รายละเอียดหนี้ เหตุที่ผีต้องขายสนาม



ประเด็นเรื่องการเงินของ แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก 11 สมัย ยังคงถูกตีแผ่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เดลี่ เมล์ ปูดตระกูลเกลเซอร์ วางแผนขายโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และแคร์ริงตัน เทรนนิ่ง คอมเพล็กซ์

หนังสือพิมพ์เดลี่ เมล์ ของประเทศอังกฤษรายงานข่าวว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก 11 สมัยอาจต้องขายสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, ศุนย์ฝึกซ้อมแคร์ริงตัน รวมถึงดาราประจำทีมอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงทีมาติอังกฤษ ออกไปเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ก้อนโตหลายร้อยล้านปอนด์

รายงานเมื่อ 14 ม.ค. ระบุว่า หลังจากตระกูลเกลเซอร์ เข้ามาเทกโอเวอร์กิจการสโมสรเมื่อปี 2005 ก็นำพาหนี้เข้าสู่ทีมปีศาจแเดงเป็นจำนวนมหาศาล 699 ล้านปอนด์ (ราว 3.9 หมื่นล้านบาท) จนสโมสรที่มีมูลค่ารวม 1,200 ล้านปอนด์ (ราว 6.7 หมื่นล้านบาท) ตามการประเมินของนิตยสารฟอร์บส์ ไม่เหลือเงินสักแดงให้ซื้อนักเตะใหม่ในช่วงเดือนนี้

เดลี่ เมล์ รายงานว่า ยุทธวิธีที่ตระกูลเกลเซอร์ จะนำมาใช้เพื่อล้างหนี้จำนวนดังกล่าว ประกอบด้วยหลายกรณี อย่างหนึ่งคือ การขายโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และแคร์ริงตัน เทรนนิ่ง คอมเพล็กซ์

หนังสือเชื้อเชิญที่ส่งให้กับกลุ่มผู้ลงทุน เกี่ยวกับการออกพันธบัตร มีข้อความของ เกลเซอร์ ระบุเอาไว้ว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับการควบคุมพันธบัตรมีข้อจำกัดห้ามเราขายหรือโอน แต่ทว่าไม่ได้หมายถึงห้ามขายหรือโอนสนามซ้อมหรือว่าสนามแข่งขันของพวกเรา

แม้ ว่าการขายสนามและสนามซ้อม คงไม่ใช่การปล่อยออกไปในเร็วๆ นี้ แต่การขายเพื่อระดมทุนก้อนโตราว 500 ล้านปอนด์ (ราว 2.8 หมื่นล้านบาท) ก็อยู่ในการพิจารณาระยะยาวเช่นกัน

สำหรับ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะครบรอบ 100 ปีที่เปิดใช้งาน ในเดือน ก.พ. นี้ ส่วน แคร์ริงตัน เทรนนิ่ง คอมเพล็กซ์ เปิดใช้งานมาเป็นปีที่ 10 พอดีในปีนี้

บ่จี๊ซื้อแข้งใหม่-หนี้ส่อเค้าขยายตัว

ขณะ เดียวกัน ในรายงานของเดลี่ เมล์ ยังระบุว่า แมน ยูไนเต็ด ไม่มีเงินซื้อนักเตะใหม่แม้แต่ปอนด์เดียวในช่วงเปิดตลาดครั้งนี้ และอาจรวมถึงช่วงซัมเมอร์ ทั้งที่เมื่อกลางปีก่อนขาย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส ออกไปได้เงินถึง 80 ล้านปอนด์ (ราว 4,480 ล้านบาท)

ในการเปิดเผยผลกำไรครั้งล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด มีกำไรก่อนหักภาษีจำนวน 48.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) ในรอบการดำเนินงาน 1 ปี จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2009 แต่ในความหมายเดียวกันนั้น ก็คือพวกเขาไม่ได้ใช้เงินซื้อใครเลย

พร้อม กันนั้นมีการคาดการณ์ว่า จำนวนหนี้ของแมนฯ ยูไนเต็ด อาจเพิ่มมูลค่ามากขึ้นไปอีกในอนาคตอันใกล้ โดยในเอกสารที่ออกมาระบุว่า เกลเซอร์อาจต้องทำการรีไฟแนนซ์หนี้อีกครั้ง

ส่วนเรื่องการขายนักเตะ ซูเปอร์สตาร์ที่เหลืออยู่ของทีม ออกไปเพื่อทำเงิน ก็เป็นที่จับตามองของสื่อ โดยคาดว่า เวย์น รูนี่ย์ น่าจะทำเงินได้มากที่สุด โดยมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า สองยักษ์ลา ลีกา สเปน พร้อมจ่ายเงินดีถึงหลัก 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,920 ล้านบาท) เพื่อซื้อหัวหอกทีมชาติอังกฤษไปร่วมทีม

รับจากเอออนแล้วสองพันล้าน

ใน ช่วงกลางปีนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้สปอนเซอร์อกเสื้อรายใหม่เป็น Aon บริษัทประกันภัยของสหรัฐอเมริกา ด้วยค่าตอบแทนรวม 80 ล้านปอนด์ (ราว 4,480 ล้านบาท) ในระยะ 4 ปี แต่มีการเปิดเผยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับล่วงหน้ามาก่อนแล้ว 36 ล้านปอนด์ (ราว 2,016 ล้านบาท)

ด้วยการ ที่เอไอจี บริษัทประกันภัยหน้าเดิมที่เป็นสปอนเซอร์อยู่ในเวลานี้ ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจนต้องถิอนตัวจากการสนับสนุนทีมปีศาจแดง ทำให้มี เอออน เข้ามารับช่วงต่อ โดยจะเริ่มตั้งแต่ซัมเมอร์ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป

เอ ออน จะจ่ายเงินสนับสนุนแมนฯ ยูไนเต็ด ปีละ 20 ล้านปอนด์ (ราว 1,120 ล้านบาท) แต่ล่าสุดมีการจ่ายเงินล่วงหน้ามาแล้วถึง 36 ล้านปอนด์ (ราว 2,016 ล้านบาท) แต่เป็นที่น่าสนใจว่า เงินดังกล่าวจมหายไปไม่เปลี่ยนเป็นงบเสริมทัพแม้แต่นิดเดียว

แฉมีจ่ายเงินนอกประเด็นนับพันล้าน

นอก จากนั้น เดลี่ เมล์ ระบุว่า ตระกูลเกลเซอร์ มีการใช้จ่ายเงินนอกประเด็นที่ไม่น่าจะเกี่ยวกับการบริหารสโมสร ไปรวมแล้วถึง 22.9 ล้านปอนด์ (ราว 1,282 ล้านบาท) เลยทีเดียว

ในหน้า 89 ของเอกสารที่ออกมา ระบุถึงการจ่ายเงินให้กับ ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กับสโมสร ซึ่ง เดลี่ เมล์ ขุดคุ้ยว่า ในช่วงคริสต์มาสปี 2008 พวกเขามีการจ่ายเงินออกไปราว 10 ล้านปอนด์ (ราว 560 ล้านบาท)

จาก นั้นก็มีการจ่ายเงินประจำปี จำนวน 2.9 ล้านปอนด์ โดยอ้างว่าเป็น ข้อตกลงด้านที่ปรึกษา รวมถึง ค่าการจัดการบริหาร เป็นงวดๆ ทั้ง 0.6 ล้านปอนด์, 1.8 ล้านปอนด์, 1.4 ล้านปอนด์, 3.1 ล้านปอนด์ และ 3.1 ล้านปอนด์ ตั้งแต่กลางปี 2006 เป็นต้นมา




จากเว็บ
www.pantip,com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์