เก็บเงินครับพี่ เสียงรวยรินของผมเรียกบริกรจากร้านอาหารข้างทางแถวเกษตร-นวมินทร์ เพื่อเคลียร์ค่าใช้จ่ายก่อนดิ่งรถกลับบ้าน
คงไม่ต้องบรรยายเพิ่มเติมครับ... ผมและเพื่อนที่นั่งข้างๆไม่มองหน้ากัน แต่ใจเราสื่อสารกันได้ด้วยความรู้สึก
ท่าทางไม่ต่างกันครับ คอตก หน้าซึม
ผมเองแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ....
จากการอบรมการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่ง... ผมและเพื่อนต้องพลาดเกมส์นี้ไปประมาณ 30 กว่านาที... อาศัยฟังวิทยุเพื่อรับทราบเหตุการณ์สด
แฟนปีศาจเข้าไส้ 2 คนในรถพยายามหาร้านอาหารอะไรก็ได้ที่ มีบอล จนกระทั่งไปเจอร้านๆนึงริมทาง... ไม่รอช้าครับที่จะรีบบึ่งเข้าไป
ผมทราบจากวิทยุมาตลอดว่าเกมของยูไนเต็ดเป็นรองค่อนข้างมาก... ผมอุทานกับเพื่อนอย่างฉุนเฉียว ทำไมกูได้ยินแต่เชลซีบุกขึ้นมาครับ..เชลซีบุกขึ้นมาอีกแล้วครับ !!
รถจอดลงอย่างแนบนิ่ง... ผมและเพื่อนจัดหาที่นั่งให้พร้อมสรรพสำหรับทั้งคู่... จากนั้นเราสองคนก็นั่งพินิจเกมในจอทีวีอย่างตั้งใจ... ทราบถึงความสำคัญว่านี่คือเกมสำคัญที่สุดแห่งฤดูกาล
รายชื่อเผยลางร้ายครับ... จากวิทยุที่ผมฟัง... แทบทำนายอนาคตได้ว่าชะตายูไนเต็ดเป็นเช่นไร เมื่อพอล สโคลส์ กับไรอัน กิ๊กส์ ลงสนามพร้อมกัน
เกมครึ่งแรกเลยตกเป็นรองอย่างชัดเจน... โดนขึงอย่างหนักหน่วงชนิดที่ทุกโอกาสที่ทีมเยือนเคลื่อนบอลไปรุก มันมีโอกาสจบเกือบทุกครั้ง...
ยูไนเต็ดมีโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นในครึ่งแรก... มันคือจังหวะหลุดเข้าไปซัดของปาทริซ เอวร่า ซึ่งตรงตัวปีเตอร์ เช็ก และอีกจังหวะคือลูกโหม่งข้ามคานของดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
หายนะมาเยือนอย่างกับนัดเอาไว้... ลูกครอสจากฟลอร็องต์ มาลูด้า ไปเข้าทางสัญชาตญาณอันเฉียบแหลมของโจ โคลเข้า...
ไม่มีอะไรดีขึ้นกระทั่งเสียงนกหวีดยาวสิ้นสุดครึ่งแรก... ยูไนเต็ดไม่สามารถทำเกมเร็ว-ทะลุช่องที่ตัวเองต้องการได้เลย... การหาโอกาสมีเพียงแค่เปิดออกปีก แล้วโยนสุ่มสี่สุ่มห้าไปให้เบอร์บาตอฟผู้บอบบาง ทำประตูโดยที่มีประการเหล็กอย่างจอห์น เทอร์รี่ และอเล็กซ์ ขวางกั้นอยู่
เซทพีซของไรอัน กิ๊กส์ สร้างโอกาสอยู่ 2 ครั้ง... ต้องชมแผงหลังของสิงห์ลอนดอนครับ... สมาธิไม่เคยหลุดออกไปจากเกมเลย
สโคลส์ เสียเปรียบเมื่อโดนใบเหลืองเร็ว... มันเสี่ยงเพราะเขาเป็นคนเข้าบอลโฉ่งฉ่างอยู่แล้ว... ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือถ้าครึ่งหลังบอลตาม แล้วหากเขาคุมอารมณ์ไม่อยู่ ไปเข้าช้าอีกรอบ อาจเลยเถิดเป็นใบแดง และสถานการณ์อาจแย่กว่าเดิมเสียอีก
ผมใช้เวลาช่วงพักครึ่งกระแทกอาหารที่อยู่บนจานเข้าสู่ท้อง... พร้อมด้วยความหวังเล็กๆที่เชื่อว่าทีมจะพลิกเกมส์กลับมาได้
เฟอร์กี้แก้เกมมาดีพอสมควรใน 45 นาทีหลัง... ทีมกดดันจนเชลซีต้องแพ็กไปรับหนักขึ้น... จนพาร์ค ชี ซองมีโอกาสหลุดเข้าไปยิงได้ครั้ง-สองครั้ง... หนุ่มโสมขาวมีความขยัน ทุ่มเท แต่พระเจ้าไม่ได้มอบการจบสกอร์ที่เฉียบคมมาให้เขา
การลงสนามพบทีมอย่างเชลซี เมื่อมีจังหวะเพียงครั้งเดียว ช่องโหว่นิดเดียวที่พวกเขาพลาด คุณต้องทำให้ได้...
แต่พาร์ค ชี ซอง เรียกรอยยิ้มจากแฟนบอลปีศาจไม่สำเร็จ
อดีตแข้งพีเอสวีเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เพื่อนมักจะส่งบอลมาให้... หลายครั้งเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่จุดเจ็บใจคือเขามักเข้าหาบอลช้ากว่าเทอร์รี่ , อเล็กซ์ หรือมิเกลอยู่ครึ่งจังหวะเสมอ
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ คือคนที่เร้ด อาร์มี่ต้องตบบ่าให้กำลังใจต่อ... ความมืดมนจากนัดบาเยิร์น มิวนิก ยังไม่หลุดออกไปจากเขา... วันนี้หนุ่มสก็อตติชพ่ายแพ้หลายจังหวะในการต่อสู้กับฟลอร็องต์ มาลูด้า , เดโก้ , แฟร้งค์ แลมพาร์ด และจอห์น โอบี มิเกล
เมื่อไม่มีเพื่อนคู่ใจอย่าง ไมเคิ่ล คาร์ริค เคียงข้าง... เฟล็ตเชอร์ดูเหนื่อยเกินไปที่จะต่อกรกับพลังสิงห์
ยูไนเต็ดทำได้ดีแล้วในหลายจังหวะ... เพียงแค่มันยังไม่ดีพอที่จะเป็นประตูเท่านั้น... ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ พยายามสุดความสามารถแล้ว... เขาทุ่มเทลงมาช่วยล้วงบอลหลายครั้ง และอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสทำประตู เพียงแค่ยังไม่เฉียบคมพอที่จะผ่านมือปีเตอร์ เช็กไป
อีกหนึ่งความผิดพลาดของเฟอร์กี้... การไม่ส่งนานี่ลงเป็น 11 คนแรก... วันนี้เปาโล แฟร์เรยร่าขึ้นเติมทางขวาอย่างสบายอุรา... พาร์ค ชี ซองไม่ได้สร้างความกดดันอะไรเท่าปีกโปรตุกีส
เกมนี้แบ็กสองฝั่งของยูไนเต็ดค่อนข้างรั่ว... แฟร์เรยร่าพาเอวร่าทัวร์จนเกือบทำประตูที่สองให้ทีมได้ตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว...
นาฬิกาเดินเล่นไปจนถึงนาทีที่ 70... ไคลแม็กซ์เพิ่งเริ่มตอกบัตรเข้าทำงาน... ดิดิเย่ร์ ดร็อกบาและซาโลมง กาลู ถูกส่งลงสนามในเวลาไล่เลี่ย... ขณะที่ยูไนเต็ดโหมสุดชีวิตเพื่อประตูตีเสมอ...
ทุกคนน่าจะรู้จักคำว่า เดจา วู นะครับ
วินาทีที่หอกดิบเถื่อนไอวอรี่ โคสท์ส่งบอลเข้าตุงตาข่าย... ผมรู้สึกไม่ต่างจากเกมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว... ฤดูกาล 2005-2006 นัดนั้นเชลซีถล่มยูไนเต็ดไป 3-0
ทีมรักของผมไร้ทางสู้อย่างแท้จริง ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวหม่นหมองด้วยความหมดหวัง
น้ำตาเครือขอบตาของผมตลอด 10 นาทีที่เหลือ... ป่วยการที่จะนั่งพิสูจน์ความยุติธรรมว่าดร็อกบาล้ำหน้า ในเมื่อผู้ตัดสินให้เป็นประตู มันก็คือประตู
บางที...ฟ้าอาจลิขิตให้เชลซีเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ก็ได้
ผมใจชื้นขึ้นหน่อย... เมื่อนานี่ เปิดให้เฟเดริโก้ มาเคด้า ทำประตู... บุรุษผู้ที่เทพีแห่งโชคเข้าข้าง... อีกครั้งที่อยู่ดีๆ บอลก็กระเด้งมาโดน หน้าท้อง เข้าประตู
เท่าที่สังเกต มาเคด้าไม่ได้ตั้งใจใช้แขนเพื่อประคองบอลเข้านะครับ... เป็นบริเวณหน้าท้องที่ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย
ตรงนี้แฟนทีมอื่นก็อาจหาข้อโต้แย้งมากล่าวถึงมาเคด้าได้เช่นกัน ว่าแฮนด์บอลหรือไม่ แต่ก็เช่นเคยครับ เมื่อผู้ตัดสินให้เป็นประตู มันก็คือประตู
เกมส์ดำเนินไปบนทางของมันต่อไป... ยูไนเต็ดเหมือนมีแสงริบหรี่รำไรอยู่ข้างหน้า... แต่ผมรู้สึกฮึกเหิมเมื่อนานี่ ปลุกใจแฟนบอลด้วยการโบกมือว่า เอาเว้ย...สู้กันหน่อย !!! อีกนิดเดียวจะเสมอแล้วนะ
กระนั้นต้องชมความเก๋าของเชลซีครับที่ประคองเกมส์เอาไว้ได้... ผมไม่คิดอยู่แล้วว่าทีมอย่างพวกเขาจะเสียประตูท้ายเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ยูไนเต็ด หมดไอเดียในเกมรุกอย่างสิ้นเชิง
หมดขนาดที่ต้องส่งดาร์รอน กิ๊บสัน ลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้าย...
เป็นอีกเกมส์ที่เชลซีทำได้ดีกว่า... แฟนยูไนเต็ดต้องยอมรับนะครับ พวกเราคือทีมที่พ่ายแพ้ในเกมส์นี้...
หากยูไนเต็ดต้องการเอาชนะเชลซี... เราต้องเน้นกว่านี้... เราต้องดีกว่านี้... เราต้องใช้โอกาสให้เปลืองน้อยกว่านี้... ไอเดียในเกมรุกต้องดีกว่านี้...
แฟร์เรยร่า , เชอร์คอฟ มีช่องโหว่ในตัวเองอยู่แล้ว และเทอร์รี่กับอเล็กซ์ก็มีสิทธิ์พลาดได้ทุกเมื่อ แต่เราทำไม่ได้เอง
ไม่มีประโยชน์ครับที่จะไปคอยโทษลูกกังขาที่เกิดขึ้น ปล่อยมันไปเถอะครับ
เชลซี ได้ยิ้มเมื่อจบเกม... พวกเขาถีบยอดอกยูไนเต็ดล้มลง ในระยะทาง 100 เมตรสุดท้าย
สเปอร์ส และลิเวอร์พูล เป็นเพียง 2 ทีมที่ยูไนเต็ดหวังมากที่สุด ว่าจะหยุดจ่าฝูงทีมใหม่เอาไว้ได้
ส่วนยูไนเต็ด ต้องท่องเอาไว้ด้วยเงื่อนไขเดียว... 15 แต้มเต็มใน 5 นัดสุดท้าย... หากยังหวังที่จะเป็นทีมแรกที่แพ้ 7 นัด แต่ยังได้แชมป์ลีก
แชมป์ประวัติศาสตร์ที่หาได้ยากที่สุด... หายากนะครับทีมที่จะเป็นแชมป์ได้ 4 ปีติดต่อกัน... ยูไนเต็ดกำลังจะปล่อยมันหลุดลอยไป
หรือปีศาจแดงอาจไม่มีบุญวาสนาพอที่จะจารึกประวัติศาสตร์ตรงจุดนั้น
สิ่งที่ควรทำ... เชื่อมั่นในทีมครับ !! ยูไนเต็ดไม่เคยแพ้ใคร 3 นัดติดต่อกัน... และต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการใส่ทุกอย่างลงไปในเกมกับบาเยิร์น มิวนิก
ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ถึงไม่มีเวย์น รูนี่ย์... ยูไนเต็ดก็ทำอะไรเป็น !! พลังของทีมจะไม่พึ่งเพียงแค่นักเตะเพียงคนเดียว... นักเตะตั้งแต่เบอร์ 1-100 ทุกคนต้องเป็นหนึ่งอันเดียวกันครับ
จับมือกันไว้... เจ็บก็รู้ว่าเจ็บ... แต่ทำได้เพียงเช็ดน้ำตา ฮึดสู้ แล้วก้าวต่อไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายในนัดที่ 38...
แสดงให้เชลซีเห็นครับว่า ยูไนเต็ด ไม่เคยยอมแพ้ใครจนถึงวินาทีสุดท้าย !!!
ทุกคนต้องเชื่อมั่นในความเป็นยูไนเต็ด... เมื่อเราเป็นแชมป์ สุขด้วยกัน... เมื่อเราต้องล้มลงร่ำไห้ เราก็ต้องร้องไปด้วยกัน ให้กำลังใจกัน
จับมือกันไว้...ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่... อย่าปล่อยมือกันนะ เพราะพวกเราคือ ปีศาจแดง
เจี๊ยบ เคเอฟซี
ปล.ขอบคุณภาพสวยๆจากไบรท์ครับ
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee