เรือช็อก!สโคลส์โขกชัยทดเจ็บผีซิว 1-0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่ออายุการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ชนิดช็อกกันถ้วนหน้าหลังเกมที่กำลังจะแบ่งแต้มกันอยู่แล้วกลายเป็นพอล สโคลส์โขกพังประตูชัยทดเจ็บนาทีที่ 3 หรือนาทีสุดท้ายชนะ 1-0 ไล่เชลซีเข้ามาเหลือเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

พรีเมียร์ ลีก

วันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2553


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 0-1 พอล สโคลส์ น.90+3

ครึ่งแรก
ผีทักทายก่อน-เทพเฟล็ทยิงไกลหลุดเสานิดเดียว
เริ่มต้นมาเป็นแมนฯ ยูไนเต็ดที่ได้ครองบอลมากกว่าทำเกมส์รุกกดดันเข้าใส่เจ้าบ้านและนาทีที่ 4 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์รับบอลจากไรอัน กิ๊กส์บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะง้างตีนยิงด้วยขวาทันทีบอลพุ่งน่ากลัวแต่หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

เตเบซเอาบ้าง-ปั่นฟรีคิกซาร์เซฟเยี่ยม
นาทีที่ 9 แมนฯ ซิตี้ได้ลุ้นโอกาสทำประตูบ้าง โดยได้ฟรีคิกบริเวณ 30 หลาจากการทำฟาล์วของกิ๊บสันใส่เตเบซ และเป็นเตเบซรับหน้าที่ปั่นเอง โดยยิงไปทางสามเหลี่ยมบนด้านซ้าย แต่ฟาน เดอ ซาร์พุ่งไปคว้าไว้ได้ทัน

ผีมาอีกระลอก-หมามุ่ยยิงไกลหลุดเสาอีก
นาทีที่ 12 แมนฯ ยูไนเต็ดได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่เวย์น รูนี่ย์ครอสบอลจากทางขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษมาให้กับเฟล็ทเชอร์ที่ส่งย้อนหลังมาบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเยื้องไปทางด้านซ้ายให้กับพอล สโคลส์ และสโคลส์ก็วิ่งลากบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงด้วยเท้าขวาทันทีแต่บอลพุ่งหลุดเสาออกไป

ผีเข้าทำ-เรือรอสวน
เกมส์ผ่านมาครึ่งชั่วโมง แมนฯ ยูไนเต็ดครองบอลได้ดีกว่าเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด แต่โอกาสในการเข้าทำยังไม่มีเพราะกองหลังของแมนฯ ซิตี้ยังช่วยกันไล่ตัดบอลมาได้ ก่อนจะจ่ายบอลยาวให้กับเคร็ก เบลลามี่ใช้ความเร็วพาไปบริเวณริมเส้นและครอสเข้ามาให้กับอเดบายอร์ หรือเตเบซที่รอชาร์จอยู่ในเขตโทษ

หมูได้โอกาสยิงไม่ตรงกรอบ!
นาทีที่ 40 แมนฯ ยูไนเต็ดได้โอกาสที่ดีที่สุดในช่วงครึ่งแรก หลังวาเลนเซียวิ่งควบแข่งกับเวย์น บริดจ์เพื่อเอาบอลและกระโดดโหม่งบอลให้กับรูนี่ย์ในเขตโทษ ก่อนที่รูนี่ย์จะปล่อยบอลไหลผ่านกองหลังซิตี้ที่เข้าพรวด และยิงด้วยซ้ายแต่บอลหลุดออกหลังไปอีกครั้ง

ผีมาอีกรถด่วนครอสอย่างงามกิ๊กส์ชาร์จเบาหวิว
นาทีที่ 44 ทีมเยือนน่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆจากจังหวะที่วาเลนเซียครองบอลอยู่ทางด้านขวา ก่อนที่จะล็อคหลอกเวย์น บริดจ์หนึ่งจังหวะและเอาบอลกลับมาเข้าเท้าขวา และเงยหน้ามองเห็นไรอัน กิ๊กส์วิ่งทำทางมาหน้าเขตโทษจึงเปิดบอลเรียดให้ทันที บอลไปถึงกิ๊กส์ที่วิ่งเข้ามาชาร์จด้วยเท้าขวาแต่บอลเบาและตรงตัวกิฟเว่นรับไว้ได้สบาย
ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง
หมูโคตรกวนล้มเจ็บก่อนลุกเฉย
นาทีที่ 55 ใบเหลืองใบแรกของเกมส์เป็นทางฝั่งแมนฯ ซิตี้จากจังหวะที่กอมปานีวิ่งมาอัดรูนี่ย์จากทางด้านหลังบริเวณกลางสนาม จนหัวหอกทีมชาติอังกฤษลงไปดิ้นทันที และเมื่อกรรมการแจกใบเหลืองให้กับกอมปานี รูนี่ย์ลุกขึ้นมาวิ่งต่อเฉย เรียกเสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าบ้านได้ทั่วสนาม

เบลลามี่ได้โอกาสทองยิงเองออกไปเยอะ
นาทีที่ 57 แมนฯ ซิตี้น่าจะขึ้นนำสุดๆ หลังอเดบายอร์วิ่งควบหน้าตั้งมาตั้งแต่กลางสนาม ก่อนไหลบอลไปทางซ้ายให้กับเบลลามี่วิ่งจี้เข้าเขตโทษไร้ตัวประกบ ก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยซ้ายบอลแต่บอลออกไปเยอะ

รูปเกมส์อึดอัด
ผ่านไป 70 นาทีรูปเกมส์ของทั้งสองทีมยังไม่สามารถหาโอกาสดีๆเข้าทำฝ่ายตรงข้ามได้ เชื่อว่าหากมีประตูเกิดขึ้นอาจจะเป็นประตูตัดสินชัยชนะทันที

บังได้ชาร์จออกอีก
นาทีที่ 71 ไรอัน กิ๊กส์รับบอลจากเฟล็ทเชอร์ทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเปิดบอลเรียดเข้ามาในกรอบเขตโทษให้กับหลุยส์ นานี่ที่ลงมาแทนกิ๊บสันเข้าชาร์จ แต่บอลไม่ตรงกรอบออกไปอีกครั้ง

ป๋าแก้เกมส์ถอดหมูออกส่งอาร์ทลง
เกมส์ผ่านไป 74 นาทีรูปเกมส์ของแมนฯ ยูไนเต็ดดูไม่เป็นชิ้นเป็นอันเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจึงตัดสินใจส่งดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่ถูกวิจารณ์ฟอร์มการเล่นอย่างหนักในช่วงหลังลงสนาม ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้านก็ได้ส่งไรท์-ฟิลลิปส์ลงมาแทนอเดบายอร์เช่นกัน

อาร์ทได้โขกออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 81 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเกือบโขกประตูอุดปากแฟนบอลจอมด่าได้ หลังหลุยส์ นานี่ปั่นบอลจากทางขวาเข้ามาในเขตโทษ ให้อาร์ทได้สะบัดหัวโหม่งแต่บอลหลุดเสาออกไป

ผีเกือบตาย!ซาร์ปัดไม่ดีโอนูโอฮายิงจ่อๆ
ผ่านมาถึงนาทีที่ 85 แมนฯ ยูไนเต็ดเกือบกลับบ้านเก่าหลังฟาน เดอ ซาร์ออกมาปัดลูกเตะมุมไม่ดีไปเข้าทางของกอมปานีที่ล้มตัวยิงแต่เบา บอลไปเข้าทางของโอนูโอฮาที่ยืนอยู่หน้าเขตโทษหันตัวยิงทันทีแต่แนวรับผีแดงที่ยืนอยู่ตรงนั้นมะลุมมะตุ้มเคลียร์บอลทิ้งออกไปได้

ผีมาแล้ว!หมามุ่ยโขกเฮต่อชีวิต
นิยายน้ำเน่าฟุตบอลพรีเมียร์ ลีกยังไม่จบง่ายๆ หลังแมนฯ ยูไนเต็ดที่จ่อลงหลุมเต็มมาได้ประตูชุบชีวิตจากจังหวะที่หลุยส์ นานี่ครอสบอลมาให้กับสโคลส์ที่ยืนอยู่ในเขตโทษไร้ตัวประกบ กระโดดขึ้นโขกส่งบอลตุงตาข่าย หมดเวลาผีแดงบุกมาเอาชนะแมนน ซิตี้ได้ในนาทีสุดท้าย 1-0




รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, แวนซอง กอมปานี, โคโล่ ตูเร่, เวย์น บริดจ์, เนดัม โอนูโอฮา, แกเร็ธ แบร์รี่, ไนเจล เด ยอง(สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ น.78), เคร็ก เบลลามี่, อดัม จอห์นสัน(ปาทริค วิเอร่า น.65), คาร์ลอส เตเบซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์(ชอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.75)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, เนมันย่า วิดิช, จอห์นนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอฟร่า, แกรี่ เนวิลล์, พอล สโคลส์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ดาร์รอน กิ๊บสัน(หลุยส์ นานี่ น.59), ไรอัน กิ๊กส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย(กาเบรียล โอแบร์ตอง น.80), เวย์น รูนี่ย์(ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.74)
















_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์