5 สุดยอดคู่อริตลอดกาล

วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม จะมีศึกดาร์บี้แมตช์เมอร์ซีย์ไซด์ ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล สองยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เจอกันเมื่อใดก็เตะกันไฟแลบ แต่นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีคู่อริซึ่งถูกจัดให้อยู่ระดับสุดยอดในวงการลูกหนังอีกเพียบ และนี่คือ 5 อันดับแรกที่อยากให้รู้จัก



เรอัล มาดริด - บาร์เซโลน่า

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O101016F9Q6O.jpg
บาร์เซโลน่า (ซ้าย) กับ เรอัล มาดริด ไม่ถูกชะตากันทั้งเรื่องเชื้อชาติ และความเป็นมา



ลือกันว่า แอตเลติโก มาดริด เพื่อนร่วมเมือง ยังไม่ใช่คู่กัดที่แฟนบอล เรอัล มาดริด เกลียดมากเท่ากับ บาร์เซโลน่า เพราะฝ่ายหลังคือคู่แข่งสำคัญในการแย่งแชมป์ และต่างฝ่ายก็เป็นตัวแทนของแคว้นมาดริด กับคาตาลัน ซึ่งแตกต่างตั้งแต่ขนบธรรมเนียมประเพณี การปกครอง รวมทั้งภาษา เนื่องจากบาร์เซโลน่าเป็นสัญลักษณ์ของชาวคาตาลุนญ่า มีแนวคิดทางการเมืองแบบสาธารณรัฐ และเป็นเขตปกครองที่มีอิสระมากสุดในสเปน ขณะมาดริดคือศูนย์กลางของประเทศ พื้นเพเป็นของชาวกาสติเลียน ส่งเสริมสถาบันกษัตริย์ มีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม



 



ยุคที่ฟรานซิสโก้ ฟรังโก้ ครองประเทศ ได้ใช้ เรอัล มาดริด ในการโฆษณาชวนเชื่อ จนกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง นายพลผู้นี้ยังต่อต้านวัฒนธรรมของชาวคาตาลัน รวมถึงการห้ามใช้ภาษาท้องถิ่น ผู้ต่อต้านฟรังโก้ก็เลยเกลียด เรอัล มาดริด ด้วย การแย่งชิงตัว อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ เมื่อปี 1953 ยิ่งทำให้แฟนบอลทั้งสองทีมบาดหมางกันหนัก เพราะเดิมเขาเซ็นสัญญากับบาร์เซโลน่า แต่สหพันธ์ฟุตบอลสเปนไม่รับรอง ท่ามกลางความเชื่อว่าเพราะรัฐบาลนายพลฟรังโก้หนุนหลัง และ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ประธานสโมสร เรอัล มาดริด สามารถตัดหน้าคว้าไปแทน



 



การเจอกันของคู่นี้จะเรียกว่า เอล กลาสซิโก้ หรือ เดอะ คลาสสิค เพราะนอกจากมีประวัติศาสตร์ไม่ลงรอยกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายคือสโมสรที่ครองแชมป์ลีกมากสุด โดย ราชันชุดขาว ทำได้ 57 สมัย เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอันดับ 2  ของยุโรป และอันดับ 3 ของโลกร่วมกับ อินเดเพนเดียนเต้ (อันดับ 1 คือ เอซี มิลาน และ โบคา จูเนียร์ส ครองร่วมกัน) ส่วนบาร์เซโลน่าครองแชมป์ลีก 20 ครั้ง แต่ก็มีนักเตะหลายคนที่อยู่ทั้งสองสโมสร เช่น หลุยส์ ฟิโก้, แบร์นด์ ชูสเตอร์, ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า, จอร์จี้ ฮากี้, ซามูเอล เอโต้ และ โรนัลโด้



ปาร์ติซาน เบลเกรด - เร้ด สตาร์ เบลเกรด

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O101016D8S3K.jpg
ปาร์ติซาน (ซ้าย) พร้อมแพ้ได้ทุกทีม ยกเว้น เร้ด สตาร์



แม้พวกเขาจะอยู่ในนครเบลเกรด แต่เหมือนอยู่กันคนละโลกมากกว่า เอฟเค ปาร์ติซาน คือสโมสรของกองทัพบกยูโกสลาฟ ส่วนเร้ด สตาร์ เป็นตัวแทนของฝ่ายประชาชนคู่ปฏิปักษ์ ทั้งสองสามารถคว้าแชมป์อย่างล้นหลาม (ปาร์ติซาน แชมป์ลีก 22 สมัย ฟุตบอลถ้วย 12 ครั้ง, เร้ด สตาร์ แชมป์ลีก 25 สมัย ฟุตบอลถ้วย 23 หน เป็นสถิติสูงสุดทั้งสองอย่าง) ท่ามกลางการทุจริตในวงการลูกหนังของประเทศ เวลาพวกเขามาเจอกันจะเรียกว่า เวซิตี้ เดอร์บี้



 



ปาร์ติซานได้รับความนิยมสูงสุดอันดับ 2 ของเซอร์เบีย และขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปั้นนักเตะที่ดีสุดอันดับ 2 ในยุโรป รองจาก อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม เพราะมีศิษย์เก่าอย่าง บรังโก้ เซเบ็ช, ซลัตโก้ ซาโฮวิช, มิโรสลาฟ สเตวิช, ซาโว มิโลเซวิช, ราโดเมียร์ อันติช และ สเตวาน โยเวติช เป็นทีมยุโรปตะวันออกทีมแรกที่เข้าชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ เมื่อปี 1966 เป็นทีมแรกของเซอร์เบียที่ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ที่สร้างชื่อไม่แพ้กันคือมีกลุ่มกองเชียร์ฮาร์ดคอร์ชื่อ โกรบารี่ ซึ่งมักหาเรื่องวิวาทกับ เดลิเย่ แฟนฮาร์ดคอร์ของ เร้ด สตาร์ เป็นประจำ



 



เร้ด สตาร์ หรือชื่อเซอร์เบียน เซอร์เวน่า ซเวซด้า คือทีมจากอดีตยูโกสลาเวีย และเซอร์เบียเพียงแห่งเดียวที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ กับแชมป์สโมสรโลก โดยเกิดขึ้นเมื่อปี 1991 ด้วยนักเตะอย่าง โรเบิร์ต โปรซิเน็คกี้, ซินิซ่า มิไฮโลวิช, ดาร์โก้ ปานเชฟ, วลาดิเมียร์ ยูโกวิช และ เดยัน ซาวิเซวิช พวกเขาคือสโมสรเซอร์เบียนรายเดียวที่คว้าแชมป์ระดับนานาชาติ มีแฟนบอลมากสุดเฉลี่ย 50 เปอร์เซนต์จากทั้งประเทศ นอกจากฮูลิแกนของพวกเขาจะเคยก่อเหตุรุนแรงกับสาวกปาร์ติซาน ก็ยังมีประวัติการวิวาทกับกองเชียร์ ดินาโม ซาเกร็บ ในปี 1990 จนมีผู้บาดเจ็บ 60 คน



เฟเนร์บาห์เช่ - กาลาตาซาราย

 src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O101016D7M0L.jpg
แม้อยู่เมืองเดียวกัน แต่กาลาตาซาราย (ซ้าย) ก็ไม่กินเส้นกับเฟเนร์บาห์เช่อย่างแรง



สองยักษ์ใหญ่ของวงการลูกหนังตุรกี ที่มาจากอิสตันบูลเหมือนกัน แบ่งแยกด้วยชนชั้นของแฟนบอล กาลาตาซาราย คือทีมคนรวย ส่วนผู้ยากไร้จะชื่นชอบเฟเนร์บาห์เช่  ฝ่ายหลังมาจากเขตคาดิคอย ที่มีขนาดใหญ่, ชื่อเสียงโด่งดัง และหลากชนชาติที่สุดของเมืองหลวงแห่งนี้ พวกเขาเคยจัดนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ ปี 2009 มาแล้ว นักเตะชั้นนำที่เคยเล่นให้เฟเนร์บาห์เช่ ก็มาจากหลายประเทศ เช่น ฮาราลด์ ชูมัคเกอร์, เคนเน็ธ แอนเดอร์สสัน, นิโกล่าส์ อเนลก้า, มาเตย่า เคซมัน, เอลเวียร์ โบลิช และ เจย์เจย์ โอโคชา



 



นอกจากนั้น เฟเนร์บาห์เช่ยังเป็นที่แจ้งเกิดของสุดยอดพ่อค้าแข้งตุรกีหลายราย ทั้ง รุสตู เร็คเบอร์, โอกุซ เซติน, เซลซุค ยูล่า, เซอร์ฮัต อาคิน กับ เลฟเตอร์ คูซูคันดอนยาดิส เพราะครองสถิติคว้าแชมป์มากสุดในประเทศทั้ง แชมป์แห่งชาติตุรกี 3 สมัย, ลีกแห่งชาติ 6 สมัย และซูเปอร์ ลีก 17 สมัย (เท่ากับกาลาตาซาราย) เป็นสโมสรเดียวของตุรกีที่ครองแชมป์ 5 รายการในฤดูกาลเดียว คือแชมป์ลีก, เตอร์กิช คัพ, เพรสซิเดนท์ คัพ, สปอร์-โตโต้ คัพ และ บอลข่านส์ คัพ ซึ่งไม่แปลกหากชาวตุรกีส่วนใหญ่จะเชียร์ทีมนี้



 



กาลาตาซารายก็ปั้นนักเตะเก่งไม่แพ้กัน โดยให้กำเนิด เอ็มเร่ เบโลโซกลู, บูเลนท์ คอร์คมาซ, อาริฟ เออร์เดม, อาร์ด้า ทูราน และ โอคาน บูรุค โดยได้แชมป์ยูฟ่า คัพ กับ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในปี 2000 แม้แชมป์ประเทศจะได้ไม่เท่าเฟเนร์บาห์เช่ แต่เป็นเจ้าของสถิติคว้าแชมป์ที่เหลือของตุรกีมากสุด เช่น ทีเอฟเอฟ ซูเปอร์ คูป้า (ซูเปอร์คัพ) 11 ครั้ง รวมถึง เตอร์กิเย่ คูปาซี่ (เอฟเอ คัพ) 14 สมัย แม้จะมี เบซิคตัส เป็นเพื่อนร่วมเมืองอีกทีม แต่พวกเขาถือว่าเฟเนร์บาห์เช่คือคู่ปรับที่สำคัญที่สุด และเคยมีเหตุวิวาทระหว่างแฟนบอลทั้งสองฝ่ายบ่อยครั้งที่สุด



กลาสโกว์ เซลติก - กลาสโกว์ เรนเจอร์ส

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O101016H0U4K.jpg
ที่เรียกโอลด์ เฟิร์ม ดาร์บี้แมตช์ เพราะเซลติก (ซ้าย) เจอเรนเจอร์สมาตั้งแต่ปี 1888



ทั้งสองทีมคงยากจะสมานฉันท์ไม่ต่างจากคู่อื่นๆ เพราะแบ่งแยกชัดเจนด้วยเชื้อชาติ กับศาสนา เซลติกคือกลุ่มชนเชื้อสายไอริชที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมัน คาทอลิก ส่วนเรนเจอร์สเป็นตัวแทนคนท้องถิ่นซึ่งนับถือนิกายโปรแตสแตนต์ พวกเขาได้แชมป์มากสุดของสกอตแลนด์ (เซลติก แชมป์ลีก 42 สมัย เอฟเอ คัพ 34 ครั้ง เรนเจอร์ส แชมป์ลีก 53 สมัย เอฟเอ คัพ 33 หน ลีก คัพ 26 ครั้ง เป็นสถิติสูงสุดทั้ง 3 รายการ) แถมเคยครองฝ่ายละ 9 ปีติดต่อกันมาแล้ว (เซลติก ปี 1966-1974 เรนเจอร์ส 1989-89 ถึง 1996-97)



 



ม้าลายเขียวขาว ขึ้นชื่อว่าสร้างสถิติไว้มากมาย เช่นการมีผู้ชมสูงสุดในโลกสำหรับแมตช์ฟุตบอลถ้วยในประเทศ 147,365 คน เมื่อปี 1937 ไม่แพ้ใครนานสุดในเกาะอังกฤษ 17 เดือน 4 วัน หรือ 62 เกมติดต่อกัน (ชนะ 49 เสมอ 13) ช่วงเดือนพฤศจิกายน 1915 ถึงเมษายน 1917 รวมทั้งเป็นสโมสรแรกในยุโรปที่ให้โอกาสผู้เล่นเอชียลงสนาม คือ โมฮัมเหม็ด ซาลิม จากอินเดีย เมื่อปี 1937 นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งปั้นสุดยอดนักเตะของสกอตแลนด์ ทั้ง เคนนี่ ดัลกลิช, บิลลี่ แม็คนีล, รอย เอ็ตเก้น, จิมมี่ จอห์นสโตน กับ พอล แม็คสเตย์



 



เรนเจอร์สได้แชมป์ลีกมากกว่าทุกสโมสรในโลก และเป็นทีมจากสหราชอาณาจักรรายแรกที่เข้าชิงแชมป์สโมสรยุโรป คือศึก ยูโรเปี้ยน คัพวินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1961 นักเตะชื่อดังหลายรายจากทุกยุคทุกสมัย ต่างเคยมาค้าแข้งกับพวกเขา เช่น แกรี่ สตีเว่นส์, ริชาร์ด กัฟ, อัลลี่ แม็คคอยส์ท, เทอร์รี่ บุทเชอร์, มาร์ค เฮ็ทลี่ย์, พอล แกสคอยน์ และ สจ๊วร์ต แม็คคอลล์ รวมถึงที่มาจากภาคพื้นยุโรปอย่าง ไบรอัน เลาดรู๊ป, อันเดร แคนเชลส์กี้ส์, อเล็กเซ มิคาอิลเชงโก้, เฟอร์นานโด้ ริคเซ่น, โชต้า อาร์เวลัดเซ่ กับ ลอเรนโซ่ อโมรูโซ่



โบคา จูเนียร์ส - ริเวอร์ เพลท

src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O101016G5Q8T.jpg
สองดาวดังยุคนี้ของทั้งคู่ คือริเกลเม่ (ซ้าย) จากโบคา กับ อัลเมย์ด้า ของริเวอร์ เพลท



โบคา จูเนียร์ส เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ริเวอร์ เพลท ยักษ์ใหญ่อีกแห่งของลีกอาร์เจนตินา เหมือนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ดาร์บี้แมตช์ของพวกเขาจะเรียกว่า ซูเปอร์กลาสซิโก้ ได้ชื่อว่าคือหนึ่งในเกมที่ดุเดือด และสำคัญที่สุดของโลกฟุตบอล เพราะมันเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ของแฟนบอล ซึ่งสร้างสีสันด้วยดอกไม้ไฟ, ลูกปาสี, ธง และม้วนกระดาษ พวกเขาจะร้องเพลงเชียร์อย่างกึกก้อง และกระโดดโลดเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นเจ้าบ้าน หลายครั้งก็มักลงเอยด้วยจลาจลระหว่างฮูลิแกนของทั้งสองฝ่าย



 



ทั้งคู่มีต้นกำเนิดในพื้นที่ผู้ยากไร้ในเขต ลา โบก้า เมืองท่าสมัยโบราณ ก่อนริเวอร์ เพลท จะย้ายไปอยู่เขตนูนเยซ ทางเหนือสุดของกรุงบัวโนส ไอเรส บนฝั่งแม่น้ำ ริโอ เด ลา ปลาต้า ซึ่งมีผู้คนฐานะดีกว่า ชื่อริเวอร์ เพลท ก็หมายถึงแม่น้ำสายนี้ พวกเขาคือเจ้าของสถิติทีมที่คว้าแชมป์ลีกอาร์เจนตินามากสุด 33 ครั้ง หนสุดท้ายคือปี 2008 นักเตะผู้เป็นตำนานคือ กาเบรียล บาติสตูต้า, อาเบล บัลโบ้, มาริโอ เคมเปส, เอ็นโซ่ ฟรานเชสโกลี่, เคลาดิโอ คานิกเกีย และ ออสการ์ รุกเกรี่ ส่วนที่มีอยู่ในปัจจุบันก็มี อาเรียล ออร์เตก้า, มาเทียส อัลเมย์ด้า กับ โรดริโก้ โรฮาส



 



โบคา จูเนียร์ส จึงกลายเป็นตัวแทนของผู้มีฐานะยากไร้จากเขต ลา โบก้า ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบัวโนส ไอเรส พวกเขาคว้าแชมป์ลีก 23 ครั้ง เป็นรองริเวอร์ เพลท ทีมเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเป็นระดับชาติ โบคาได้แชมป์ 18 รายการ มากสุดในโลกเท่ากับ เอซี มิลาน นักเตะผู้เป็นตำนานคือ ฮูโก้ กัตติ, ดีเอโก้ มาราโดน่า, ออสวัลโด้ โปเตนเต้, คาร์ลอส ตาเปีย, คาร์ลอส มอนโตย่า และ ดีเอโก้ ลาตอร์เร่ ส่วนที่มีอยู่ในปัจจุบันก็มี เซบาสเตียน บัตตาเยีย, ฮวน โรมัน ริเกลเม่ กับ มาร์ติน ปาแลร์โม่


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์