จากนักเทนนิส สู่ดาวยิงระดับโลก นามนั้นคือ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน


หากกล่าวถึงดาวยิงระดับแนวหน้าของโลกแล้ว หลายๆคนคงจะต้องนึกถึงชื่อดิเอโก้ ฟอร์ลัน มาเป็นลำดับต้นๆอย่างแน่นอน ด้วยผลงานอันเอกอุพาอุรุกวัยคว้าอันดับ 4 ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2010 รวมถึงการพาทีมต้นสังกัด แอตแลนติโก มาดริด คว้าแชมป์ยูโรป้าเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้ตอนนี้ทีมใหญ่ๆตกเป็นข่าวจ้องจะซื้อตัวฟอร์ลันไปร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็นลิเวอร์พูล หรือกระทั่งทริปเปิ้ลแชมป์อย่าง อินเตอร์ มิลาน แต่ใครบ้างจะรู้ว่า กีฬาที่ฟอร์ลันเล่นตอนสมัยเด็กๆนั้นหาใช่ฟุตบอลไม่ แต่กลับเป็นเทนนิส

Diego Forlán Corazo เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 1979 ที่เมืองมอนเตวิเดโอ ประเทศอุรุกวัย ตัวฟอร์ลันเองเกิดในตระกูลนักฟุตบอล โดยบิดาของเขา Pablo นั้นก็เคยเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเมื่อปี 1966 และ 1974 มาแล้ว รวมถึงคุณปู่ Juan Carlos Corazo ก็เคยเล่นให้กับทีม อินดิเพนเดียนเต้ ทีมดังในอาร์เจนติน่ามาก่อน แต่ฟอร์ลันกลับไม่สนใจฟุตบอลเลยแม้แต่น้อย แต่กลับหลงไหลกีฬาเทนนิสแทน จวบจนเมื่อฟอร์ลันอายุได้ 13 ปี พี่สาวของเค้า Alejandra Forlán ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเป็นเหตุให้ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต ฟอร์ลันจึงให้สัญญากับพี่สาวเค้าไว้ว่าสักวันนึงเค้าจะเป็นนักฟุตบอลชื่อดังให้จนได้ เพื่อไม่ให้พี่สาวต้องมีชีวิตที่ลำบาก

ฟอร์ลันเริ่มค้าแข้งกับทีมในประเทศ ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ อินดิเพนเดียนเต้ ทีมดังในอาร์เจนติน่า ตามรอยปู่ของเขา ในวัยเพียงแค่ 17 ปี และในอีก 2 ปีถัดมาเค้าก็ได้รับโอกาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของทีมที่มี Cesar Luis Menotti ,โค้ชผู้พาอาเจนติน่าเป็นแชมป์โลกในปี 1978 , คุมทีมอยู่ในช่วงนั้น ช่วงเวลาที่ค้าแข้งอยู่กับอินดิเพนเดียนเต้ ฟอร์ลันค่อยๆฉายแววของดาวยิงออกมา กระทั่งเกมที่ทีมของเค้าพบกับริเวอร์เพลท ได้มีแมวมองจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร์ติน เฟอร์กูสัน เข้ามาชมเกมการแข่งขันด้วย โดยมาร์ตินได้รับคำสั่งจากพี่ชาย ท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้มาดูฟอร์มการเล่นของ Andres D'Alessandro ของทีมริเวอร์เพลท แต่ฟอร์มของฟอร์ลันก็ทำให้มาร์ตินประทับใจเป็นอย่างมาก จนเขียนรายงานมาให้พี่ชายให้รีบซื้อมาร่วมทีม ซึ่งขณะนั้นทีมมิดเดิลสโบร์ของสตีฟ แมคคลาเรน เองก็ได้แสดงความสนใจและติดต่อไปยังอินดิเพนเดียนเต้เช่นกัน แต่สุดท้ายกลายเป็นปีศาจแดงที่สมหวัง คว้าฟอร์ลันมาร่วมทีมได้ในราคา 6.9 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคมปี 2002 รวมสถิติตอนอยู่กับอินดิเพนเดียนเต้ ลงเล่น 91 นัด ยิงไป 40 ประตู



เมื่อย้ายมาอยู่กับทีมปีศาจแดง ฟอร์ลันต้องพบกับช่วงเวลาที่ลำบาก เมื่อต้องอยู่ภายใต้ร่มเงาของรุด ฟานนิสเตอรอย บวกกับการที่ท่านเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสันได้เปลี่ยนแผนการเล่นมาใช้หน้าเป้าเพียงตัวเดียวในระบบ 4-5-1 ทำให้ฟอร์ลันต้องตกเป็นตัวสำรองอยู่ตลอด แม้จะมีโอกาสได้ลงเล่นบ้างในฟุตบอลถ้วย แต่เมื่อไม่ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฟอร์ลันที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนาตัวต้องหยุดชะงักไป เมื่อได้รับโอกาสลงเล่นฟอร์มก็ไม่ดีดังที่หวังไว้ ทำให้แฟนบอลต้องส่ายหน้า และยกว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวอีกครั้งของปีศาจแดง แต่แล้วฟอร์ลันก็ทำให้แฟนบอลต้องจดจำชื่อเค้าไปอีกนานในเกมที่ปีศาจแดงบุกไปเยือนหงส์แดงลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์เมื่อปี 2002 ฟอร์ลันยิง 2 ประตูช่วยให้ปิศาจแดงมาคว้าชัยเหนืออริตลอดกาลถึงถิ่น 2-1 และหนึ่งในลูกยิงที่ผู้คนจดจำกันได้ดีก็คือการฉกลูกเจ้าแห่งความมืด (lord dark) จากนายทวารเจอร์ซี่ ดูเด็กซ์ เข้าไปยิงประตูให้กับทีม

ตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นฟอร์ลันมีสถิติลงเล่น 98 นัด ยิงไป 17 ประตู ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ กอปรกับการที่ไม่ค่อยได้ลงเล่นมากนัก ฟอร์ลันจึงได้ขอย้ายทีมโดยมีทีมเรือดำน้ำ บียาร์รีล ที่พร้อมรับช่วงไปเซ้งต่อเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2004 เดือนเดียวกับที่ปีศาจแดงได้เซ็นสัญญากับเวย์น รูนี่ย์ หอกดาวรุ่งจากเอฟเวอร์ตัน

หลังจากย้ายมาเล่นที่สเปน ฟอร์ลันก็ได้ระเบิดฟอร์มออกมา ยิงประตูเป็นว่าเล่น จนคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของลาลีก้าตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมา ด้วยผลงานยิงไป 25 ประตูในลีก และยังได้รับรางวัลดาวยิงรองเท้าทองคำร่วมกับเธียรี่ อองรี ดาวยิงจากอาร์เซนอล แม้ฤดูกาลถัดมาปี 2005-2006 ฟอร์มจะตกลงไปบ้าง แต่ในฤดูกาล 2006-2007 ฟอร์ลันก็ได้กลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้งด้วยสถิติลงเล่น 40 นัด ยิงไป 21 ลูก ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมตราหมี แอตแลนติโก มาดริด ทีมในปัจจุบันนั่นเอง รวมสถิติลงเล่นให้เรือดำน้ำ 125 นัด ยิงได้ 59 ประตู



ที่แอตแลนติโก มาดริด ฟอร์ลันก็ยังระเบิดฟอร์มเก่งอย่างต่อเนื่องให้กับทีม โดยเฉพาะในปี 2008 – 2009 ที่ลงเล่นในลีกไป 33 นัด ยิงไป 32 ประตู ทำให้ได้รับตำแหน่งดาวซัลโวของลาลีก้า และรางวัลดาวยิงรองเท้าทองคำไปครองอย่างไร้คู่แข่ง รวมถึงในปี 2009-2010 ที่ฟอร์ลันสามารถพาทีมตราหมีสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูโรป้าเป็นทีมแรกได้เป็นผลสำเร็จ

ผลงานกับทีมชาติอุรุกวัยก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เมื่อฟอร์ลันเริ่มติดทีมชาติในปี 2002 หลังจากย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดงได้ไม่นาน ได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกปี 2002 โดยยิงได้ 1 ประตูในเกมที่เสมอกับเซเนกัล 3-3 รวมถึงการยิงประตูบราซิลในรายการโคป้าอเมริกาเมื่อปี 2007 และในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อปี 2008 ฟอร์ลันก็สามารถทำแฮททริกแรกในนามทีมชาติในเกมที่พบกับเปรูได้เป็นผลสำเร็จ ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2010 เป็นปีที่ฟอร์ลันเจิดจรัสมากที่สุด ด้วยการพาทีมชาติอุรุกวัยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนไปแพ้ให้กับฮอลแลนด์ และได้อันดับ 4 จากการแพ้ให้กับเยอรมันในการชิงที่ 3 แต่ฟอร์ลันก็ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำทัวร์นาเม้นนี้ไปครองด้วยผลงานการยิงไป 5 ประตู

และแล้วสัญญาที่เค้าให้ไว้กับพี่สาวเค้าเมื่อ18 ปีก่อนก็เป็นจริงเมื่อฟอร์ลันได้กลายเป็นยอดนักเตะระดับแนวหน้าของโลก หากไม่มีสัญญากับพี่สาวในวันนั้น ไม่แน่ว่าวันนี้เราอาจจะได้เห็นเค้าลงดวลแร็คเก็ตกับราฟาเอล นาดาลในศึกแกรนด์แสลมอยู่ก็เป็นได้ 


Credit. Cyclop และ  
www.google.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์