โด้เหมาผีโซ้ยกุหลาบ2-0เรือ-โบลตัน0-0,ไก่บี้4-0













 โด้เหมาผีโซ้ยกุหลาบ2-0เรือ-โบลตัน0-0,ไก่บี้4-0

ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ฟอร์มสุดเฉียบหลังเปิดรังถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 ด้าน ไก่เดือยทอง สเปอร์ส ระเบิดฟอร์มโหด เมื่อไล่ยิงแหลกวีแกน 4-0 ขณะที่ โบลตัน แบ่งแต้มกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ด้วยสกอร์ 0-0 เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้เสมอ พอร์ทสมัธ 0-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา


ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก


วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2550


แมนฯ ยูไนเต็ด 2 - แบล็คเบิร์น 0


ปีศาจแดง เปิดบ้านพบแบล็คเบิร์น โดยหากเจ้าบ้านเก็บ 3 แต้มจะขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราว แต่ทีมปีศาจแดง ไม่มีเวย์น รูนี่ย์ ที่บาดเจ็บพัก 4 สัปดาห์ โดยเป็นหลุยส์ ซาฮา ลงมาเป็นตัว จริงแทน ส่วนทีมเยือนมีทั้งมอร์เท่น กัมสท์ พีเดอร์เซ่น, โรเก้ ซานตา ครูซ และเบนนี่ แม็คคาร์ธี ในแนวรุก


เกมเริ่มมาได้ 3 นาที ปีศาจแดง มีลุ้นประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อคาร์ลอส เตเวซ พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนล็อก 2 จังหวะแล้วยิงข้ามคานออกไป


แต่แบล็คเบิร์น ก็ตอบกลับเช่นกัน ในนาทีที่ 6 เมื่อกัมสท์ พีเดอร์เซ่น ตัวแสบของแบล็คเบิร์น ต่อบอลกับเพื่อนร่วมทีม ก่อนจบด้วยการซัดจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลยังไม่ตรง กรอบ


เกมค่อนข้างสูสีกัน และเป็นทีมเยือนเกือบออกนำ ในนาที 19 เมื่อคริสโตเฟอร์ แซมบ้า เก็บตกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดไกลชนเสาเต็มๆ


โอกาสใกล้เคียงสุดของปีศาจแดง เกิดในนาทีที่ 22 จากจังหวะเตะมุม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วอลเล่ย์ด้วยซ้ายบริเวณจุดโทษ ทว่าเดวิด เบนท์ลี่ย์ ยืนเคลียร์บนเส้นออกไปได้อย่างฉิว เฉียด


หลังพยายามอยู่ช่วงหนึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูออกนำสมใจ ในนาทีที่ 34 จากลูกเตะมุมที่ไรอัน กิ๊กส์ เปิดมาให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นโขกตุงตาข่าย


ถัดจากนั้นอีกนาทีเดียว ปีศาจแดง หนีเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่คาร์ลอส เตเวซ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบลมายังเสาสองให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แปติดมือ แบร็ด ฟรีเดล แต่ก็แรงพอที่จะเป็นประตู


แบล็คเบิร์น พยายามเปิดเกมเข้าแลก นาทีที่ 42 เดวิด เบนท์ลี่ย์ ยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ ทว่าไปตรงตัวฟาน เดอร์ ซาร์ จากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบ 45 นาทีแรกแมนฯ ยูไนเต็ด นำแบล็คเบิร์น 2-0


กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง แค่นาทีเดียวแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูที่ 3 เมื่อไรอัน กิ๊กส์ ยิงชิพจากนอกกรอบข้ามคานออกไป


แบล็คเบิร์น พยายามตั้งเกมบุกเพื่อหวังทวงประตูคืน แต่สถานการณ์ของทีมต้องแย่ลงไปในนาทีที่ 53 เมื่อเดวิด ดันน์ ไปเสียทำฟาวล์ใส่หลุยส์ ซาฮา จนโดนใบเหลืองที่ 2 ของเกมเป็นใบแดง ออกไป


หลังมีผู้เล่นเป็นรองแบล็คเบิร์น ตั้งรับตลอด และแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะได้ประตูที่ 3 ในนาทีที่ 61 เมื่อโรนัลโด้ ยิงหลุดกรอบแบบมีเสียว


แมนฯ ยูไนเต็ด ครองเอมเอาไว้ได้หมด ขณะที่แบล็คเบิร์น ก็พยายามหาจังหวะสวนลุ้นทำประตู แต่ก็ไม่มีอะไรจะแจ้ง นาทีที่ 75 มอร์เท่น กัมสท์ พีเดอร์เซ่น ลองลุ้นยิงจากนอกกรอบ บอลลอยออกไปแบบไม่มีหางเสือ


เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะได้ประตูที่ 3 ถึง 2 ครั้ง จากจังหวะที่โรนัลโด้ ยิงมุมแคบแฉลบกองหลังออกไป และจากจังหวะเตะมุมริโอ เฟอร์ดินานด์ ล้มตัวยิงในกรอบเขตโทษ ทว่าฟรีเดล ยังเหนียวทุบบอลไว้ได้


นาที 88 กุหลาบไปเกือบได้ประตูตีไข่แตก จากลูกเตะมุมที่แซมบ้า ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดบนเส้นก่อนที่กองหลังจะเคลียร์ออกไป เวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น หมดเวลาการแข่งขันแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะแบล็คเบิร์น 2-0 เป็นจ่าฝูงชั่วคราว


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, คาร์ลอส เตเวซ, หลุยส์ ซาฮา
แบล็คเบิร์น : แบร๊ด ฟรีเดล, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, ไรอัน เนลเซ่น, สตีเฟ่น วอร์น็อค, เดวิด เบนท์ลี่ย์, เดวิด ดันน์, อารอน โมโคเอน่า, มอร์เท่น กัมส์ท พีเดอร์เซ่น, โรเก้ ซานตา ครูซ , เบเนดิก แม็คคาร์ธี่



สเปอร์ส 4 - วีแกน 0


ฆวนเด้ รามอส กุนซือ สเปอร์ส เปลี่ยนทีมแค่จุดเดียวจากชุดที่บุกเอาชนะ ฮาโปเอล เทล อาวีฟ ใน ยูฟ่า คัพ เมื่อวันพฤหัสบดี โดย ยูเนส กาบูล รีเทิร์นสู่ทีมชุดแรกแทนที่ พอล สตัลเทรี่ ขณะที่คู่กองหน้ายังเป็น ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ กับ ร็อบบี้ คีน


ด้าน แฟร้งค์ บาร์โลว์ กุนซือชั่วคราวของ วีแกน เปลี่ยนทีมจากชุดที่แพ้ เชลซี สัปดาห์ก่อนสามจุดโดย ไรอัน เทย์เลอร์, โจซิป สโกโก้ และ เดวิด ค็อตเตอริลล์ ได้เป็นตัวจริง


ออกสตาร์ทได้เพียงสามนาที ไก่เดือยทอง ได้ลุ้นครั้งแรกเมื่อ อารอน เลนน่อน ประสานงานกับ ร็อบบี้ คีน ได้สวยก่อนที่จะจบที่การยิงของ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ซึ่งติดบล็อกอย่างน่าเสียดาย


ถัดมาอีกสองนาที โอกาสเป็นของเจ้าบ้านอีกครั้ง โดยคราวนี้ ยูเนส กาบูล กองหลังร่างใหญ่หนุนขึ้นมากดจาก 35 หลา ลูกพุ่งแรง แต่ข้ามคานออกไป ก่อนที่จังหวะต่อมา เบอร์บาตอฟ หลุดขึ้นทางซ้าย แต่เปิดมาเบาเกินไป




สเปอร์ส เริ่มต้นอย่างวูบวาบ โดยที่ เบอร์บาตอฟ, คีน และ เลนน่อน ประสานงานกันอย่างหวือหวา ก่อนที่ เลนน่อน จะมีโอกาสปั่นสวยๆ ทว่าติดมือ คริส เคิร์กแลนด์ ขณะที่ ปาสกาล ชิมบงด้า เปิดเรียดไปในกรอบเขตโทษทีมเยือนได้สวย ทว่าถูกเคลียร์ทิ้ง


กระทั่งนาทีที่ 13 สาวก ไก่เดือยทอง ก็ได้เฮเมื่อ คีน โชว์ทักษะลากหลบสองกองหลังทีมเยือนทางด้านซ้าย แล้วเปิดให้ เจอร์เมน จีนัส ทิ่มเหน่งๆ ตุงตาข่ายส่ง สเปอร์ส ทะยานนำ 1-0


เกมของเจ้าถิ่นยังเหนือกว่า โดย เบอร์บาตอฟ ได้ซัดเหน่งๆ แต่ข้ามคานไป และเมื่อถึงนาทีที่ 26 สกอร์ก็เปลี่ยนเป็น 2-0 จนได้ จากจังหวะที่ เบอร์บาตอฟ จ่ายให้ จีนัส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปกระทุ้งเม็ดที่สองของตัวเองในแม็ตช์นี้


สเปอร์ส ยังไม่ผ่อนเกมจนมาได้ประตูหนีเป็น 3-0 ในนาทีที่ 34 เมื่อ เบอร์บาตอฟ แตะให้ เลนน่อน วอลเล่ย์จาก 25 หลาเสียบตาข่ายอย่างงามหยดชนิดที่ส่งประกวดประตูแห่งฤดูกาลได้เลย


วีแกน พยายามโต้ตอบ โดย เดนนี่ เลนซาต วางยาวหมายจะให้ มาร์คัส เบนท์ แต่ พอล โรบินสัน ออกมาตัดไว้ได้สวยในจังหวะนี้ จบครึ่งแรก สเปอร์ส ที่บุกอยู่ข้างเดียวนำอยู่ 3-0 โดย เบอร์บาตอฟ เป็นกลจักรสำคัญในเกมรุกของ ไก่เดือยทอง ขณะที่ คีน, เลนน่อน, จีนัส ก็สนับสนุนได้ดี


เปิดฉากครึ่งหลัง คีน เกือบได้หลุดเดี่ยว แต่ทว่า ไตตัส บรัมเบิ้ล ตัดเอาไว้ได้สวย ก่อนที่จังหวะต่อมา อดีตดาวเตะ นิวคาสเซิ่ล จะตัดลูกวางยาวของ ชิมบงด้า เอาไว้ได้อีกครั้ง


บาร์โลว์ แก้เกมด้วยการส่งเด็กเก่า สเปอร์ส อย่าง ไมเคิ่ล บราวน์ ลงมาแทน โจซิป สโกโก้ ในนาทีที่ 64 ก่อนที่ เลนน่อน จะจ่ายให้ จีนัส ส่งลูกเข้าไปตุงตาข่าย แต่คราวนี้ไม่นับ เพราะไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว


นาทีที่ 67 ในสนามมี เบนท์ อยู่สองคนเมื่อ รามอส ส่ง ดาร์เรน เบนท์ ลงมาแทน คีน ก่อนที่อีกนาทีถัดมา จีนัส จะได้ปั่นฟรีคิก แต่ทว่าข้ามคานไป


กระทั่งนาทีที่ 72 สเปอร์ส ก็หนีห่างไปเป็น 4-0 จากจังหวะที่ จีนัส สไลด์บอลให้ ดาร์เรน เบนท์ ที่เพิ่งเปลี่ยนลงมาแตะแล้วอัดเต็มเหนี่ยวผ่านมือ คริส เคิร์กแลนด์ เข้าเสาไกลอย่างสุดสวย


เบอร์บาตอฟ ไหลให้ เบนท์ ได้สวย แต่ดาวยิงผิวหมึกซัดหลุดกรอบไป ขณะที่ ดิดิเย่ร์ โซโกร่า เกือบพังประตูแรกในสีเสื้อ สเปอร์ส ได้ ถ้าหากไม่โดน เคิร์กแลนด์ ปฏิเสธเสียก่อน จากนั้น เคิร์กแลนด์ โชว์ซูเปอร์เซฟอีกครั้งเมื่อพุ่งปัดความพยายามของ เบอร์บาตอฟ แม้ว่า กาบูล จะซ้ำทว่าก็ออกไป


ในที่สุด วีแกน ก็ยิงตรงกรอบจนได้ในนาทีที่ 88 แต่ทว่าลูกยิงของ อองตวน ซิเบียร์สกี้ ก็เบาเกินไป เลยทำให้ โรบินสัน รับสบายๆ จบเกม 90 นาที ไก่เดือยทอง เริงร่า 4-0 อย่างไรก็ดี เพิ่งนับเป็นชัยชนะนัดที่สองในซีซั่นนี้ของพวกเขาเท่านั้น ขณะที่ วีแกน พ่ายรวดมาเจ็ดนัดแล้ว


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน, ปาสกาล ชิมบงดา, ยูเนส คาบูล, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, อี ยอง-เพียว, แอรอน เลนนอน, ดิดิเยร์ โซโกร่า, เจอร์เมน จีนาส, สตีด มัลบรองก์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ร๊อบบี้ คีน
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์, ไรอัน เทย์เลอร์, มาริโอ เมลช็อต, ติตัส แบรมเบิ้ล, พอล ชาร์เนอร์, อันเดรส กรันควิสต์, โจซิป สโกโก้, เควิน คิลบาน, เดนนี่ ลานด์ซาต, เดวิด คอทเตอริลล์, มาร์คัส เบนท์



โบลตัน 0 - มิดเดิ้ลสโบรช์ 0


โบลตัน วันเดอเรอร์ส เปิดรังเจอกับ มิดเดิ้ลสโบรช์หลังจากที่เพิ่งจะโชว์ฟอร์มเยี่ยมเสอกับบาเยิร์น มิวนิค 2-2 ในศึกยูฟ่า คัพ รอบแบ่งกลุ่มเมื่อกลางสัปดาห์ โดยที่เกมในครึ่ง แรกโบโร่บุกมากกว่าแต่ยังมีปัญหาเรื่องการเข้าทำประตู และต่อมานาทีที่ 8 เกวิน แม็คแคนน์ มีโอกาสยิงระยะ 12 หลาให้กับโบลตัน แต่หลุดออกไป


และในช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถทำประตูกันได้จบลงในครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0


ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นเพิ่มเติม เล่นใหม่ได้ 5 นาที ลี แคลตเตอร์โมล ได้ซัดจากนอกเขตโทษ แต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียว


เกมสูสีกันทีเดียวผ่านไปถึง 1 ชั่วโมง โบลตัน ได้ลุ้นจาก เควิน เดวี่ส์ ที่ซัดไม่ถึง 10 หลา แต่ไปติดบล็อกของ จอร์จ บัวเต็ง น่าเสียดาย


เดอะ โบโร่ เริ่มดีขึ้น น.64 จอร์จ บัวเต็ง ผ่านบอลให้ คริส ริกก็อตต์ ยิง 10 หลาบอกติดกองหลังเจ้าบ้านนิดเดียว จากนั้นไม่นาน ซานลี่ โดนถอดออกแล้วเป็น เบ็น ฮัทชินสัน ที่ได้เล่นแทน


ทีมเยือนน่าได้ประตูขึ้นนำเหลือเกิน น.71 เมื่อ เฌเรมี่ อาลิยาดิแยร์ ได้ส่องจากทางซ้าย แต่ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น เซฟไม่พลาด ต่อมาไม่นานโกล์เจ้าบ้านยังเซฟลูกยิงของ ดาวนิ่ง ได้อีกชนิดหวุดหวิด


น.83 สเตลิออส ยานนาโคปูลอส ตัวสำรองของ โบลตัน ได้ลุ้นทำประตูชัยให้เจ้าถิ่นเช่นเดียวกัน แต่ก็พลาดไปเพราะ คริส ริกก็อตต์ พุ่งเข้าขวางเอาไว้ได้พอดี ก่อนหมดเวลา 3 นาที เกวิน แม็คแคนน์ ได้ส่องจากนอกเขตเต็มๆแต่บอลหลุดกรอบออกไป จากนั้นไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบเกมทั้งคู่เสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โบลตัน : ยูสซี่ ยาสเคไลเน่น, เกวิน แม็คแคนน์, อับดุลเลย์ ไมเต, แอนดรูว์ โอไบรอัน, เกรัลด์ ซิด, แดนนี่ กัธรี, เควิน โนแลน, อีบัน กัมโป, แกรี่ สปีด, ริการ์โด้ การ์ดเนอร์, เควิน เดวิส
มิดเดิ้ลสโบรช์ : มาร์ค ชวาร์เซอร์, ลุค ยัง, คิส ริกกอตต์, เดวิด วีเทอร์, แอนดรูว์ เทย์เลอร์, แกรี่ โอนีล, จอร์จ บัวเต็ง, ลี แคตเทอต์โมล, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เชเรมี่ อาลิยาดิแยร์, ทุนกาย ซานลี



พอร์ทสมัธ 0 - แมนฯ ซิตี้ 0

สนาม :แฟร็ตตัน พาร์ค


เกมที่สนาม แฟร็ตตัน พาร์ค พอร์ทสมัธ เปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้เจ้าบ้านไม่มี ปาป้า บูบ้า ดิย็อป ที่ติดโทษแบน จึงปรับระบบมาใช้ เอ็นวานโก้ คานู ยืนหน้าคู่กับ เบนจามิน เอ็มวารูวารี


ด้านทีมเยือนได้ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ หายเจ็บกลับมาลงเล่น แต่ต้องขาด ไมเคิ่ล จอห์นสัน ที่เจ็บ ทำให้ เกลสัน แฟร์น็องเดส ได้โอกาสลงสนาม ส่วนหน้าเป้าก็ปรับมาใช้ ดาริอุส วาสเซลล์ ด้วย


เริ่มเกมขึ้นมาไม่นาน พอร์ทสมัธ ได้ลุ้นประตูขึ้นนำทันที จากจังหวะยิงของ เอ็นวานโก้ คานู บอลถูก โจ ฮาร์ท ปัดออกมา ก่อนที่ ฌอน เดวิส จะซ้ำโด่งข้ามคานออกไป


นาทีที่ 19 เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาปอมปีย์ ลุยขึ้นมาถึงระยะ 25 หลา ก่อนยิงไกลเต็มเท้า แต่ โจ ฮาร์ท ก็ยังพุ่งปัดเอาไว้ได้


โอกาสงามๆ ยังเป็นของปอมปีย์อยู่เช่นเดิม นาทีที่ 25 เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมาซัดด้วยซ้ายระยะ 18 หลา โจ ฮาร์ท บินปัดข้ามคานออกไปได้อีก จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0


ครึ่งหลัง ปอมปีย์ ส่ง แม็ตต์ เทย์เลอร์ ลงมาแทน จอห์น อูตาก้า ก่อนที่นาที 63 จะส่ง เดวิด นูเจนท์ ลงมาแทน เอ็นวานโก้ คานู อีกคน


นาทีที่ 67 เรือใบสีฟ้า เกือบได้ประตู เมื่อ มาร์ติน เปตรอฟ เปิดบอลให้ เอลาโน่ ซัดไปติดตัว เดวิด เจมส์ อย่างน่าเสียดาย


ถัดมา 5 นาที พอร์ทสมัธ เกือบขึ้นนำเช่นกัน เมื่อ เดวิด นูเจนท์ กองหน้าตัวสำรอง ตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย


นาทีที่ 74 เป็นโอกาสของเจ้าบ้านอีกครั้ง แต่ เกล็น จอห์นสัน ก็ซัดไม่ผ่านมือ ฮาร์ท จบเกม พอร์ทสมัธ จึงเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ ไป 0-0


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, โนเอ้ ปามาโร่ต์, จอห์น อูตาก้า, ฌอน เดวิส, ซัลลี่ย์ มุนตารี่, นิโก้ ครันชาร์, เอ็นวานโก้ คานู, เบนจามิน เอ็มวารูวารี
สำรอง : เจมี่ แอชดาวน์, แม็ทธิว เทย์เลอร์, เปโดร เมนเดส, เดวิด นูเจนท์, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เวดราน ชอร์ลูก้า, ริชาร์ด ดันน์, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, เอลาโน่, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดีทมาร์ ฮามันน์, เกลสัน แฟร์น็องเดส, มาร์ติน เปตรอฟ, ดาริอุส วาสเซลล์
สำรอง : อันเดรียส อิซัคส์สัน, ไมเคิ่ล บอลล์, โจวานนี่, โรลันโด้ เบียงคี่, จอร์จอส ซามาราส


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์