เบอร์บาเทพเกิน!กดแฮทริคผีเบียดหงส์ระทึก 3-2

เบอร์บาเทพเกิน!กดแฮทริคผีเบียดหงส์ระทึก 3-2

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟระเบิดถังขี้ในนัดเดียวด้วยการทำแฮทริคใส่หงส์แดงลิเวอร์พูลคู่ปรับที่มาฮึดช่วงท้ายนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าชัยมันหยด 3-2 รั้งอันดับสองร่วมกับอาร์เซนอลส่วนลูกทีมรอย ฮอดจ์สันยังไม่ดีขึ้นแพ้เป็นนัดที่ 2 จาก 5 อยู่อันดับ 16

พรีเมียร์ ลีก

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 : 2 ลิเวอร์พูล

ประตู : 1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.42, 2-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.59,2-1 สตีเว่น เจอร์ราร์ด(จุดโทษ) น.63,2-2 สตีเว่น เจอร์ราร์ด น.70,3-2 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.84

ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูลในศึก เร้ดไฟท์ ที่แฟนบอลต่างก็เฝ้ารอคอย

แมนฯยูไนเต็ดไม่มีริโอ เฟอร์ดินานด์ที่เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาในเกมนี้ รวมทั้งปาร์ค จี ซุงที่สภาพร่างกายไม่พร้อมไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรอง ส่วนอันโตนิโอ วาเลนเซียไม่ต้องพูดไปพักยาวเจอกันอีกทีปีหน้า

โดยเกมนี้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจัดทัพแบบเต็มสูบ หลังพักผู้เล่นตัวหลักหลายคนในเกมกับเรนเจอร์สจนพลาดเสมอไปในเกมแชมป์เปี้ยนส์ ลีก โดยเนมันย่า วิดิชสวมปลอกแขนกัปตันทีมลงสนาม และส่งดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่กำลังอยู่ในฟอร์มแจ่มลงเล่นคู่กับเวย์น รูนี่ย์ในแดนหน้า

หงส์แดง ลิเวอร์พูลได้พอล คอนเชสกี้แบ็คซ้ายหัวเหม่งกลับคืนมาสู่ทีม ทำให้เจมี่ คาร์ราเกอร์ยืนเซ็นเตอร์คู่กับมาร์ติน สเคอร์เทล

แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่เหล่า เดอะค็อป บางส่วนน่าจะดีใจไม่น้อยก็คือไม่มีชื่อของลูคัส เลว่าลงเล่น 11 ตัวจริง ทำให้เชื่อได้เลยว่าเกมนี้บอลน่าจะไหลลื่นกว่านัดก่อนๆ เพราะมีมิดฟิลด์ตัวรับคือคริสเตียน โพลเซ่นคนเดียวที่ยืนจับคู่กับราอูล เมเรเลสที่มิติบอลเจ๋งพอตัว

ปีกสองข้างเป็นโจ โคลที่พ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม และมักซี่ โรดริเกซ ส่วนคู่หูที่น่ากลัวที่สุดก็ลงเล่นด้วยกันทั้งคู่สตีเว่น เจอร์ราร์ดกัปตันทีม และเฟร์นานโด ตอร์เรสศูนย์หน้าตัวความหวังที่ต้องลุ้นว่าเกมนี้จะระเบิดฟอร์มได้หรือไม่

ครึ่งแรก

ผีกดดันหนัก
เริ่มเกมมาได้ 5 นาที ก็เป็นฝ่ายเจ้าบ้านแมนฯยูไนเต็ดที่ทำเกมบุกใส่ลิเวอร์พูลอยู่ข้างเดียว แต่ยังหาโอกาสเจาะเข้าไปจบสกอร์ในกรอบเขตโทษยังไม่ได้

หงส์เริ่มตั้งตัวได้
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีแรก เกมของลิเวอร์พูลก็เริ่มขยับดีขึ้นกว่าในช่วงแรกที่โดนบุกกดดันอยู่ฝั่งเดียว แต่ก็ยังบุกไปถึงหน้ากรอบเขตโทษของแมนฯยูไนเต็ดไม่ได้

บังพลาดโคตรรร!!
เพียงแค่นาทีเดียวต่อมา หลุยส์ นานี่ก็พลาดโอกาสทองอย่างแรง จากจังหวะที่เวย์น รูนี่ย์ไหลบอลผ่านให้นานี่วิ่งหลุดโล่งๆไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวตัดสินใจล็อกตัดเข้าใน แต่ถูกกองหลังบังเอาไว้ ทำให้ต้องไหลคืนให้รูนี่ย์ยิงจากเส้นเขตโทษ บอลติดบล็อกแล้วลอยไปเข้าทางนานี่ที่ได้โอกาสยืนยิงจ่อๆแต่กลับแปเบี้ยวผ่านหน้าประตูออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

GJลองส่อง
นาทีที่ 25 ลิเวอร์พูลก็ได้โอกาสลุ้นประตูครั้งแรก จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายแล้วเกล็น จอห์นสันเติมขึ้นมาเล่นลูกสั้น เจ้าตัวหักตัดเข้ากลางบริเวณเส้นเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้ายแบบวัดใจทันที บอลพุ่งพรวดผ่านฝูงนักเตะหลุดเสาสองออกไป แต่จังหวะนี้ถ้ามีแฉลบละก็ได้เสียวแน่

คอนเชสกี้รอดตัว
นาทีที่ 34 พอล คอนเชสกี้แบ็ครอดพ้นจากการถูกจดชื่อ จากจังหวะที่เขาวิ่งเบียดกับนานี่ที่พยายามจะกระชากบอลหนี แล้วแขนขวากางไปฟาดหน้าของนานี่จนล้มฟุบลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรในจังหวะนี้

หงส์เริ่มครองบอล
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ก็เป็นทางลิเวอร์พูลที่ครองบอลพยายามหาช่องเจาะแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดได้มากกว่า โดยเจ้าบ้านดูเหมือนว่าพอเร่งตอนแรกแล้วไม่ได้เกมก็เลยผ่อนลงไปเยอะ

ลูกโหม่งศิลปิน!เบิร์บสุดตีนนน
นาทีที่ 42 ในที่สุดแมนฯยูไนเต็ดก็ออกนำไปจนได้ จากจังหวะเปิดลูกเตะมุมของไรอัน กิ๊กส์ที่โยนมาบริเวณเสาแรก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟยืนเบียดพิงอยู่กับเฟร์นานโด ตอร์เรสที่ตามประกบอยู่ แต่เบอร์บาตอฟค่อยๆพิงแล้วก็ย่อตัวลงสะบัดโหม่งบอลเสียบเข้าเสาแรกไปอย่างสวยงาม ปีศาจแดง ออกนำไปแล้ว 1-0

ครึ่งหลัง

เบิร์บเกือบได้ส้ม
นาทีที่ 52 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเกือบได้ส้มหล่นเต็มๆ จากจังหวะที่ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลติดบล็อกของผู้เล่นลิเวอร์พูลลอยโด่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ เรน่ายึกยักไม่กล้าออกมาตัดจังหวะเดียว เพราะเบอร์บาตอฟพุ่งเข้ามาพยายามจิ้มบอล แต่สุดท้ายก็บล็อกเอาไว้ได้

บังเทพซัดชนเสา
อีก 5 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดเกือบทำประตูนำห่าง จากจังหวะที่เวย์น รูนี่ย์โยนบอลเปลี่ยนฝากยาวไปให้กับจอห์น โอเชียทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะตบกลับเข้ากรอบเขตโทษฝั่งขวาให้แก่หลุยส์ นานี่ที่แตะหนึ่งจังหวะก่อนที่จะยิงอัดเต็มข้อบอลพุ่งเป็นจรวดเข้าไปอัดเสาเต็มๆ ถ้าเบี่ยงซ้ายกว่านี้อีกหน่อยอาจมีหาย

โคตรศิลปิน!เบิร์บตีลังกาสุดตีน
นาทีที่ 59 ตะลึงตึงๆทั่วทั้งสนามจากจังหวะที่ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์โยนบอลยาวไปให้กับนานี่ทางริมเส้นฝั่งขวา อาบังตักบอลเข้ากลางกรอบเขตโทษ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟพักบอลด้วยหน้าขาก่อน แม้จะหันหลังให้กับประตู และมีกองหลังบังอยู่ แต่เบอร์บาตอฟก็จัดการตีลังกายิงกลับหลังทันที บอลลอยย้อยไปเสาสองชนคานก่อนที่จะเด้งเข้าประตูไปชนิดที่เปเป้ เรน่าได้แต่ยืนมองเท่านั้น แมนฯยูไนเต็ดนำห่าง 2-0

อีแวนส์อีกแล้ว!หงส์ได้จุดโทษ
นาทีที่ 63 จอนนี่ อีแวนส์ที่ฤดูกาลนี้ฟอร์มไม่สม่ำเสมอนักก็มาพลาด เสียบเฟร์นานโด ตอร์เรสที่ล็อคบอลหลอกจนหัวทิ่มล้มลงในกรอบเขตโทษ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์เป่าทันที

ก่อนที่สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่มีพลาด ลิเวอร์พูลไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 แล้ว

หมามุ่ยเสียค่าโง่
นาทีที่ 68 อยู่ดีๆพอล สโคลส์ก็โดนใบเหลืองแบบไม่น่าเลย จากจังหวะที่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ไปแล้วแต่ดันไปเตะบอลทิ้งทำให้โดนเว็บบ์จดชื่อไปทันที

จับฉ่ายรอดแดง
อีกหนึงนาทีต่อมา จอห์น โอเชียก็รอดพ้นจากการเสียใบแดงแบบหวาดเสียวสุึดๆ ในจังหวะที่เขาไปดึงเฟร์นานโด ตอร์เรสล้มลงโดยเป็นตัวสุดท้ายในแนวรับด้วย ยังดีที่เว็บบ์แจกแค่ใบเหลืองให้เท่านั้น

ขิงเบิ้ล!หงส์คัมแบ็คสุดตีน
จากจังหวะฟรีคิกที่จอห์น โอเชียทำเสียทำให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษตรงกลางหน้ากรอบเขตโทษพอดี สตีเว่น เจอร์ราร์ดรับหน้าที่สังหารวิ่งเข้าไปปั่นทะลุกำแพงนักเตะของแมนฯยูไนเต็ดที่แตกออกเป็นช่อง ทำให้บอลพุ่งเข้าประตูไปชนิดที่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์หมดสิทธิ์รับ เสมอกัน 2-2 แล้ว

ผีรวนต่อเนื่อง
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แมนฯยูไนเต็ดที่ถูกตีเสมอไปออกอาการรวนอย่างชัดเจน รับส่งบอลกันพลาดง่ายๆ จนทำให้ทุกครั้งที่พยายามเร่งเกมขึ้นหน้าก็โดนทางลิเวอร์พูลตัดไปได้

หงส์เปลี่ยนโยมาโนวิชลง
นาทีที่ 79 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนเอาโยวาโนวิชลงเล่นแทนราอูล เมเรเลสที่ได้ประเดิมสนามเป็น 11 ตัวจริงไปในเกมนี้

ผีส่งกิโก้ลง-หงส์ถอดคอนเชสกี้
อีก 3 นาทีต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปลี่ยนเอสเฟดเดริโก้ มาเคด้าลงเล่นแทนไรอัน กิ๊กส์ที่เหมือนจะหมดแล้ว ในขณะที่ลิเวอร์พูลส่งดาเนียล แอกเกอร์ลงแทนพอล คอนเชสกี้

เบิร์บแฮทริกสุดตีนนนนนนน
นาทีที่ 84 วันของชายที่ชื่อว่าดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟโดยแท้ จากจังหวะที่จอห์น โอเชียโยนบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ากลางกรอบเขตโทษ เบอร์บาตอฟกระโดดเทคตัวขึ้นได้สูงกว่าเจมี่ คาร์ราเกอร์โขกบอลเข้าไปเสียบเสาเดียวกันกับประตูแรก เปเป้ เรน่าหมดสิทธิ์รับ แมนฯยูไนเต็ดขึ้นนำ 3-2

ผีถอดเบิร์บ-แฟนปรบมือสนั่น
อีก 4 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดก็ถอดเอาดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟผู้ที่ทำแฮทริกได้ในวันนี้ออก รวมทั้งนานี่ โดยส่งดาร์รอน กิ๊บสัน และแอนเดอร์สันลงสนาม

จบ 90 นาทีแมนฯยูไนเต็ดเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ 3-2 เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จขยับทาบอาร์เซนอลอันดับ 2 แต่ประตูได้เสียด้อยกว่า

ส่วนทางลิเวอร์พูลแพ้เป็นเกมที่สองแล้วจากห้านัด ซึ่งเป็นการแพ้ในเมืองแมนเชสเตอร์ทั้งสิ้นทำให้พวกเขายังอยู่ที่อันดับ 16

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,จอห์น โอเชีย,เนมันย่า วิดิช,จอนนี่ อีแวนส์,ปาทริซ เอฟร่า,นานี่,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์,พอล สโคลส์,ไรอัน กิ๊กส์,เวย์น รูนี่ย์,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า,เกล็น จอห์นสัน,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,พอล คอนเชสกี้,ราอูล เมเรเลส,คริสเตียน โพลเซ่น,มักซี่ โรดริเกซ,สตีเว่น เจอร์ราร์ด,โจ โคล,เฟร์นานโด ตอร์เรส










 


credit : ss