ดาร์บี้ชืด!เรือ-ผีเกร็งทั้งเกมเจ๊าโนสกอร์

ดาร์บี้ชืด!เรือ-ผีเกร็งทั้งเกมเจ๊าโนสกอร์

ไม่ใช่เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ที่ใครหลายคนหวังเอาไว้ เพราะเกมนี้นักเตะทั้งสองทีมเล่นกันเกร็งตลอด 90 นาที โอกาสในการลุ้นประตูค่อนข้างน้อย ทำให้เสมอกันไป 0-0 แบ่งแต้มกันแบบมิิตรภาพเพื่อนบ้าน

พรีเมียร์ ลีก

วันพุธที่ 10 ตุลาคม 2553


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 : 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู :


เีรือใบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของอริร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพื่อบรรเลงเพลงแข้งเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ซึ่งแฟนบอลหลายคนต่างก็เฝ้ารอ

แมนฯซิตี้ได้ตัวคาร์ลอส เตเบซกลับมาฟิตพร้อมลงสนาม หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเจ้าตัวอาจวืดเกมนี้ไป

ตำแหน่งอื่นๆก็มากับพร้อมพรั่งเหมือนเดิม 3 ตัวกลางเป็นไนเจล เด ยอง, แกเร็ธ แบร์รี่ และยาย่า ตูเร่ พร้อมทั้งปีกสองข้างอย่างเจมส์ มิลเนอร์ และดาวิด ซิลบา

ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้รับข่าวดีเมื่อหลุยส์ นานี่ และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟผ่านความฟิตกลับมาช่วยทีมได้ทันการณ์

โดยเกมนี้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเลือกใช้หน้าเป้าเหมือนอย่างเจ้าบ้าน โดยมีดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ขนาบข้างด้วยนานี่ และปาร์ค จี ซอง

ครึ่งแรก

เรือใบมาดีกว่านิดๆ
ผ่าน 10 นาทีแรก เกมส่วนใหญ่ตกเป็นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่วันนี้ได้ครองบอล จ่ายกันหาจังหวะที่จะพยายามเจาะแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดกันได้ดี แต่ก็ยังไม่สามารถหาโอกาสยิงได้

ด้านแมนฯยูไนเต็ดยังช่วงต้นเกมยังครองบอลไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไร แม้จะมีจังหวะได้สวนทำเกมรุกขึ้นไปบ้าง แต่จังหวะยังไม่เป๊ะพอเหมือนกับว่ายังคงดูท่าที หรือไม่ก็เกร็งๆกันอยู่

ผีได้จบแล้ว
นาทีที่ 15 หลังจากเปาะแปะๆอยู่ในช่วงแรก แมนฯยูไนเต็ดก็เริ่มที่จะต่อบอลทำเกมกันได้ไหลลื่นมากขึ้นกว่าเดิม และมีโอกาสได้จบในจังหวะสุดท้ายจากลูกยิงไกลของไมเคิ่ล คาร์ริคที่พุ่งออกหลังไป

ผีเสียว!พี่ติ๊กเจ็บ
อีก 2 นาทีต่อมา แฟนแมนฯยูไนเต็ดหวั่นใจกันเป็นแถว เมื่อปาทริซ เอฟร่าขึ้นแย่งโหม่งบอลกับทางผู้เล่นของแมนฯซิีตี้แล้วลงผิดท่าทำให้เจ็บข้อ เท้า แต่หลังจากเช็กอาการดูแล้วก็สามารถกลับมาลงเล่นต่อได้

โชว์เลย!พี่ติ๊กล้มตัวยิงติดเซฟ
นาทีที่ 21 ปาทริซ เอฟร่าโชว์ให้เห็นเลยว่าอาการเจ็บก่อนหน้านี้หายไปแล้ว เมื่อเขาทำชิ่งจังหวะ 1-2 กับปาร์ค จี ซองหลุดเข้าไปล็อกบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะล้มตัวยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัดเข้ากลางประตูไปติดเซฟของโจ ฮาร์ทที่ยืนปักหลักรับไว้ได้ไม่ยาก

เกมยังไม่มีความต่างเหมือนเดิม
เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เกมของทั้งสองฝ่ายก็ผลัดกันรุกรับอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก และที่สำคัญคือโอกาสยิงก็ยังคงถือว่าน้อยอยู่

เตฟปั่นฟรีคิกสวย-น้าซาร์เซฟ
นาทีที่ 35 คาร์ลอส เบเตซเกือบที่จะทำประตูทีมเก่าของเขาได้ จากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษที่ทั้งระยะ หรือตำแหน่งน่ารักน่าลุ้นเหลือเกิน ซึ่งหัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ก็วิ่งไปปั่นด้วยขวาข้างถนัด บอลข้ามกำแพงและกำลังจะพุ่งเข้าไปซุกตาข่ายอยู่แล้ว แต่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ก็เหินมาปัดออกหลังได้ทันเวลา

ยาย่าลากกระจาย
นาทีที่ 41 หลังจากโดนทางแมนฯยูไนเต็ดครอลบอลกดดันอยู่พักหนึง แมนฯซิตี้ก็มาสวนได้บ้าง จากจังหวะที่ยาย่า ตูเร่ครองบอลกลางสนาม ก่อนสบโอกาสพาบอลลากจี้หนีผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ดถึง 3 คน เกือยที่จะทะลุเข้ากรอบเขตโทษได้อยู่แล้ว แต่ไปโดนเนมันย่า วิดิชที่วันนี้ยืนดักจังหวะบุกของเจ้าบ้านได้หมด สกัดเอาไว้ได้ก่อน ไม่งั้นแล้วเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์งานเข้าชัวร์ๆ

ราฟาเอลฟาดปากเตฟ
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เกิดเหตุกระทบกระทั่งกันนิดหน่อยจากจังหวะที่คาร์ลอส เตเบซไปทำฟาวล์ราฟาเอล แล้วแบ็คหัวฟูไม่ยอมมีงัดกันเล็กน้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นมาทำหน้าตาขึงขังเถียงกันไม่หยุดปาก จนผู้ตัดสินต้องเข้ามาห้ามปราม

จบ 45 นาทีแรกของเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ทั้งคู่ยังคงเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง

แอบเสียว!น้องน้ำตาลลง
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 4 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็จำใจต้องใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนแรก เพราะราฟาเอลมีปัญหาบาดเจ็บ จึงต้องส่งเวส บราวน์ลงเล่นไปแทน

เบิร์บกดสูตรติดแต่ตรงตัว
นาทีที่ 56 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ครึ่งหลังนี้ได้ต่อบอล ครองบอลกันได้มากขึ้นก็มีโอกาสจากจังหวะที่เวส บราวน์เปิดบอลเข้ากลางกรอบเขตโทษ แม้จะย้อนหลังไปหน่อย แต่ก็เข้าสูตรของดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่กระโดดเอี้ยวตัวตวัดยิงกลางอากาศ แม้บอลตรงพุ่งเข้ากรอบ แต่ก็ตรงตัวของโจ ฮาร์ทที่รับเอาไว้ได้ไม่ยากเย็น

มันโช่สั่งการหนัก
ผ่านเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกม โรแบร์โต้ มันชินี่กุนซือมาเนี๊ยบของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ทนเฉยอยู่ไม่ได้ต้องออกมาสั่งการลูกทีมอย่างหนัก เพราะดูจะเนือยลงไป ปล่อยให้แมนฯยูไนเต็ดครองบอลไปซะมาก

ผีระส่ำ!พี่ติ๊กไม่ไหว-จับฉ่ายลง
นาทีที่ 67 งานนี้ได้มีออนทัวร์กันแน่นอนสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะปาทริซ เอฟร่าทนอาการบาดเจ็บที่ได้รับมาจากในช่วงครึ่งแรกไม่ไหว ขอเปลี่ยนตัวออก จอห์น โอเชียจึงได้รับโอกาสลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทน

AJมาแล้วครับท่าน
นาทีที่ 73 จอห์น โอเชียระวังเอาไว้เลย เพราะทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ส่งเอาอดัม จอห์นสัน ลงไปเล่นแทนเจมส์ มิลเนอร์ งานนี้ถ้าหากกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดเปิดช่องเมื่อไรอาจมีน้ำตาตกในได้แน่

ผีจัดถั่วแทนเบิร์บ
อีก 5 นาต่อมา แมนฯยูไนเต็ดส่งฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซลงสนามแทนดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่เพิ่งจะหายไข้มาลงเล่นเกมนี้ทัน และน่าจะหมดแรงแล้วออกไปพัก เพื่อเติมความสดในแดนหน้าอีกสักหน่อย

เกมเริ่มบีบอย่างแรง
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม นักเตะของทั้งสองทีมเริ่มมีอาการกดดันออกมาให้เห็นกันพอสมควร เพราะยิ่งเวลาเหลือน้อยลงไปมากเท่าไร หากเกิดข้อผิดพลาด โอกาสที่จะแก้ตัวก็คงไม่มีเหลือแล้ว ทำให้ต้องเน้นมากกันเป็นพิเศษในทุกๆจังหวะ

บายอร์มาไม???
นาทีสุดท้ายของเกมเลยแต่โรแบร์โต้ มันชินี่กลับส่งมานูเอล อเดบายอร์ศูนย์หน้าผิวสีลงสนามแทนคาร์ลอส เตเบซ ซึ่งเมื่อดูจากเวลาแล้วอย่าว่าแต่โอกาสที่จะลุ้นทำประตูให้กับทีมเลย แต่จะจับบอลสักครั้งได้ไหมยังต้องคิดหนัก

จบ 90 นาทีแมนเชสเตอร์ ซิตี้เสมอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป 0-0 ยังคงอยู่อันดับที่ 4 ต่อไป มีเพิ่มเป็น 21 คะแนน

ส่วนทาง ปีศาจแดง ยังอยู่อันดับที่ 2 มีเพิ่มเป็น 24 คะแนนตามหลังจ่าฝูงเชลซีอยู่ 4 คะแนนด้วยกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ :
โจ ฮาร์ท 6,แวนซองต์ กอมปานี 6.5,โคโล ตูเร่ 6,เจอโรม บัวเต็ง 6 (โคลารอฟ น.81,6),ปาโบล ซาบาเลต้า 6,ไนเจล เด ยอง 6,แกเร็ธ แบร์รี่ 6,ยาย่า ตูเร่ 6.5,ดาวิด ซิลบา 7,เจมส์ มิลเนอร์ 6(จอห์นสัน น.73,6),คาร์ลอส เตเบซ 7(อเดบายอร์ น.90)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6,เนมันย่า วิดิช 8**,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7,ปาทริซ เอฟร่า 7(โอเชีย น.69,6),ราฟาเอล 6 (บราวน์ น.49,6),พอล สโคลส์ 6.5,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 6.5,ไมเคิ่ล คาร์ริค 6,ปาร์ค จี ซอง 7,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 7(เฮอร์นานเดซ น.78,6),นานี่ 6.5















_________________
สนับสนุนข่าวโดย www.lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์