เป็นทหาร ได้อะไรมากว่าที่คุณคิด

                                      

เป็นทหารได้อะไร






































  เปลี่ยนศักราชใหม่จากปี ๒๕๔๘ เป็นปี ๒๕๔๙ อีกไม่นานก็ถึงเดือนเมษายน ซึ่งเดิมที่ถือว่าเป็นเดือนแรกแห่งปีใหม่ของไทย ปัจจุบันแม้ว่าจะไม่ใช่เดือนแรกของปีใหม่ แต่ก็เป็นเดือนที่มีความสำคัญกับทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายไทย ที่มีหน้าที่ต้องรับใช้ชาติตาม พระราชบัญญัติรับราชการทหาร เพราะตั้งแต่วันที่ ๑ เม.ย. ก็จะมีการตรวจเลือก ทหารกองเกินเข้าเป็น ทหารกองประจำการ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ การเกณฑ์ทหาร ”
้               กรรมวิธีการเกณฑ์ทหารนั้น ก็มีตั้งแต่การวัดขนาดร่างกาย การตรวจโรค การตรวจหลักฐาน ฯลฯ และสุดท้ายเมื่อ ได้จำนวนคน ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว หากเกินจำนวน ที่ทางราชการต้องการ ซึ่งตามข้อเท็จจริง หรือการปฏิบัติที่ผ่าน ๆ มา ยอดของทหารกองเกิน มีคุณสมบัติครบถ้วน ก็จะมีมากกว่ายอด ที่ทางราชการต้องการ เข้ามาเป็นทหารกองประจำการ จึงจำเป็น ต้องมีวิธีการคัดเลือก ซึ่งวิธีการคัดเลือก ซึ่งวิธีการที่ใช้กันมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือ “ การจับฉลาก ” หรือที่พูดกันว่า จับใบดำ-ใบแดง นั่นเอง คนที่ได้รับใบแดง ก็ต้องเข้าไปรับใช้ชาติด้วยการ เป็นทหาร ๒ ปี ส่วนคนได้ใบดำ ก็ไม่ต้องเข้ารับราชการ ห้วงเวลาที่มีความสำคัญ และตื่นเต้นที่สุด เห็นจะเป็นห้วงเวลาจับ ใบดำ-ใบแดง นี่แหละ ในอดีตที่ผ่านมา คนกลัวการเป็นทหารกันมาก เวลาจับฉลาก ใครได้ใบดำก็ดีอกดีใจ อย่างลิงโลด กระโดดโลดเต้น จนตัวลอย ส่วนคนได้ใบแดง ก็จะห่อเหี่ยว เศร้าสร้อย บางคนถึงกับร้องห่ม ร้องไห ้หมดอาลัยในชีวิต ยังกับต้องไปตกระกำลำบาก หรือหมดอิสรภาพ อะไรทำนองนั้น
 
               แต่อันที่จริงแล้ว เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ของคนที่ไม่รู้จริง หรือคนที่อยู่นอกกองทัพ เพราะการได้เปลี่ยนชีวิต จากบุคคลพลเรือน มาเป็นทหารรับใช้ชาตินั้น นับว่าเป็นโอกาสดี เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ นับเป็นเกียรติยศ เป็นชื่อเสียง เชิดชูวงศ์ตระกูลมากกว่า และยิ่งในปัจจุบัน กองทัพได้ปรับปรุง พัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ของทหารกองประจำการ ให้มีการกินดี อยู่ดี มีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยงในอัตราสูงขึ้น มีสวัสดิการ มีการเพิ่มพูนความรู้ทักษะวิชาชีพ ว่า “ เป็นทหาร ได้อะไรมาก กว่าที่คิด ” ในกรม กองที่ทหารเข้ามาสังกัดอยู่ นอกจากมีการฝึก - การหัดทางทหารแล้ว ยังมีการสั่งสอนอบรม ใครที่มีนิสัยเกเร ไม่เคารพกฎกติกาของสังคม หรือเป็นคนที่ ไม่ค่อยมีระเบียบในชีวิตของตนเอง ก็จะปรับเปลี่ยนไป เป็นคนละคน มีผู้ปกครองหลายท่าน เคยพูดให้ฟังว่า คนเกเรที่เข้ามาเป็นทหาร เมื่อปลดออกไปก็จะดีขึ้น ส่วนคนที่เป็นคนดีอยู่แล้ว ก็จะดีขึ้นอีก ผู้ที่ผ่านการเป็นทหาร จะมีลักษณะ “ ผู้นำ ” มากกว่าผู้ที่ไม่เคยผ่าน การเป็นทหาร จะมีความเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ ซึ่งจะได้รับการยอมรับ และยกย่องมากกว่า ดังนั้นคำพูดที่ว่า
               “ การเป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คิด ” นั้นจริงแท้แน่นอน
 
ื               ผมมีหลายชายคนหนึ่งชื่อ “ แก้ว ” ซึ่งเป็นลูกโทนของพ่อแม่ ที่มีฐานนะดีครอบครัวหนึ่ง แก้วเกิดมาอยู่ท่ามกลาง ความอบอุ่น มีคนพะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจ เพราะมีทั้งพ่อ-แม่-ป้า และอาที่คอยดูแลเอาใจใส ่ให้ความรัก ความเอ็นดู แก้วเป็นผู้คนเดียวในบ้าน ( หากไม่นับพ่อของเขา ) ชีวิตที่บ้านของแก้ว แสนจะสุขสบาย กิน เที่ยว เล่น ( ฟุตบอล กีฬาโปรดของเขา ) สูบบุหรี่ , ขับรถพาสาวเที่ยว , เรียนรามคำแหง มาหลายปี ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ บางครั้งไปสร้างปัญหา ให้กับพ่อแม ่ต้องเสียเงินเสียทอง ทำความหนักใจให้กับพ่อ-แม่ ตลอดเวลา แต่ทุกคนก็ยังให้อภัย ให้ความรัก และตามอกตามใจ ด้วยเห็นว่าเป็นลูกชาย หลานชายคนเดียว ของตระกูล พ่อ-แม่เองก็หนักใจ ไม่รู้ว่าลูกจะมีอนาคตเป็นอย่างไร โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ต้องไปแอบร้องไห้อยู่เสมอ เมื่อเปรียบเทียบลูกของตนเอง กับลูกของเพื่อนๆที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน       
 
               แก้วต้องถูกเกณฑ์ทหาร เพราะไม่เรียน รด. พ่อ-แม่ไปเยี่ยมที่กองร้อย ขณะที่แก้วฝึก แม่เห็นลูกชายหน้าดำ ผมเกรียน กลับมาบ้านก็ร้องไห้ สงสารลูก เพราะไม่เคยเห็นลูกชาย ลำบาก และต้องถูกสั่ง ถูกบังคับ
 
                ปัจจุบัน แก้วเป็นทหารเกือบ ๒ ปีแล้ว เป็นหัวหน้าทีมฟุตบอลของหน่วย แก้วเป็นผู้นำของเพื่อนๆ เพราะมีความรู้ดีกว่า เป็นผู้มีวินัย ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยเคร่งครัด เสาร์อาทิตย์ที่ได้ลากลับบ้าน แก้วเปลี่ยนเป็นคนละคน ต่างกับแก้วคนเดิม เลิกสูบบุหรี่ ช่วยทำงานบ้าน ทำสวน ปลูก-รดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือ และขออนุญาตหน่วยไปสอบ เมื่อถึงฤดูสอบ แบ่งเงินเดือนให้แม่ เดือนละ ๕๐๐ บาท ทุกเดือน แม่รับเงินแล้วก็แอบ ร้องไห้ด้วยความดีใจ ตื้นตันใจ ที่เห็นลูกชายเปลี่ยนไป เป็นคนละคน
 
               อีกไม่กี่เดือน แก้วก็จะเป็นทหารกองหนุน และหลังจากนั้นไม่นาน แก้วก็ได้เป็นบัณฑิต มีอาชีพการงานที่มั่นคง
 
               ผมว่าแม่มันต้องร้องไห้อีก แต่น้ำตาที่ร้องไห้ครั้งนี้ จะเป็นน้ำตา แห่งความปลื้มปีติ ความภาคภูมิใจในตัวลูก รวมทั้งความสมหวัง
 
               และเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า “ เป็นทหารได้อะไร ”






006p1.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 38K)





0jb61.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 42K)





1fl82.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 45K)





248116.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 39K)





2auu3.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 54K)





5bk23.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 52K)





6ce4adc4cb.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 24K)





7fgv8.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 55K)





85ffa15e52.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 59K)





85ob1.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 55K)





9b6bfb8c72.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 62K)





an8m6.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 182K)





as2l2.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 44K)





b2fbc3b6a2.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 51K)





ece31e1556.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 31K)





eevh2.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 160K)





ekox1.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 95K)





g1dl5.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 30K)





goj72.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 54K)





h2v54.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 58K)





hbha7.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 79K)





hddd5.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 45K)





ktaw7.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 37K)





l85w1.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 64K)





lvxh3.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 32K)





p3uc4.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 31K)





pf8c5.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 63K)





pzu52.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 37K)





regv2.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 36K)





rm058.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 37K)





s9q23.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 54K)





sif22.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 45K)





sphb1.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 99K)





tby17.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 47K)





tssq1.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 35K)





u8gd1.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 26K)





w5cg3.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 45K)





xqq24.jpg
ดูรูปใหญ่ (ขนาด 49K)





y1zw8.jpg
ดู

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์