ส่องกล้องมองผี

ส่องกล้องมองผี (หลังตลาดนักเตะรอบแรกปิด)



   ผ่านพ้นกันไปสำหรับฤดูกาลซื้อขายนักเตะช่วงแรก ที่มีหลายต่อหลายทีมทุ่มทุนสร้างขุมกำลังใหม่ไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เริ่มต้นสร้างอาณาจักรของตัวเองไล่ล่าหาถ้วยรางวัล และยกระดับเป็นทีมชั้นต้นของวงการฟุตบอลอังกฤษ

อีกทีมหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือทีมราชันชุดขาว 'เรอัล มาดริด' ที่ก้าวกลับไปยังยุคกาลาคติคอสอีกครั้งหนึ่ง โดยการดึงตัวผู้เล่นชั้นนำของโลกเข้าสู่ทีมมากมายไล่ตั้งแต่ ดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในยุโรปคาริม เบนเซม่า หรือมิดฟิลด์ตัวกลั่นขวัญใจชาวหงส์อย่างซาบี้ อลอนโซ่ รวมไปถึงเทพเจ้าของเอซี มิลานอย่างริคาร์โด้กาก้า และที่เป็นที่กล่าวขานกันที่สุดก็หนีไม่พ้นการทำลายสถิติของผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดในโลก โดยมาดริดทุ่มเงินมหาศาล 94 ล้านยู โรดึงตัวผู้เล่นที่ถูกขนานนามว่าดีที่สุดในโลก มีชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้

เจ้าของบทความในฐานะที่เป็นแฟนบอลพันธุ์แท้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้นสังกัดเก่าของโรนัลโด้ ได้เห็นนักเตะอันเป็นที่รักและขวัญใจทำตามความฝันวัยเด็กได้ก็รู้สึกดีใจด้วยอย่างสุดซึ้ง แต่การจากไปของ 'CR7' ทิ้งช่องโหว่มหาศาลให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด โดยต้องยอมรับว่าความสำเร็จของยูไนเต็ดในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งพรีเมียร์ลีก ,ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกหรือแชมป์สโมสรโลก โรนัลโด้เป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ปัญหาที่ตามมาจากการจากไปของโรนัลโด้คือแฟนผีต่างพากันตั้งคำถามว่า แล้วใครล่ะที่จะมาทำหน้าที่แทนโรนัลโด้ (ใครล่ะวะ?)

  เฟอร์กี้ตัดสินใจอุดช่องโหว่ของโรนัลโด้ โดยการดึงตัวหลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซียมาด้วยสนนราคาประมาณ 22 ล้านยูโร และจากที่ได้ดูฟอร์มการเล่นของปีกยิ้มยากรายนี้ ผมขอประเมินคะแนนไว้ในระดับ 'พอดูได้' คือโอเค การเล่นอาจดูวูบวาบในบางจังหวะแต่โดยรวมแล้วยังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าที่ควร ซึ่งหากนำไปเทียบกับ คุณโรนัลโด้ขี้เก๊กแล้วต้องบอกเลยว่า สอบตกอย่างสิ้นเชิง

อาจจะเร็วไปที่จะมานั่งเทียบความสามารถของโด้จิ๋วกับวาเลนเซีย แต่ในฤดูกาลนี้ วาเลนเซียจะยังคงไม่สามารถทดแทนสิ่งต่างๆที่ CR7 ทำไว้ได้แน่นอนไม่ว่าจะเป็นการทำประตูทั้งจากเท้าหรือศีรษะ ,ลูกฟรีคิกทรงพลัง และข้อสำคัญที่สุดคือเป็นบุคคลที่ทีมต้องการยามคับขัน แต่จะพูดถึงข้อเสียอย่างเดียวก็มิได้ อย่างน้อยการเข้ามาของวาเลนเซียและการจากไปของโรนัลโด้ ก็ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดมีการเล่นที่เป็นระบบ และหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งผู้เล่นที่เคยถูกราหูโรนัลโด้บดบังอย่าง เวย์น รูนี่ย์ก็เจิดจรัสขึ้นมา โดยยิงไป 4 ประตูนำเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกในขณะนี้



   ปัญหาที่น่าเป็นห่วงที่สุดของยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ไม่ใช่การหาตัวตายตัวแทนของโรนัลโด้ แต่เป็นขุมกำลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ดูแล้วน่าเป็นห่วง โดยอเล็ก เฟอร์กูสันตัดสินใจเซ็นสัญญาไมเคิ่ล โอเว่นมาทำหน้าที่แทนคาร์ลอส เตเบซที่โยกก้นไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้อริร่วมเมือง (แหม!รัก ผีจริงๆพ่อคุณ) เซ็นสัญญากับวาเลนเซีย มาอุดตำแหน่งของโรนัลโด้ อีกทั้งยังดึงตัวผู้เล่นโนเนมชื่อว่า กาเบรียล โอแบร์ตองเข้ามาด้วย มองไปถึงขุมกำลังเก่าๆที่เสริมเข้ามาในฤดูกาลที่แล้วอย่างโซรัน โทซิซก็มองไม่เห็นวี่แวว ที่จะโชว์ฟอร์มโดดเด่นออกมาได้ และจากรูปร่างที่เล็กจิ๋วขนาดนั้น หากไม่เก่งจริงๆ ก็เตรียมโบกมือบ๊ายบายเกาะอังกฤษได้เลย

โดยรวมแล้วฤดูกาลนี้ผีแดง เสริมทีมด้วยผู้เล่นที่พร้อมใช้งาน 2 คน (วาเลนเซียและโอเว่น) และเสียขุมกำลังหลักไปอีก 2 คน (โรนัลโด้และเตเบซ) อีกทั้งขุมกำลังเก่าที่มีอยู่อย่างไรอัน กิ๊กส์หรือพอล สโคลส์ก็โรยราไปทุกวัน จะให้ไปเล่นเกมส์ใหญ่ๆ ก็คงจะไม่ไหว (ดูฟอร์มลุงกิ๊กส์นัดพบกับอาร์เซนอล)



มองกันตามหลักความจริงแล้ว เฟอร์กี้ใช้งบในการเสริมทีมไปอย่างจุ๋มจิ๋ม ทั้งๆที่เงินที่ได้รับมาจากการขายโรนัลโด้ให้กับมาดริดนั้นมากมายมหาศาล แฟนผีหลายคนถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก โดยผมยอมรับว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ก่อนตลาดซื้อขายจะปิดไม่กี่วันทางสโมสรเองก็มีข่าวกับนักเตะมีชื่อหลายคนอาทิเช่น 2 แข้งของเรอัล มาดริด อาร์เยน ร็อบเบนและเวสลี่ย์ ชไนเดอร์ และพอได้เห็นฟอร์มการเล่นของ 2 นักเตะฟลายอิ้งดัทช์แมนกับต้นสังกัดใหม่ (บาเยิร์น มิวนิคและอินเตอร์ มิลาน) ก็กลืนน้ำลายตัวเองอึกใหญ่ๆ โคตรเสียดายเลย!

เหลือบไปมองขุมกำลังทีมอื่นๆ ที่ต้องต่อสู้กันทั้งฤดูกาลแล้วก็อดท้อใจไม่ได้ ทั้งในรายการพรีเมียร์ ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ความคาดหวังของผมในฐานะแฟนบอล ก็คงจะภาวนาให้ทีมผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในรายการ UCL และใส่เต็มที่กับถ้วยพรีเมียร์ลีก โดยเชื่อว่าตัวเฟอร์กี้เองคงจะให้ความสำคัญกับเกมส์ลีกมาเป็นอันดับหนึ่ง และเขาคงวางแผนขัดเกลาเหล่านักเตะที่รอวันเป็นเพชร อย่างนานี่ , วาเลนเซีย , อันแดร์สัน , มาเคด้า รวมไปถึงนักเตะซีเนียร์อย่างเวย์น รูนี่ย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และไมเคิ่ล โอเว่นช่วยกันทำประตูแทนหน้าที่ของ CR7 ผู้จากไป

บ่นมาซะเยอะขอใช้พื้นที่เล็กน้อยสำหรับชายที่มีชื่อว่า 'ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์' เทพเฟล็ทผันตัวเองเป็นนักเตะคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้อย่างยอดเยี่ยม จากฟอร์มการเล่นของเฟล็ทเชอร์ในช่วงหลัง ต้องบอกเลยว่าดีขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา ผิดกับเมื่อหลายๆฤดูกาลก่อนที่เมื่อมีชื่อลงสนามบรรดาแฟนบอลร้องยี้ออกมาพร้อมกัน (ก็พี่แกเล่นทำลายทั้งเกมส์รุกและรับ แต่เป็นฝั่งตัวเองตลอดเวลา) พัฒนาการของดาร์เรน ทั้งเรื่องการจ่ายบอล หรือการตัดเกมส์ ขอปรบมือดังๆให้กับเฟล็ทเชอร์มา ณ ที่นี้ด้วย

 
บทความนี้อาจจะเป็นการเขียนที่บั่นทอนกำลังใจของเหล่าแฟนผีหลายต่อหลายคน แต่อยากให้มองถึงสิ่งที่ทีมขาดหายไปและลดความคาดหวังลงมาบ้าง เพราะตอนนี้ทีมกำลังปรับตัว หลังจากพายุโรนัลโด้เคลื่อนย้ายออกไป สิ่งเดียวที่พวกเราต้องช่วยกัน และแฟนผีหลายคนร่วมกันทำเป็นเวลานาน คือเชื่อมั่นต่อผู้จัดการทีม อเล็กซ์ เฟอร์กูสันผู้พาทีมผ่านพ้นปัญหาและประสบความสำเร็จมาได้ตลอดเวลา...

_________________



                  By  lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์