สิงโตขย้ำคาซัคฯ4-0จ่อตีตั๋วเวิล์ดคัพ

มาดูทีมชาติหน่อยนะครับผม

สิงโตคำราม อังกฤษ สวมบทโหดยกทัพบุกขย้ำ คาซัคสถาน สิ้นชื่อคาถิ่น 4-0 ครึ่งแรก แกเร็ธ แบร์รี่, เอมิล เฮสกี้ ซัดคนเม็ด ก่อนที่ เวย์น รูนี่ย์ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะบวกเพิ่มครึ่งหลัง นำขุนพล ทรี ไลอ้อนส์ ซิวสามแต้มเพิ่มเป็น 18 แต้มเต็ม จ่อตีตั๋วสู่ เวิล์ด คัพ 2010 ที่ แอฟริกาใต้ ศึกคัดบอลโลก โซนยุโรป กลุ่ม 6


ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 6
คาซัคสถาน 0 - อังกฤษ 4


คาซัคสถาน ทีมรองบ๊วยของกลุ่ม 6 ซึ่งไม่มีลุ้นแล้ว แถมเพิ่งบุกไปถูกอังกฤษขยี้มาในเกมก่อน 5-1 เปิดบ้านต้อนรับทีมจ่าฝูง อังกฤษ ที่กำชัยได้ห้านัดรวด แต่เกมนี้ขาดดาราตัวหลักไปเยอะต้องส่ง โรเบิร์ต กรีน เฝ้าตาข่ายเป็นตัวจริงนัดแรก

สำหรับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยังเจ็บน่องจึงเป็นโอกาสของ แม็ทธิว อัพสัน เสียบแทน แต่มี ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เคยเจ็บไหล่กลับมาลงสนามแทน เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งหล่นไปเป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับ เอมิล เฮสกี้ ที่แย่งตำแหน่งกลับไปจาก ปีเตอร์ เคราช์

อย่างไรก็ดีปัญหาหนักอกของทีมสิงโตคำรามชุดนี้อยู่ที่ความอ่อนล้า ในการเดินทางไกล โดยต้องบินมาลงเตะกับคู่ต่อกรที่มีชายแดนติดกับประเทศจีนเป็นระยะทางกว่า 3,500 ไมล์

คาซัคสถานเขี่ยบอลก่อน และแค่ 20 วินาทีแรกก็เกือบกะซวกตาข่ายได้จากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน แบ็คขวาครองบอลหลวมเลยโดน ซามบีล คูเคเยฟ ฉกเลื้อยขึ้นริมเส้นแล้วจ่ายเข้าเสาแรก แต่ เซอร์เก ออสตาเพนโก้ เข้าชาร์จหกหลาไม่ถนัด ถูก อัพสัน กับ จอห์น เทอร์รี่ ช่วยกันเคลียร์ได้ทัน

ผ่านมาถึงนาทีที่ 10 ทานาต นุสเซอร์บาเยฟก็โดนจดชื่อง่ายๆ เมื่อถอยห่างไม่เกินสิบหลาจากจุดที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เล่นลูกฟรีคิก ผู้ตัดสินจึงโชว์ความเฮี้ยบชูใบเหลืองให้ทันที

ทีมเมืองผู้ดีพยายามเน้นขึ้นเกมรุกทางขวา แต่ จอห์นสัน กับ วัลค็อตต์ ยังประสานงานกันผิดพลาดตลอด ทีมเต็งของกลุ่มจึงยังไม่มีพิษสง

ถัดมานาทีที่ 16 แกเร็ธ แบร์รี่ ก็เสียท่าถูก คูเคเยฟ แย่งบอลได้แถวกลางสนามเลยตัดสินใจคว้าเอาไว้ทำให้โดนไข้เหลืองเล่นงาน และจะติดโทษแบนเกมต่อไปนัดดวล อันดอร์ร่า วันพุธที่ 10 มิ.ย.

อีกนาทีเดียว เจ้าบ้านก็ได้ลูกฟรีคิกริมกราบขวา คูเคเยฟ จึงขันอาสาเปิดบอลโด่งไปเสาไกล โดยมี ออสตาเพนโก้ โขกสี่หลาตุงตาข่าย แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

อังกฤษมีโอกาสลุ้นเล็กๆ ในนาทีที่ 23 เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทำชิ่งคืนให้ เวย์น รูนี่ย์ตะบันจาก 25 หลา แต่บอลไม่เข้ากรอบ

นาทีที่ 27 ออสตาเพนโก้ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ อิบราเยฟ ถูกเปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรองรายแรก

ล่วงมาอีกสองนาที คาซัคสถานก็เกือบฆ่าตัวตายโดยนายทวาร อเล็กซานเดอร์ โมคิน เตะบอลเปิดเกมแย่ไปเข้าทางให้ เฮสกี้ ทำชิ่งกับ เจอร์ราร์ด ก่อนที่กองหน้าผิวสีจะได้ซัลโวระยะ 18 หลา ดีที่ว่า โมคิน แก้ตัวปัดบอลไปชนเสาได้สำเร็จ

เข้าสู่นาทีที่ 36 สิงโตคำรามมีเสียวอีกหนจากลูกเตะมุมด้านขวาของ แลมพาร์ด แต่ เทอร์รี่ โขกจาก 12 หลาไปให้ โมคิน คว้าเอาไว้พอดี

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 40 ทำนบของทีมรองบ่อนก็แตกจนได้ เมื่ออังกฤษเล่นเตะมุมสั้นด้านซ้ายโดย แลมพาร์ด จ่ายให้ เจอร์ราร์ด สาดไปเสาไกลแล้ว แบร์รี่ โหม่งจากหกหลาย้อนศรเข้าประตูเป็นสกอร์นำ 1-0 ของ ทรี ไลอ้อนส์

จากนั้นช่วงทดเวลาเจ็บ เจอร์ราร์ดก็ตั้งป้อมโยนบอลจากกลางสนามด้านซ้ายเข้าเขตโทษ บีบให้ โมคิน ที่ออกมาจากเส้นประตูไกลเกินไปต้องกระโจนปัด และเปิดทางให้ เฮสกี้ ได้เข้าชาร์จเผาขนเป็นสกอร์นำ 2-0 ของทีมเยือนในช่วง 45 นาทีแรก

กลับมาครึ่งหลัง อังกฤษถอดวัลค็อตต์ออกโดยมี ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ได้ลงไปแทน แต่เกมจืดลงเป็นลำดับต่างก็หาโอกาสพังประตูกันไม่ได้เลย

กระทั่งนาทีที่ 72 จอห์นสันก็โชว์ความแข็งแกร่งกระชากบอลขึ้นกราบขวาไปจนสุดเส้นหลังก่อนจะป้าย ไปหน้าประตู แม้เฮสกี้จะเข้าชาร์จวืด แต่รูนี่ย์กระโดดเข้าตีเข่าหกหลาที่เสาไกลถูกโมคินปัดออกมา เข้าทางหอกร่างอวบกลับตัว 360 องศาซัลโวตุงตาข่ายช่วยให้อังกฤษนำห่าง 3-0

จากนั้นอีกสามนาที ทีมเมืองผู้ดีก็ปล่อยเบ็คแฮมลงไปแทนจอห์นสัน แล้วมาได้ลูกโทษในนาที่ 77 จากจังหวะที่ แอชลี่ย์ โคล สบโอกาสเข่นในเขตโทษถูกโมคินปัดออกมา เฮสกี้จึงพยายามซ้ำแต่ถูกอับดูลินดึงล้ม ผู้ตัดสินจึงแจกใบเหลืองให้นักเตะเจ้าบ้านและชี้ไปที่จุดโทษ เป็น แลมพาร์ด สังหารเพิ่มสกอร์ให้ทีมเยือนนำ 4-0

ช่วงสิบนาทีสุดท้าย อังกฤษส่งเจอร์เมน เดโฟลงเล่นแทนเฮสกี้ กระทั่งนาทีที่ 87 ก็มีแฟนบอลรายหนึ่งวิ่งลงสนามได้ และเข้าไปอยู่ในปากประตูของทีมสิงโตคำรามทำเอาเจ้าหน้าที่หลายรายต้องตามไป ช่วยกันฉุดกระชากออกมา จบเกม อังกฤษ บุกมาขยี้ คาซัคสถาน หมอบ 4-0 เก็บได้ 18 แต้มเต็ม จ่อตีตั๋วสู่ เวิล์ด คัพ 2010 ที่ แอฟริกาใต้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

คาซัคสถาน : อเล็กซานเดอร์ โมคิน, เรนาต อับดูลิน, อเล็กซานเดอร์ คิรอฟ, อเล็กซานเดอร์ คิสลิตซิน, เซอร์เก สโคริคห์, อังเดร คาร์โปวิช, ซามบิล คูเคเยฟ, เซอร์เก ออสตาเปนโก้ (ซาบริคาน อิบราเยฟ น.27), ทานาต นุสเซอร์บาเยฟ, ยูจีน อาเวอร์เชนโก้ (วาเชสลาฟ เออร์เบส น.74), ยูริ ล็อกวิเนนโก้

สำรองไม่ได้ใช้ : อิลยา โฟมิเชฟ, ฟาร์คาเบค อิริสเมตอฟ, อาซัต เนอร์กาลิเยฟ, อังเดร ทราวิน, มูรัต มูคาเชฟ

อังกฤษ : โรเบิร์ต กรีน, เกล็น จอห์นสัน (เดวิด เบ็คแฮม น.76), จอห์น เทอร์รี่, แม็ทธิว อัพสัน, แอชลี่ย์ โคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่, ธีโอ วัลค็อตต์ (ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.46), สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เวย์น รูนี่ย์, เอมิล เฮสกี้ (เจอร์เมน เดโฟ น.81)

สำรองไม่ได้ใช้ : พอล โรบินสัน, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์, ปีเตอร์ เคร้าช์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์