ย้อนรอยป๋ากี้ 50 กว่าปีไฟยังแรง

ย้อนรอยป๋ากี้ 50 กว่าปีไฟยังแรง

ย้อนรอยป๋ากี้ 50 กว่าปีไฟยังแรง


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/01-ferguson1.jpg


ช่วงนี้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตกเป็นข่าวลงจากบัลลังก์อสูร ด้วยเหตุที่อายุอานาม 68 ปี รายงานข่าวว่าจะวางมือหลังฤดูกาลหน้า แต่ป๋ากี้บอกว่ายัง ตราบใดที่ยังแข็งแรงอยู่ก็จะขอทำหน้าที่ผู้จัดการทีมต่อไป



เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เซอร์อเล็กซ์ อยู่กับทีมถิ่นมีโอลด์ แทรฟฟอร์ดมากว่า 20 ปีแล้ว รวมตั้งแต่ที่ประเดิมสนามนัดแรกเกมอาชีพ ก็กว่า 50 ปี



วันนี้เราลองยถอยหลังไปดูเส้นทางของกุน ซือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลผู้นี้กัน



เฟอร์กูสัน ประเดิมสนามนัดแรกให้ควีนส์พาร์ค ตอนอายุ 16 ปี ที่ทีมพ่ายที่สตรานแรร์ 15 พฤศจิกายน 1958 และเป็นคนพังประตูให้ทีมได้ในเกมนั้น



หลังจากยุติบทบาทการเป็นนักเตะแล้วเฟอร์ กูสันพาอเบอร์ดีน คว้าแชมป์ลีก, บอลถ้วย และแชมป์ยุโรป ก่อนจะคุมแมนฯ ยูไนเต็ด พฤศจิกายน 1986 ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก 11 สมัย เอฟเอ คัพ 5 สมัย, ลีก คัพ 3 และแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/02-ferguson.jpg


ฟอร์กูสันเล่นฟุตบอลทั้งอาชีพ ที่สกอตแลนด์ โดยย้ายจากควีนส์พาร์ค มาเซนต์ จอห์น สโตน และดันเฟิร์มลิน ยุคทศวรรษที่ 1960 ก่อนจะมาอยู่กับเรนเจอร์ส ปี 1967 (ภาพซ้าย)


อาชีพ ผู้จัดการทีมของเฟอร์กูสัน เริ่มต้นที่อีสต์ สเตอร์ลิง และที่เซนต์ เมียร์เรน พอปี 1978 ก็ได้เป็นกุนซืออเบอร์ดีน ช่วงเวลา 8 ปี ได้แชมป์ลีก 3 ครั้ง แชมป์คัพวินเนอร์คัพ (ภาพขวา กับแซนดี้ จาร์ดีน ของฮาร์ทส์ หลังจากที่อเบอร์ดีน ชนะ 3-0 ได้แชมป์สกอตติช คัพ ปี 1986 มาครอง)


วาม สัมพัsrc=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/03-Ferguson.jpgนธ์ของเฟอร์กูสันกับแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงแรกไม่สู้ดีนัก หลังจากที่ย้ายมาเป็นผจก. ปิศาจแดงปี 1986 ปี แรกที่แมนฯ ยูไนเต็ด เฟอร์กูสัน ไม่ประสบความสำเร็จ และล่อแหลมต่อการโดนปลดหลังจากที่ถูกแมนฯ ซิตี้ ถล่ม 5-1 ปี 1989  อย่าง ไรก็ตาม เฟอร์กี้ หาทางกลับมาได้ ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ปี 1990 (ภาพซ้ายกับไบรอัน ร็อบสัน) หลังจากนั้นก็ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกในปี 1993 (รูปชูมือดีใจหลังจากที่แมนฯ ยูไนเต็ดชนะแบล็คเบิร์น ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และคว้าแชมป์มาครอง)   เฟอร์ กูสันได้แชมป์ลีกมาครองอีก และก็ได้ดับเบิลแชมป์ในปี 1994 และ 1996 (ภาพขวาฉลองแชมป์ปี 1996)



src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/04-Ferguson.jpg


ปี 1999 เฟอร์กูสัน และแมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 3 แชมป์ ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน จากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก, เอฟเอ คัพ และแชมเปี้ยนส์ ลีก   ประตู ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่สนามคัมป์ นู ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะบาเยิร์น มิวนิค 2-1 ขณะที่ก่อนหน้านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะอาร์เซนอลแค่คะแนนเดียวในลีก และเอาชนะนิวคาสเซิล 2-0 นัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ


เฟอร์ กูสัน ได้เป็นอัศวิน เดือนมิถุนายนปีนั้น และแมนฯยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอีกเมื่อเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ โดยได้แชมป์พรีเมียร์ ลีกปี 2000 และ 2001 มาครอง


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/05-Ferguson.jpgลังจากประสบความสำเร็จต้น ทศวรรษที่ 1990 ทุกอย่างดูจะไม่ราบรืนเหมือนอย่างที่เฟอร์กี้คิดปี 1995 แมนฯ ยูไนเต็ด พลาด 2 แชมป์นัดสุดท้าย จากการเสมอที่เวสต์แฮม 1-1 ในพรีเมียร์ ลีก (รูปซ้าย) และแพ้เอฟเวอร์ตัน 0-1 ในเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศอย่าง ไรก็ตามปี 1995 ก็เป็นปีที่เด็กมหัศจรรย์ของแมนฯ ยูไนเต็ดได้เกิด เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, เดวิด เบ็คแฮม, นิคกี้ บัตต์ และพี่น้องเนวิลล์ เข้ามาอยู่ในทีมชุดใหญ่ ที่ยั่วให้อลัน แฮนเซ่น ประกาศ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีแต่เด็กๆ จะไม่ได้แชมป์อะไรเลย




src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/06-Ferguson.jpg


ม้ แมนฯ ยูไนเต็ดจะได้แชมป์ลีกอีกในปี 2003 แต่ทีมที่ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก 7 สมัยใน 9 ปี ไม่ประสบความสำเร็จนักในช่วงต้นของปี 2000



อย่างไรก็ตาม เฟอร์กูสัน ทุ่มเงินซื้อนักเตะดังอาทิ ริโอ เฟอร์ดินานด์ (ซ้าย) จากลีดส์ ยูไนเต็ด ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ปี 2002 และเวย์น รูนีย์ จากเอฟเวอร์ตัน 2 ปีต่อมา



เฟอร์กูสันยังลงทุนคว้าตัวคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นการสร้างทีมเพื่ออนาคต แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่ซื้อมาจะคุ้ม  นักเตะอย่างดีเอโก้ ฟอร์ลัน และฮวน เวรอน โชว์ฟอร์มไม่ออก


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/07-Ferguson.jpgด็กมหัศจรรย์ที่โด่งดังที่สุด ของเฟอร์กูสันก็คือเดวิด เบ็คแฮม ที่เล่นทีมชุดใหญ่นัดแรกอายุ 17 ปี เมื่อปี 1992


เบ็คแฮม ทีแรกสวมเสื้อหมายเลข 10 ของมาร์ค ฮิวจ์ส ก่อนจะใช้เบอร์ 7 ของเอริก คันโตน่า สร้างชื่อให้ตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการฟุตบอล





อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ ราบรื่น ปี 2003 หลังจากที่แพ้อาร์เซนอล เฟอร์กูสัน เตะรองเท้าใส่เบ็คแฮมเข้าที่เหนือตาของเบ็คส์1 ปีต่อมา เบ็คแฮมย้ายทีมไปอยู่กับเรอัล มาดริด ค่าตัว 25 ล้านปอนด์


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/08-Ferguson.jpg


ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เฟอร์กูสันมักตกเป็นข่าว ไม่พอใจผู้ตัดสิน และที่ถูกเขา


วิจารณ์บ่อยก็คือ เจฟฟ์ วินเทอร์



เฟอร์กูสัน เคยถูกวินเทอร์ผู้ตัดสินที่ 4 ไล่ออกที่นิวคาสเซิลปี 2003 หลังจากที่ออกมาตำหนิการทำงานของวินเทอร์ว่าน่าขำ




เฟอร์กูสัน ยังกระทบกระทั่งกับหัวหน้าผู้ตัดสินคีธ แฮ็คเก็ตต์ หลายครั้ง โดยได้ออกมากล่าวหาว่าแฮ็คเก็ตต์ ช่วยเชลซี เพื่อที่จะขัดขาเขาแฮ็คเก็ต ต์ ต้องตอบคำถามประเทศนี้หลายข้อ เฟอร์กูสันกล่าวเมื่อเดือนมีนาคม 2008


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/09-ferguson.jpg




รดกฟุตบอลของเฟอร์กูสัน คือสิ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนในฟุตบอล เนื่องจากนักเตะบางคนที่ได้แชมป์ลีกทศวรรษ 1990 ปัจจุบันได้เป็นโค้ชทีมชั้นนำของลีก ไม่ว่าจะพอล อินซ์, สตีฟ บรู๊ซ และมาร์ค ฮิวจ์ส ความสัมพันธ์ของเฟอร์กูสัน กับผู้จัดการทีมร่วมอาชีพในลีก ถูกจารึกไว้ในหน้าข่าวหนังสือพิมพ์มาโดยตลอดอาชีพผจก.


เฟอร์กูสัน และอาร์แซน เวนเกอร์ ไม่เคยไปด้วนกันได้ ขณะที่เควิน คีแกน เคยตบะแตกออกอากาศ ตอนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า อยาก ให้นิวคาสเซิล ชนะแมนฯ ยูไนเต็ดปี 1996


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/04/10-ferguson.jpg


ฟอร์กี้  ได้ แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกครั้งที่ 2 และแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 10 ปี 2008 ก่อนจะได้อีกสมัยปี 2009



เรื่องวางมือ เฟอร์กูสัน เคยกล่าวกับภรรยา ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2002 ถึงตอนนี้เขา 68 ปีแล้ว และตกเป็นข่าวลือวางมืออีกครั้ง ตามรายงานคือได้กล่าวกับผู้บริหารว่าจะลงจากตำแหน่งเมื่อจบฤดูกาลหน้า แต่ล่าสุดเฟอร์กูสันได้ออกมาปฏิเสธแล้ว



เฟอร์กูสันประกาศแล้วว่า จะยังอยู่เป็นผู้จัดการทีมต่อไปตราบใดที่ยังแข็งแรง ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ

  ขอบคุณเนื้อความ ดีดี จาก คุณ mando Mthai


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์