5อันดับ เหตุก่อการร้าย

10. Apartment Bombs


 



 





 




 



อพาร์ทเม้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ซ่อนผู้ก่อการร้ายได้เป็นอย่างดี เพราะตามกฎหมายแล้วตำรวจ


จะไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจค้นในพื้นที่นี้ได้ นอกจากจะมีหมายค้นหรือเหตุน่าสงสัย และด้วยช่อง


ว่างกฎหมายนี้ทำให้ผู้ก่อการร้ายสามารถอาศัยในสังคมเสรี และสามารถใช้ประโยชน์ต่อพื้นที่


ปลอดภัยนี้อย่างเต็มที่ โดยภายในพื้นที่เหล่านี้ผู้ก่อการร้ายมักถูกทำเป็นคลังอาวุธที่เต็มไปด้วย


ปืนและระเบิด หรือแม้แต่ถุงโพรเพนหรือก๊าซโซลีน ที่ได้รวบรวมแบบกำลังมดอย่างทีละเล็กทีละ


น้อย โดยเพื่อนบ้านห้องข้างเคียงไม่รู้เลยว่าพวกเขาทำอะไรอยู่ในห้องนั้น



 



นอกจากอพาร์ทเม้นจะเป็นแหล่งเป้าหมายที่ผู้ก่อการร้ายสร้างความวุ่นวายเป็นอย่างดี อย่างที่เรา


ได้เห็นข่าวอยู่บ่อยๆ ในเรื่องที่ผู้ก่อการร้ายวางระเบิดอาคารหลายแห่งทั่วโลก เช่นกรณีเหตุการณ์


เมื่อเดือนกันยายน ปี 1999 เมื่อ 4 อพาร์เม้นในรัสเซียถูกวางระเบิด ส่งผลทำให้คนกว่า 293 คน


ถูกฆ่าและ 651 คนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งรัสเซียกล่าวอ้างว่าเกิดจากการกระทำของกลุ่มแบ่งแยกดิน


แดนในเชเชน ที่แอบซุกระเบิดไว้ข้างในเมื่อคืนก่อน



 




 



__---__---__---__---__



 




 



9. Water Terrorism



 




 





 




 



การก่อการร้ายน้ำนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1346 เมื่อกองทัพมองโกล


เข้าโจมตีเมืองแคฟฟาของอิตาลี กองทัพของมองโกลตั้งทัพอยู่นอกกำแพงอยู่นานไม่อาจเข้าโจม


ตีเข้าไปในค่ายได้ ต่อมาเกิดกาฬโรคหรือโรคห่าระบาดในกองทัพของมองโกล ทหารล้มตายเป็น


เบือศพทหารกองท่วมค่าย แทนทีจะมีการนำศพนั้นไปฝังหรือเผา แม่ทัพมองโกลเกิดไอเดียกระฉูด


โดยนำศพทหารที่ตายด้วยโรคห่าใช้แทนก้อนหิน เข้าเครื่องยิงแล้วยิงข้ามเข้าไปในกำแพงเมือง


แคฟฟา คนในเมืองแตกตื่นกับสภาพศพที่เห็น ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นตุ่มพุพองช้ำเลือดช้ำหนองเน่า


แฟะ หนำซ้ำเชื้อโรคยังระบายสู่ชาวเมือง ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือลอดก็พากันหนีออก


ไปนอกเมือง จนในที่สุดไม่อาจต้านอาวุธเชื้อโรคของมองโกลได้เมืองจึงแตก



 



แต่กระนั้นการก่อร้ายน้ำนั้นก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน แม้น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต ทุกคนจำเป็นต้อง


ดื่มน้ำ และทุกวันนี้มีคนประมาณ 1.8 ล้านคนเสียชีวิต เนื่องจากการปนเปื้อนของน้ำก็ตาม แต่


กระนั้นมันก็เป็นการยากมากที่จะทำให้น้ำทั้งแม่น้ำ หรือทะเลสาบปนเปื้อนด้วยสารพิษ (แต่ปัจจุบัน


ไม่จำเป็นแล้วมั้ง เพราะโรงงานจะปล่อยสารพิษให้เอง ฮ่า)



 



ในปี 1974 เคยมีการก่อการร้ายด้วยวิธีการนี้ เมื่อกลุ่มก่อการร้ายที่เรียกตนเองว่า นีโอนาซีได้ถูกจับ


กุม ก่อนที่จะดำเนินแผนการที่จะเพาะเชื้อไทฟอยด์ปนเปื้อนแหล่งน้ำในเมืองใหญ่ของอเมริกา แต่


เหตุการณ์ที่น่ากลัวคือ การปนเปื้อนสารพิษของสถานีกรองน้ำที่ส่งน้ำให้ครัวเรือนใช้ต่างหาก ลอง


คิดดูว่าหากองค์กรก่อการร้ายได้เข้ามาในศูนย์กระจายน้ำ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามแล้วทำให้น้ำใน


ณ ที่นั้นปนเปื้อนสารพิษได้สำเร็จละก็ มันคงเป็นการก่ออาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์


แน่นอน



 




 



__---__---__---__---__



 




 



 


8. Attack Sniper



 




 





 




 



ซุ่มยิง เป็นวิธีสุดฮิตของการก่อการร้ายทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความหวาดกลัวต่อศัตรู


ได้เป็นอย่างดี ในเดือนตุลาคม 2002 ฆาตกรต่อเนื่องนาม จอห์น อัลเลน  มูฮัมหมัด และ ลี บอยด์


ในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา (วอชิงตันดีซี, แมรี่แลนด์, วอร์จิเนีย, วอชิงตัน ฯลฯ) ได้ฆ่าคนสิบ


กว่าคนและบาดเจ็บมากมาย โดยใช้ปืนยาวซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติ Bushmaster .223 ฆ่าคนไม่เลือก


หน้าอย่างสนุกสนาน ก่อนที่ถูกจับและถูกพิพากษา



 



แต่กระนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้ชาวอเมริกาทั่วทั้งประเทศแตกตื่นไม่กล้าที่จะเดินเล่นในที่


เปิดโล่งหรือขึ้นรถสาธารณะหรือไปสถานีบริการน้ำมัน



 



เครือข่ายก่อการร้ายก็มักใช้วิธีซุ่มยิงนี้เสมอ พวกเขามีปืนสไนเปอร์ที่สามารถยิงได้ แม้ตัวผู้ถูกยิง


จะอยู่ห่างจากเป้าหมายหลายเมตร (สถิตโลกระยะยิงไกลอยู่ที่ 2470 เมตร) ที่นี้ลองคิดดูว่าเมื่อ


พลซุ่มยิงประจำตำแหน่งในอาคารที่สูงทำทีเหมือนถ่ายภาพ (ปืนสไนเปอร์รูปร่างเหมือนกล้องส่อง


ทางไกลมาก) กำลังซุ่มหาเหยื่อในเมืองใหญ่ที่เป็นช่วงจราจรวุ่นวาย จากนั้นก็ยิง เมื่อยิงเสร็จก็รีบ


หนีจากจุดยิงทันทีอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทิ้งอะไรไว้เลย และทำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าและเปลี่ยนสถานที่ทุกครั้ง และนี้แหละคือความน่ากลัวของการซุ่มยิง



 




 



__---__---__---__---__



 




 



 


7. Biological Warfare



 




 





 




 



สงครามเชื้อโรคคือ การใช้วัสดุอินทรีย์ที่เป็นอันตราย เช่น ไวรัสและแบคทีเรียที่ทำให้เกิด


ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงและกว้างขวาง การระบาดของโรคติดเชื้อนั้นร้ายแรงสามารถฆ่า


คนหลายล้านคนทั่วโลกได้ขอเพียงมีคนหนึ่งติด ก็สามารถกระจายวงกว้างให้คนอื่นติดต่อกัน


เป็นทอดๆ ได้



 



ยกตัวอย่างเช่น โรคเอดส์และโรคมาลาเรีย หากกลุ่มก่อการร้ายประสบสำเร็จในการเข้าถึงโรค


ดังกล่าวและนำมาปล่อยในสถานที่สาธารณะที่แออัด ผลกระทบที่ตามมานั้นใหญ่หลวงมาก ไม่ว่า


จะเป็นด้านกายภาพและด้านจิตใจ



 



ครั้งหนึ่งอเมริกาได้เผชิญหน้ากับการก่อการร้ายแบบใหม่หลังจากเหตุการณ์ 9/11 ที่เรียกว่า


สงครามเชื้อโรค เมื่อในวันที่ 18 กันยายน ปี 2001 มีการพบผงแป้งสีขาวในซองจดหมายที่ส่ง


ไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น สื่อมวลชนและนักการเมืองจำนวนมาก ซึ่งภายหลังทราบว่าผงแป้ง


ดังกล่าวเป็นเชื้อโรคแอนแทร็กซ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และล้มป่วยอีก 17 คน ด้วยเหตุการณ์


ในครั้งนี้ส่งผลทำให้โลกเกิดความหวาดกลัวการก่อการร้ายอีกครั้ง และเชื่อว่าเหตุครั้งนี้เป็นการก่อ


การร้ายขององค์กรอัลกออิดะห์



 



หากแต่ต่อมามีการยืนยันแล้วจากผลการตรวจดีเอ็นเอในซองจดหมายเมื่อปี 2002 พบว่าจดหมาย


ดังกล่าวถูกส่งผ่านไปรษณีย์อเมริกา และเชื้อดังกล่าวมาจากห้องปฏิบัติการทางการทหารของสหรัฐ


และผู้ต้องสงสัยคนนั้นคือนายบรูซ เอ็ดเวิร์ด ไอวินส์เป็นนักวิจัยอาวุโสวัย 62 ปี ของห้องแลบสถาบัน


การแพทย์ป้องกันภัยจากอาวุธชีวภาพ ที่ฟอร์ตเดทริค รัฐแมรี่แลนด์ของสหรัฐฯ ( United States


Army Medical Research Institute of Infectious Diseases) และเขาก็เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เข้า


ตรวจสอบที่มาของคดีดังกล่าว หากแต่ผลสุดท้ายเอฟบีไอก็ไม่สามารถจับกุมเขา เนื่องจากนายบรูซ


ชิงฆ่าตัวตายเสียก่อนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 โดยสาเหตุการตายคือเขากินยาไทลีนอลจำนวนมาก



 




 



__---__---__---__---__



 




 




6. Suicide Attacks



 




 





 




 



การโจมตีแบบฆ่าตัวตาย (สมัยก่อนเรียกระเบิดพลีชีพ แต่ปัจจุบันทางการนิยมใช้คำนี้มากกว่า)


มีความหมายว่าบุคคลที่สละชีวิตของตนเอง เพื่อให้ก่อความเสียหายและทำลายล้างมากที่สุด



 



การโจมตีโดยการฆ่าตัวตายนั้นส่วนมากมักจะใช้การก่อการร้ายที่มือระเบิดนำระเบิดติดตัวเข้าไป


ในสถานที่เป้าหมายแล้วจุดระเบิดขึ้น เพื่อฆ่าผู้คนในสถานที่นั้นพร้อมกัน หรือจะใช้ปืนยิงเข้าฝูงชน


หรือจะใช้ยานพาหนะ ฯลฯ โดยส่วนมากมือระเบิดฆ่าตัวตายมักจะก่อเหตุในประเทศแถบตะวันออก


กลาง เช่น อัฟกานิสถาน, อิรัก กากีสถาน ฯลฯ



 



โดยหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ เหตุการณ์ 9/11 ซึ่งเป็นเหตุการณ์วินาศกรรมของ


การปล้นเครื่องบินในสหรัฐอเมริกา โดยเครื่องบินพาณิชย์ ได้ชนเข้ากับเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และ


อาคารเพนตากอน โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 2,977 คน



 



และยังมีเหตุการณ์เมื่อเดือนกันยายน 2004 คนกว่า 334 คนต้องตาย (รวมทั้งเด็ก) เมื่อผู้ก่อการ


ร้ายเซเซนได้ระเบิดตัวเองฆ่าตัวตาย ในโรงเรียนรัสเซียในกรุงบาสก์ หลังจากก่อการยึดตัวประกัน


แล้วเจรจาต่อลองล้มเหลวสามวัน



 



การโจมตีโดยการฆ่าตัวตายนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ยากที่สุดในการป้องกัน และไม่สามารถคาดการได้


ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อใด ซึ่งแม้จะรู้ก็สายไปเสียแล้ว



 




 



__---__---__---__---__



 




 



 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์