ไรอัน กิ๊กส์ : หนึ่งชีวิตของคนดีศรีพรีเมียร์ลีก
![src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/101102A3R30530.jpg]()
เขาเป็นนักเตะสหราชอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จสูงสุด แต่เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับชีวิตของเขา ตัวเขามีมูลค่า 24 ล้านปอนด์ แต่ยังใช้ชีวิตห่างจากที่ๆ เขาเติบโตขึ้นมาเพียงไม่กี่ไมล์ .... ไรอัน กิ๊กส์ เป็นคนดีศรีพรีเมียร์ลีก คนสุดท้ายแล้วหรือไม่ ?
ผมนั่งรอ ไรอัน กิ๊กส์ ตอนที่สังเกตุเห็นชายร่างใหญ่ หนวดขาว เดินมาตามโถงทางเดิน สวัสดี แฮร์รี่ ผมทักชายคนนั้น เขาคือ แฮร์รี่ สเวลส์ เอเยนต์วัย 84 ปีของ กิ๊กส์ เราคุยกันแป๊บนึง ก่อนที่ผมจะรู้ว่า กิ๊กส์ มายืนอยู่ข้างๆ แล้ว ชายหนุ่มผิวสีแทน, แก้มตอบ และหล่อเหลา นี่คือหนึ่งในใบหน้าที่ทุกคนในวงการฟุตบอลจดจำได้ และด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง เขาเหมือนล่องหน เขาเหมือนเด็กน้อย สุภาพ และเชื่อฟัง ที่ออกมาเล่นกับปู่
กิ๊กส์ มีชีวิตค้าแข้งที่แสนน่าทึ่ง เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 11 สมัย และโทรฟี่อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน เขาเป็นนักเตะสหราชอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จสูงสุด และในวัย 35 ปี วัยที่ปีกหลายๆ คนแขวนสตั๊ด เขาได้รับเสียงโหวตจากเพื่อนร่วมอาชีพ ให้ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี และเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ในวัยที่แก่กว่าเดิมอีกคือ 36 ปี เขาได้เป็นนักกีฬาแห่งปีของสถานีสื่อบีบีซี
เห็นแบบนี้ แต่ กิ๊กส์ มีตัวตนที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เขาโตขึ้นมาในชื่อ ไรอัน วิลสัน เขาเล่นให้ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บอยส์ และเป็นกัปตันทีมนักเรียนอังกฤษ แต่ลงเอยด้วยการเป็น ไรอัน กิ๊กส์ นักเตะที่ลงเล่นให้ทีม ปีศาจแดง มากที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นกัปตันทีมชาติเวลส์ หลายๆ คนคิดว่าเขาเป็นคนขาว แต่เขาเป็นลูกครึ่ง และพ่อของเขา แดนนี่ วิลสัน อดีตนักรักบี้ทีมสวินตัน เป็นคนผิวดำ
พ่อเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อเขาอย่างสูง พ่อเป็นฮีโร่คนแรกของผม ผมไม่เคยมีนักฟุตบอลที่นับถือบูชาจริงๆ - ผมชอบ ไบรอัน ร็อบสัน, มาร์ค ฮิวจ์ส - แต่การดูเขาเล่นทุกวันอาทิตย์ ทั้งในบ้าน นอกบ้าน มานาน 3-4 ปี เขาเก่งมาก ผมไปซ้อมกับเขา เขาเป็นคนที่ผมเฝ้ามอง กิ๊กส์ กล่าว แต่เขาก็เกลียดพ่อเหมือนกัน เพราะพ่อลงไม้ลงมือกับแม่ และทิ้งครอบครัวไปตอนที่ กิ๊กส์ อายุ 15 ปี ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขา กิ๊กส์ บรรยายอารมณ์ความรู้สึกของเขาทั้ง การสูญเสีย, ความเจ็บปวด และ โกรธกริ้ว ขณะแบกกระเป๋าใบโตเดินไปส่งพ่อที่สถานีเป็นครั้งสุดท้าย
1 ปีต่อมา กิ๊กส์ เปลี่ยนนามสกุลจาก วิลสัน มาใช้นามสุกลแม่ กิ๊กส์ แล้วนี่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญใช่หรือไม่ ? ใช่ สำคัญเลย ผมใช่ชื่อ วิลสัน มาตลอดสมัยเรียน ตอนนั้น ยูไนเต็ด ไปเล่นฟุตบอลเยาวชนที่ อิตาลี และผมเพิ่งไปทำพาสปอร์ตมาสดๆ ร้อนๆ ผู้ตัดสินเดินเข้ามา และอ่านพาสปอร์ตทุกเล่ม และเขาอ่านชื่อผมออกมาดังๆ และผมบอกว่า - ครับ - ทำเอาทุกคนแบบว่า - อะไรนะ ? แล้วการเปลี่ยนชื่อเป็นการตัดขาดพ่อของเขาใช่มั้ย ? กิ๊กส์ บอกว่า ไม่นะ ไม่ มันแบบว่า - ผมอยู่กับแม่ - มากกว่าจะเป็นการทำอะไรที่เกี่ยวกับพ่อ ทุกวันนี้ กิ๊กส์ ก็ยังใกล้ชิดกับแม่ โดยแทบไม่ได้เจอพ่อเท่าไหร่
แปลกแต่จริง สมัยเด็กๆ กิ๊กส์ ก็เป็นเหยื่อการเหยียดผิวเช่นกัน แม้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเขาเป็นคนขาว แน่นอนว่าที่ที่ผมอยู่ทุกคนรู้จักพ่อผม เพราะมันเป็นเมืองเล็กๆ และเขาเป็นตัวเด่นของทีม สวินตัน ด้วย พวกเขาไปดูพ่อเล่น เห็นข่าวเขาตามหนังสือพิมพ์ พวกเขาจึงรู้ว่าเขาเป็นคนผิวดำ ถ้างั้น ความเป็นคนผิวดำ มีความสำคัญต่อเขามั้ย ? มีแน่นอน มันคือรากเหง้าของคุณ มันคือคุณ มันคือตัวตนของคุณ
สมัยก่อน กิ๊กส์ เคยบอกว่า ความสัมพันธ์แตกร้าวของพ่อแม่ มีส่วนต่อเกมฟุตบอลของเขา มันทำให้เขาเข้มแข็ง แต่ตอนนี้ เขาบอกว่าไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าจะเป็นแบบนั้น บางทีมันอาจจะไม่ใช่แบบนั้น บางทีมันอาจเป็นแค่การหลบหนีปัญหาที่บ้าน มันเป็นการปลดปล่อย
ความจริง กิ๊กส์ นั้นสามารถเป็นนักรักบี้ได้อย่างสบายๆ เขากำลังเล่นให้ทีม ซัลฟอร์ด บอยส์ และ แลงคาสเชอร์ และมีโปรแกรมไปคัดตัวให้ สหราชอาณาจักร ตอนเขาเซ็นสัญญากับ ยูไนเต็ด ผมมองเขาหัวจรดเท้าด้วยความเคลือบแคลง ช่าย คุณคงมองผมตอนนี้ และพูดว่า - คุณเนี่ยนะ นักรักบี้ ! - แต่ตอนนั้นผมเป็นคนตัวสูง เร็ว และยังเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยกีฬารักบี้ กิ๊กส์ กล่าว
เขาเล่นเกมแรกให้ ยูไนเต็ด ตอนอายุ 17 ปี และตั้งแต่ย่างเท้าลงสนาม ทุกคนรู้ว่าเขาคือคนพิเศษ ด้วยผสมที่น่าเหลือเชื่อ ทั้งความเร็ว, ท่วงท่าสวยงาม และการเลื้อยทำเกมราวกับร่ายมนต์ เขาเคยได้รับการยกย่องว่า เป็นปีกที่เลี้ยงบอลได้สวยที่สุดในเกมฟุตบอล เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พูดถึงวิธีการที่เขาเล่นงานฟูลแบ๊กคู่แข่ง บอลที่ติดเท้า, ล็อกไปทางหนึ่ง แล้วก็ล็อกกลับมาทางหนึ่ง เขาฉีกคุณเป็นริ้วๆ
เขาคือหนึ่งในสมาชิกทีมเยาวชนที่น่าอัศจรรย์ เคียงข้างกับ พอล สโคลส์, เดวิด เบ็คแฮม, แกรี่ เนวิลล์ และ นิคกี้ บัตต์ ที่คว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ ปี 1992 และขณะที่ เบ็คแฮม บินออกจากรัง และกลายเป็นนักเตะชื่อก้องโลก แต่ สโคลส์ กับ กิ๊กส์ ปลีกตัวออกมาจากแสงสี และกลายเป็นนักเตะที่เล่นให้สโมสรเดียว ว่าไปแล้วก็คิดย้อนกลับไปเหมือนกัน แต่ความจริงหากย้อนไปร่วม 100 ปีก่อน ก็มีนักฟุตบอลไม่กี่คนที่เล่นให้สโมสรเดียว และน้อยมากที่ยังเล่นในระดับสูงสุดในวัยปลายๆ 30 ปี สรุปได้ว่า สโคลส์ กับ กิ๊กส์ แทบเป็นตัวประหลาดแห่งวงการลูกหนังด้วยซ้ำ
แล้วพวกเขาประพฤติตัวให้อยู่ในกรอบของฟุตบอลยุคอีโก้จัด ได้อย่างไร ก็แค่บุคลิกขจองคุณเท่านั้น กิ๊กส์ กล่าว แล้วทำไมนักฟุตบอลหลายคนสูญเสียความเป็นจริงไป มีเงินมากไปตั้งแต่วัยรุ่น กิ๊กส์ ตอบแบบไม่ต้องคิด มันทำให้สายตาคุณละจากฟุตบอล และคุณไม่มีความหิวกระหายในฐานะนักเตะเหมือนเมื่อก่อน คุณคิดว่าคุณทำได้แล้วก่อนที่คุณจะทำอะไรได้เสียอีก ขนาดผม ผมก็ยังรู้สึกว่าผมสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ และมีอะไรอีกหลายอย่างที่ผมยังสะสางไม่เสร็จ
จากนั้น สเวลส์ ที่นั่งฟังด้วยมาตลอด ก็ขอเปิดปากต่อว่านักฟุตบอลสมัยนี้เสียหน่อย พวกเขาอายุ 16-17 ปี พวกเขายิงได้ 2-3 ประตู แล้วหนังสือพิมพ์ก็ประโคมข่าวยกให้พวกเขาเป็นยอดมนุษย์ แล้วจากนั้นพวกเขาก็บอกว่า - มันกดดัน - บ้าฉิบ ! กดดันบ้าอะไร ? ไรอัน มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ เขาสนุกกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ด้วยครอบครัว และบ้านของเขา เขามีชีวิตสมบูรณ์แบบ แล้วทำไมต้องทำลายมันด้วยการด่า หรือ ล้อเล่นคนอื่น ?
กิ๊กส์ นั่งฟังอย่างเงียบสงบขณะที่ สเวลส์ ระเบิดความไม่พอใจ ก่อนบอกว่าครั้งแรกที่พบกัน กิ๊กส์ เป็นเด็กขี้อายน่าเหลื่อเชื่อ มันทำเอา ปีกเวลส์ ถึงกับหัวเราะ นายไม่คุยกับฉัน 3 เดือนได้มั้ง สเวลส ์ กล่าว ผมบอกเขาว่า - นายโอเคหรือเปล่า ? - และเขาแค่พยักหน้า และผมพูดอีกว่า - นี่นายพูดได้หรือเปล่า ?
ตอนได้เล่นครั้งแรกผมอยู่ในระบบนักเตะเยาวชน ได้เงินสัปดาห์ละ 29.50 ปอนด์ และมีค่าใช้จ่าย 10 ปอนด์ได้ ผมได้ 40 ปอนด์ตอนอยู่ทีมชุดใหญ่ ผมไม่สนใจเลย กิ๊กส์ กล่าว ขณะที่ สเวลส์ บอกว่า ฉันกล้าพนันว่านายคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเศรษฐีเลย
กิ๊กส์ กล่าวอีกว่า ผู้จัดการทีมรับปากกับผมว่า ยิ่งนายลงเล่นมากเท่าไหร่ ฉันจะให้รางวัลนายมากเท่านั้น ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว มันไม่ใช่แค่นักเตะ มันคือวัฒนธรรม บางครั้งมันเป็นคนที่รายล้อมพวกเขา คนที่ดูแลพวกเขาอยู่ เงินที่พวกเขาจะได้ บางครั้งหลายๆ ครอบครัวยอมทิ้งงาน และชีวิตเพื่อลูกๆ ของพวกเขา นี่ไม่มีทางเกิดขึ้นหากเป็นเมื่อสัก 10 กว่าปีก่อน
เด็กๆ ที่ ยูไนเต็ด โชคดีที่อยู่ในความดูแลของ เฟอร์กูสัน ภาพ กิ๊กส์หนุ่ม ที่จะอยู่ทนนานตลอดไปคือ เฟอร์กูสัน นำเขาออกห่างจากการเป็นข่าว ปกป้องเขา ซึ่งแม้กระทั่งตอนนี้เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราวชีวิตของเขามากนัก มีสักกี่ครั้งที่เราเห็นภาพ สเตซี่ย์ ภรรยาของเขา ปรากฎตามหน้าหนังสือพิมพ์ ส่วนลูกๆ ของเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง กิ๊กส์ กล่าวว่า ผมเรียนรู้มันตั้งแต่ช่วงต้นๆ ผมเป็นข่าว และผมไม่สนุกเลย พวกเขาอยากรู้เรื่องแฟนของคุณ และพอมันเริ่ม คุณก็หยุดไม่ได้แล้ว ทำไมคนเราถึงต้องอยากรู้ทุกเรื่อง
กิ๊กส์ บอกว่า เฟอร์กูสัน ย้ำพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเราโชคดีขนาดไหน พวกเขาไม่มีทางมีความสุขมากขนาดนี้ได้อย่างไร เบ็คส์ คือตัวอย่างที่ดี เขาก็ยังมีความกระหายพอๆ กับคนที่เตะฟุตบอลทุกคน ผู้คนจะน็อกเขา แต่ทุกคนในวงการฟุตบอลเคารพสิ่งที่เขาทำ และเขาทำมันได้อย่างไร แล้วเขากลัว เฟอร์กูสัน มั้ย ? ผมจะไม่ขอโกหกนะ สมัยก่อนผมกลัวเขามาก เขาดุคุณ ไม่สนด้วยว่าคุณเป็นใคร เขาน่ากลัวมาก
ส่วนที่ว่าเขาประทับใจกับ ไดร์เป่าผม การเลืองชื่อของ เฟอร์กี้ หรือไม่ ? กิ๊กส์ บอกว่า ตอนแรกๆ ผมคงประทับใจไม่ไหวหรอก ผมเจอเขาตอนอายุ 13 ขวบ และตอนนี้ผมอายุ 36 แล้ว เพราะฉะนั้น ความสัมพันธ์มันก็ย่อมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สมัยนั้ยเขาน่ากลัวมาก
แล้วอะไรที่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ เฟอร์กูสัน พูดกับเขา ? กิ๊กส์ กล่าวว่า เขาน่าจะพูด 2 ครั้งได้มั้ง - นายจะไม่มีวันได้เล่นให้สโมสรแห่งนี้อีก แล้ว กิ๊กส์ ไปทำอะไรมาถึงโดนเจ้านายด่าว่าแบบนั้น ผมก็ไม่รู้ ผมอาจเลือกยิงแทนที่จะเปิดบอล ! สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับ เฟอร์กี้ ก็คือ เขาด่าผมสาดเสียเทเสีย แต่วันถัดมาก็ลืมแล้ว
แล้วเป็นความจริงมั้ยที่เขานั่งข้างๆ เบ็คแฮม ตอน เฟอร์กูสัน หวดสตั๊ดไปโดนหน้าดาวเตะรูปกหล่อ ? กิ๊กส์ ตอบว่า ครับ เบ็คส์ จะแต่งตัวข้างผม มันก็เลยลอยผ่านผมไป แล้วมันเป็นการหวดสตั๊ดที่รุนแรงมั้ย มันน่าเหลือเชื่อ น่าเหลือเชื่อจริงๆ ให้คุณลองทำใหม่อีกเป็นล้านๆ ครั้งก็คงไม่ได้ แล้วมันโดน เบ็คแฮม ตรงไหน ? แถวๆ ตาเขา แล้วอารมณ์ในห้องแต่งตัวเป็นยังไงหลังจากนั้น ? กิ๊กส์ ตอบอย่างชัดเจน เพราะมันมีอะไรเยอะแยะถูกกล่าวถึงจากเหตุกาณ์นี้ สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ นักฟุตบอล และโดยเฉพาะผม เห็นทุกอย่างภายในห้องแต่งตัว ทุกอย่างเลย ผมเห็นผู้จัดการทีมมีเรื่องกับนักเตะ นักเตะมีเรื่องกับเขา นักเตะทะเลาะกันเอง ผู้จัดการทีมทะเลาะกัน ทุกอย่างเลย
ทัศนคติเรื่องความเป็นส่วนตัว และคนมีชื่อเสียง คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตนักเตะของ กิ๊กส์ เขาไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ขนาดนักเตะบางคนยังประเมินความดังของตัวเองด้วยการตรวจข่าวตามหนังสือพิมพ์ ผมไม่คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องฟุตบอล มันคือวัฒนธรรมคนดัง มันมีอยู่ทุกที่เลย ใช่มั้ย ? รายการทีวีเรียลลิตี้ บิ๊ก บราเธอร์ ผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลเพราะว่าอยากดัง ผมเป็นนักฟุตบอลเพื่อประสบความสำเร็จ ผมไม่อยากมีชื่อเสียง ตอนนี้ทุกคนอยากมีชื่อเสียง ทำไม ? ทำไมคุณถึงอยากให้มีคนตามไปโน่นมานี่ทั้งวัน ? ผมว่ามันไม่น่าจะมีอะไรแย่ไปกว่านั้นอีกแล้วนะ
การใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยของนักเตะสมัยนี้แทบเป็นเรื่องปกติ ซึ่งรวมถึงเรื่องของผู้หญิงอย่างที่ เวย์น รูนี่ย์ กับ ปีเตอร์ เคร้าช์ เพิ่งโดนแฉมาไม่นานนี้ และขณะที่ กิ๊กส์ ปัดแสดงความเห็น บอกแค่ว่า ผมไม่รู้ สเวลส์ บอกว่า สมัยก่อนพวกนักเตะโชดดีมากแล้วถ้ามี ฟอร์ด ป๊อปปูลาร์ และมีบ้านกึ่งสันโดษ แล้วตอนนี้ละ เบนทลีย์ 17 คัน, เฟอร์รารี่ 4 คัน มีบ้านที่ มาร์เบย่า พวกเขาใช้เงินราวกับว่ามันกำลังจะหมดยุค
กิ๊กส์ ได้แต่ยิงฟัน และบอกถึงสิ่งหรูหราที่สุดที่เขาเคยซื้ออย่างเขินๆ ว่า น่าจะรถยนต์ แล้วเขามีกี่คัน โอ้ ผมมี เฟอร์รารี่ กับ กับ ปอร์เช่ ก่อนที่ สเวลส์ จะเสริมให้ว่า แล้วก็ แอสตัน มาร์ติน
ใช่ๆ แอสตัน มาร์ติน กิ๊กส์ บอก แล้วตอนนี้หละเขามีกี่คัน คันเดียว กิ๊กส์ ตอบ ผมถามไปว่าอะไร ? กิ๊กส์ บอกว่า รถผมนะเหรอ ? เบนท์ลี่ย์ แต่นอกจากรถ และบ้านสวยๆ แล้ว กิ๊กส์ แทบไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เขายังเที่ยวกับเพื่อนสมัยเรียน มีบ้านอยู่ในย่านที่ห่างจากบ้านเก่า และโรงเรียน เพียงไม่กี่กิโลเมตร ผมเพิ่งเจอครูฟิสิกส์ที่บาร์
ในรายชื่อ นักฟุตบอลที่รวยที่สุดของอังกฤษ 2009-10 กิ๊กส์ อยู่ลำดับที่ 5 ในความร่ำรวยประมาณ 24 ล้านปอนด์ เทียบกับ เบ็คแฮม ที่ตัวเลข 125 ล้านปอนด์ แล้วเขาคิดว่านักเตะได้ค่าจ้างแพงไปมั้ย ? กิ๊กส์ บอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหา นักกีฬาเก่งๆ มีรายได้เยอะในทุกประเภทกีฬา ปัญหาคือเดี๋ยวนี้นักกีฬาโดยทั่วไป นักกีฬาอายุน้อยๆ ก็ได้เงินเยอะแล้ว สมัยผมเข้าไปอยู่กับทีมได้ตอนแรก ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมไม่สนด้วย แต่ตอนนี้ทุกคนรู้ดีไปหมด มันทำให้นักเตะเดินไปบอกเอเยนต์ว่า - หมอนั่นยังได้เท่านี้เลย ฉันอยากได้บ้าง - ตอนนี้มันไม่ใช่ - ฉันอยากเล่นให้ทีมนี้ 10-15 ปี - แล้ว แต่เป็น - ฉันอยากเงินเท่านั้น
แต่สำหรับ ยอดนักเตะแล้ว พวกเขานำแฟนบอลมาดูเกมในสนาม เม็ดเงินมีการหมุนเวียน จึงยุติธรรมหากพวกเขาจะได้มากกว่าคนอื่น แต่มันไม่ใช่ปัญหาจริงๆ นะเหรอ ? ในเมื่อความเป็นจริงหลายสโมสรกำลังถังแตก ซึ่งรวมถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย เมื่อการครอบครองของพวกเกลเซอร์ ปลิงอเมริกัน ทำให้ทีมที่ร่ำรวยที่สุดในโลก กลายเป็นทีมที่มีหนี้มากที่สุดไปแล้ว แล้วเขาอยากให้ เหลเซอร์ ออกไปมั้ย ?
ผมนะเหรอ ? กิ๊กส์ บอก และ สเวลส์ ตอบแทนว่า ไม่เกี่ยวกับเขา และ กิ๊กส์ เสริมว่า ในฐานะนักเตะแล้ว คุณมีหน้าที่ลงไปเล่นเท่านั้น ผมรัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมอยากเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นคือสิ่งที่ผมโฟกัสถึง
สำหรับ กิ๊กส์ แล้ว คำว่า โฟกัส มีความหมายใหญ่โตมาก เขาบอกว่า ต้องทุ่มเทอย่างที่สุดเพื่อทำให้ฝันที่อยากเป็นนักเตะเป็นจริง จากนั้นเขายิ่งต้องทุ่มเทให้มากกว่าเดิมอีก เพื่อให้เส้นทางค้าแข้งมันยาวไกลที่สุด สำหรับเขาแล้ว เขามีความสามารถในการกำจัดสิ่งกวนใจต่างๆ เขาทำได้แม้ที่บ้าน (พ่อ-แม่) จะมีปัญหา เขาทำได้ในขณะที่เขาเห็นนักเตะคนอื่นๆ มีปัญหา และเขาทำได้แม้ในตอนนี้ที่สโมสรกำลังเผชิญปัญหาการเงิน
เคล็ดลับนะเหรอ ? กิ๊กส์ บอกว่า ก็แค่ก้าวไปกับมัน อย่าไปคิดถึงมัน ผู้คนยังเอาแต่ถามว่าเขาจะเลิกเล่นตอนไหน และจากนั้นเขาจะทำอะไร ซึ่งเขายังไม่รู้เลย ช่วง 2-3 ปีมานี้ คุณเพียงแค่ดูว่า แต่ละฤดูกาลมันผ่านไปยังไง แล้วก็คุยกับเจ้านายในวันคริสต์มาส และก้าวต่อไปจากจุดนั้น
เราถ่ายรูปกันส่งท้าย และมันคือการโพสต์ท่าที่เราคุ้นเคยของ กิ๊กส์ - นิ่ง ขรึม มุ่งมั่น ผมบอกเขาว่า คุณคงมีความสุขกับสิ่งต่างๆ ที่ออกมา ซึ่งเขาบอกว่า ผมไม่คิดว่า..... กิ๊กส์ หยุดไปแป๊บ และพูดใหม่ว่า ด้วยความสัตย์จริง ผมเอาแต่พูดว่าผมไม่คิดถึงมัน แต่ไม่ใช่ ผมแค่มีความสุขกับมันไปจนกว่าจะสิ้นสุดเท่านั้น และเมื่อถึงตอนจบจริงๆ แล้วเท่านั้น จึงจะเป็นเวลาของการทบทวนทุกอย่างที่ผ่านมา
กระทู้เด็ดน่าแชร์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
