ชัยชนะจากซาน ซิโร่ บ่งบอกแคแร็กเตอร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของแท็คติกและแผนการเล่นยามรอนแรมออกนอกอาณาจักรโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
สถิติไร้พ่ายนัดเยือน 16 เกมนันสต็อปบนเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นผลลัพธ์ยืนยันชั่วโมงบินอันสูงขึ้นตอนของแข้งเร้ด เดวิลส์ หลังซาบซึ้งประสบการณ์เจ็บแสบเลือดโชกในถ้วยใบนี้ที่แพ้ถึง 8 จาก 12 เกมนอกรัง
คัมป์ นู, เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม, ซาน ซิโร่ (เยือนทั้ง อินเตอร์ และ มิลาน), โอลิมปิโก สตาดิโอ (2 ครั้ง) เป็นสังเวียนโอ่โถงอลังการที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาลูกน้องรอดตัวจากความปราชัยได้เรียบวุธ ซึ่งมีอิทธิพลรุนแรงต่อการผงาดเข้าชิงบัลลังก์เจ้ายุโรป 2 ฤดูกาลหลังสุด และปีนี้ก็กำลังกรุยทางสู่ความสำเร็จแบบแฮตทริก
ความเหนียวแน่นคือกุญแจดอกสำคัญที่พา ยูไนเต็ด แคล้วคลาดจากหายนะหลากหลายสาขา ท่ามกลางเหตุการณ์แปลกๆเมื่อเกิดประตูปลุกไก่ขึ้นมาโห่ช่วง 11 นาทีแรกมาตลอด 7 สเต็ปหลังสุดในรอบน็อกเอาต์ ยูซีแอล ของปีศาจแดง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งกำไรหรือขาดทุน
สกอร์ทักทายตั้งแต่ 3 นาทีที่ซาน ซิโร่ เป็นกรณีศึกษาเที่ยวล่าสุด แต่เชื่อแน่ว่าแฟนผีทั้งหลายคงจำได้ดีกับประตูที่สังเวยให้จังหวะซัลโวของ ซามูเอล เอโต้ ในนาทีที่ 10 ของนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก 2009
ในทางตรงกันข้าม ยูไนเต็ด ก็ระเบิดตาข่ายคู่แข่งแบบหัววันได้บ่อยครั้ง โดยมีภาพดีใจสไตล์เกาหลีของ พาร์ค ชี-ซอง (นาที 8) และแอ็กชั่นยั่วโทสะของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (นาที 11) ลอยละลิ่วโดดเด่นบนลิ้นชักความทรงจำในแมตช์ชี้ชะตารอบตัดเชือก ชปล. ที่บ้านปืน
ถอยหลังกลับไปในรอบควอเตอร์ไฟนั่ล ที่ปอร์โต้ ลูกตะบันตั้งแต่นาทีที่ 6 ของ โรนัลโด้ กลายเป็นช็อตตัดสินเกม และติดเป็นหนึ่งในสุดยอดประตูของจอมสับโปรตุกีสภายใต้ยูนิฟอร์มอสูรแดง ส่วนรอบก่อนหน้านั้น เนมานย่า วิดิช ก็จัดการโขกดับซ่างูใหญ่ตั้งแต่ 4 นาทีแรก ทั้งๆที่สักขีพยานบางคนในโรงละครแห่งความฝันยังไม่ได้หย่อนก้นบนที่นั่งของตัวเองด้วยซ้ำไป
จริงอยู่ว่าประตูระดับไฮสปีดที่พาดพิงถึงไปข้างบน ย่อมเป็นปัจจัยใหญ่ที่กระทบถึงรูปเกมในนาทีต่อๆมา แต่บทสรุปมันคงไม่โสภาเหมือนอย่างที่เป็นแบบนี้ หากไร้พัฒนาการหลากหลายจากนักเตะและตัวผู้จัดการทีม
หลายเกมอันเปี่ยมล้นด้วยความหมาย เฟอร์กี้ มักปฏิบัติการพลิกโผวางกลยุทธเซอร์ไพรส์คู่แข่ง รวมถึง The Italian Job ภาคล่าสุดที่สลับถ่าง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ไปป่วนเปี้ยนทางด้านซ้าย และปรับแต่งให้ พาร์ค ชี-ซอง เทคโอเวอร์บทบาทหน้าต่ำ อยู่ข้างหลังหอกเป้า เวย์น รูนี่ย์
เฟล็ทช์ เป็นฟันเฟืองตัวท็อปที่ช่วยให้แผนเด็ดของ เซอร์ อเล็กซ์ สำเร็จลุล่วงด้วยดี และคงไม่ใช่คำพูดอวยกันโอเวอร์มากไป หากจะบอกว่าซีซั่นนี้กองกลางไซส์สลิมชาวสกอตต์สวมบทเด่นเป็นรองแค่ รูน คนเดียว
ศูนย์หน้าผู้โดดเดี่ยวและเกมสวนกลับฉับไว กลายเป็นสูตรสำเร็จของ ยูไนเต็ด เมื่อก้าวเท้าแตะหลักรอบน็อกเอาต์ ซึ่งกำลังจะโดนมาโมดิฟายด์เพื่อประยุกต์ใช้ในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะโปรแกรมนอกบ้าน
การผ่านบอลและขยับเคลื่อนไหว จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจมากล้น และเมื่อมันถูกสร้างขึ้นมาอย่างเป็นระบบ โอกาสพบแสงสว่างย่อมอยู่ไม่ไกล แม้การขับเคลื่อนเชื่อมเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่เพลิดพลิ้วเหมือน บาร์เซโลน่า แต่ก็ได้รับการซูฮกเรื่องประสิทธิภาพและอำนาจทะลุทะลวงในจุดยุทธศาสตร์ตลอดจนบ่อน้ำมันของคู่แข่ง
นั่นคือพื้นฐานอันแข็งแกร่งและก่อให้เกิดความมั่นใจในมาตรฐานใหม่นอกบ้านเวลาลงเล่นถ้วยยุโรป ผิดกับในลีกที่ปราชัยไปแล้ว 4 นัดที่บ้าน เบิร์นลี่ย์, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ ฟูแล่ม โดยมีจุดบอดเหมือนกันเป๊ะตรงเจาะตาข่ายเจ้าถิ่นไม่ได้ แม้มีโอกาส แต่ก็ไม่สามารถฉ้อฉลโกงความตายเหมือนในอดีตได้
สุดสัปดาห์นี้แฟนผีมีนัดกันที่ กูดิสัน พาร์ค ในโปรแกรมหัวค่ำ ซึ่ง เวย์น รูนี่ย์ จะได้กลับไปเยือนถิ่นเก่า และแน่นอนว่าอดีตคนเคยรักสายเลือดทอฟฟี่บลูส์ คงเตรียมเสียงโห่รอต้อนรับหัวหอกฟอร์มฮอตกันกระหึ่มอุ่นหนาฝาคั่ง
21 จาก 24 ประตูในซีซั่นนี้ของ รูนี่ย์ เป็นผลิตผลบนเวทีพรีเมียร์ลีก และด้วยกลไกในเชิงลูกหนังที่ไม่ต่างจากเกมกับ มิลาน ย่อมมีส่วนผลักดันให้ตัวเขายึดบทพระเอกประจำแมตช์ได้ไม่ยาก แม้ต้องยอมทรยศและเนรคุณอู่ข้าวอู่น้ำฉบับออริจินัลก็ตาม
ตัวเลขไฉไลนอกบ้านในถ้วยยุโรป เป็นมาตรฐานโดดเด่นที่กำลังติดลมบน และคง
สุโค่ยไปเลย หากเผื่อแผ่มายังเกมพรีเมียร์บ้าง ในฐานะปัจจัยสำคัญสู่บัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19
*เปริมี่*
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
