ของเธอ



 



เมื่อวันที่ วันที่ 20 มิถุนายน 2001 นางแอนเดรียเข้ามาในห้องนอนของเด็ก


และปลุกเด็กทุกคน และให้กินอาหารเช้า ระหว่างที่เด็กกินอาหาร เธอก็ไปห้องอาบน้ำ


แล้วปล่อยน้ำให้เต็มอ่าง จากนั้นเธอก็ฆ่าลูกโดยการกดน้ำจนตาย โดยเธอฆ่าลูกตามลำดับ


เป็นรายตัว ทีละคนทีละคน หลังจากที่เธอฆ่าลูกเธอสี่คนแล้วทั้งหมดถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัว


เปียกแล้วเอามานอนบนเตียง ส่วนเด็กอีกคนปล่อยทิ้งไว้ที่อ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยอุจาระ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์