 |
แต่การโชว์ผลงานเซฟในการดวลจุดโทษให้แมนฯ ยู ชนะ สเปอร์ 4-1 คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ ไปครอง ทำให้เครดิตของ "เบน ฟอสเตอร์" เพิ่มขึ้นมาอีกระดับ
และอนาคตตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติอังกฤษก็อยู่อีกไม่ไกลนัก
ฟอสเตอร์ นายทวารวัย 25
ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษเพียงนัดเดียว เมื่อเดือนก.พ.2007 ในช่วงที่ถูกวัตฟอร์ดยืมตัวไปเล่น แต่ช่วง 18 เดือนที่ยุ่งอยู่กับการรักษาอาการบาดเจ็บ ทำให้เส้นทางสู่ทีมชาติอังกฤษของฟอสเตอร์ กลายเป็นเส้นขนานไป
"หลังจากที่ผมช่วยให้แมนฯ ยู คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฟาบิโอ คาเปลโล่ เข้ามาจับมือแสดงความยินดีกับผม และบอกว่า ผมเล่นได้ดี มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสพูดกับผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ"
แน่นอนว่า ฟอสเตอร์ ฝันถึงการติดทีม "สิงโตคำราม" ไปสู้ศึกฟุตบอลโลก 2008 ที่แอฟริกาใต้ แต่ถ้าพูดถึงในตอนนี้ก็อาจจะเร็วเกินไปหน่อย
"เดวิด เจมส์ เป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมในขณะนี้ แต่มีผู้รักษาประตูฝีมือดีหลายคนที่รอโอกาสพวกเขาอยู่ทั้ง โรเบิร์ต กรีน, สกอตต์ คาร์สัน, คริส เคิร์กแลนด์, พอล โรบินสัน และ โจ ฮาร์ต"
แล้วตัวของเขาเองละ
"ผมยังไม่อยากมองไกลถึงขนาดนั้น ตอนนี้ผมยังไม่มีโอกาสในทีมชาติอังกฤษนับตั้งแต่คาเปลโล่ เข้ามาคุมทีมเลย นั่นเป็นเพราะว่าอาการบาดเจ็บ และผมก็เข้าใจการเลือกผู้เล่นของคาเปลโล่ ด้วย ผมยังต้องทำงานอย่างหนักต่อไปอีก"
ฟอสเตอร์จะหมดสัญญากับ "ผีแดง" ในฤดูร้อนนี้ แค่คาดว่าการที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ มาครอง น่าจะทำให้นายทวารวัย 25 ปีได้รับการต่อสัญญาใหม่ออกไปอีก 4 ปี พร้อมรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 25,000 ปอนด์
"ผมไม่เคยคิดจะย้ายออกจากแมนฯ ยู เลย ผมยังไม่ได้พูดกับผู้จัดการทีมเรื่องอนาคตของผม และผมกระหายที่จะนำความสำเร็จมาสู่แมนฯ ยู ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
พูดง่ายๆ เป้าหมายของฟอสเตอร์ ก็คือ เป็นมือ 1 ของแมนฯ ยู ให้ได้
เอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ คงต้องระวังตัวหน่อยแล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
