ไม่มีพลิกแต่อย่างใดสำหรับศึกเอฟเอ คัพรอบ 3 เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยกพลมาถล่มเซาแธมป์ตันถึงเซนต์ แมร์รี่กระจาย 3-0 โดยมีชื่อสองดาวรุ่งอย่างเวลเบ็คและกิ๊บสันทำประตูในเกมนี้ก่อนไปลุยกับสเปอร์สในรอบ 4 ต่อไป
เซาแธมป์ตัน 0-3 แมนฯยูฯ
ประตู : 0-1 เวลเบ็ค น.19,0-2 นานี่ น.48 (จุดโทษ),0-3 กิ๊บสัน น.81
ผู้ชม : 32,000 คน
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันคงสยองกับเพื่อนร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ตกรอบพ่ายทีมรองบ่อนเมื่อวันเสาร์เลยจัดทัพชุดใหญ่เกือบเต็มสูบเพราะพักเวย์น รูนีย์ไว้ที่ม้านั่งสำรองส่วนคริสติอาโน่ โรนัลโด้พักอยู่บ้านในขณะที่คาร์ลอส เตเบซกลับอาร์เจนติน่า
เริ่มเกมโอลิเวอร์ แลนคาเชียร์กองหลังวัย 24 ปีลงตามประกบดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟหอกค่าตัว 30 ล้านปอนด์และที่น่าสนใจคือนี่เป็นเกมซีเนียร์นัดที่ 11 และสองในนั้นถูกไล่ออกด้วย!!
แค่ 7 นาทีเจ้าถิ่นได้เสียวก่อนเมื่อเซอร์แมนจ่ายลอลสุดสวยทะลุให้จิลเล็ตต์แข้งใบมีดโกนเข้าโขกแต่บอลไม่แรงทำให้เข้ามือฟาน เดอร์ ซาร์ง่ายๆ
อีก 5 นาทีต่อมาอันแดร์สันและเบอร์บาตอฟเริ่มสร้างสรรค์เกมได้อันตรายมากขึ้นเรื่อยๆจนแนวรับนักบุญเริ่มสวดมนต์กันแล้ว
นาที 15 เจ้าถิ่นใช้บอลวัดสร้างความอันตรายโดยเซอร์แมนคนเดิมครอสบอลเข้าเขตโทษและแม้ไม่มีเพื่อนร่วมทีมอยู่เลยแต่เจ้าหนูอีแวนส์ที่ได้ลงแทนริโอ เฟอร์ดินานด์ที่ยังเจ็บอยู่เคลียร์บอลเกือบเข้าประตูตัวเอง
อย่างไรก็ตามอีก 4 นาทีต่อจากนั้นเป็นปิศาจแดงที่พลิกขึ้นนำก่อนจากจังหวะเตะมุมเป็นโอเชที่ได้ซัดให้เดวิสกระโดดปัดแต่บอลมาเข้าทางเจ้าหนูเวลเบ็คที่เขย่งโขกแบบกดหัวระยะเผาขนซ้ำไม่เหลือโดยข้างๆมีวิดิชทำหน้าตกใจยืนอยู่ข้างๆ ยูไนเต็ดนำแล้ว 1-0
พอได้ลูกนี้เซาแธมป์ตันก็พากันทำเกมรุกหมายจะตีเสมอตามเสียงเชียร์แต่นั่นเท่ากับเปิดทางให้ยูไนเต็เบิกลูกสองได้ง่ายขึ้นด้วย
ก่อนเข็มนาฬิกากระดิกครบครึ่งชั่วโมง 3 นาทีคริส เพอร์รี่อดีตกองหลังวิมเบิลดันและสเปอร์สพุ่งบล็อกลูกยิงของเบอร์บาตอฟสุดยอดและไม่น่าเชื่อว่าถึงตอนนี้เกมรุกที่ไหลลื่นของทีมเยือนจะยังยิงลูกสองไม่ได้
แต่เจ้าถิ่นเจองานหนักเข้าไปอีกเมื่อแมทธิว แพทเทอร์สันหอกดาวรุ่งวัย 19 ปีเสียบโหดใส่วิดิชทำให้ไมค์ ไรลี่ย์ชูใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ตามหลัง 1-0 และเหลือ 10 ตัวกับทีมอย่างแมนฯยูฯ นรกชัดๆ
เจ้าถิ่นเล่นบอลแบบขาดสติซะแล้วเพราะอีกไม่นานสคาเซลมาสอยใส่นานี่ปีกพ่อเลี้ยงจนถูกใบเหลืงไปอีกคนก่อนที่นาทีสุดท้ายเดวิสนายทวารจอมหนึบเซฟลูกยิงของเวลเบ็คจากการผ่านของนานี่สุดสวย หมดครึ่งแรกยูไนเต็ดบุกมานำอยู่ 1-0
อย่างไรก็ตามครึ่งหลังเล่นมาแค่ 3 นาทีปิศาจแดงมาได้จุดโทษจากจังหวะฟรีคิกของนานี่ไปถูกแขนแม็คโกลดิริคและเป็นแข้งพ่อเลี้ยงฝอยทองรับอาสาหลอกยิงเดวิสพุ่งไปอีกทาง ยูไนเต็ดนำ 2-0 สบายๆ
วันนี้นานี่เล่นดีมากเพราะอีกแค่นาทีเดียวเจ้าตัวพลิกบอลสุดเทพก่อนซัดเต็มข้อตั้กม้อแต่เดวิสที่วันนี้ก็เล่นดีพุ่งเซฟสุดงาม
แต่เซาแธมป์ตันมีโอกาสดีที่สุดของเกมในนาที 54 เมื่อไรอัน สมิธวิ่งเบียดจนโอเชเซเป็นคนเมาแล้วแตะหนีอีแวนส์ก่อนตัดสินใจยิงไม่สมหน้าอินทร์หน้าพรมแต่บอลหลุดออกกรอบแบบไม่ต้องลุ้น
การลงสนามของเวย์น รูนีย์ในช่วงเกือบๆ 30 นาทีสุดท้ายทำให้เกมรุกของยูไนเต็ดวูบวาบยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพราะทั้งเก็บบอลและแทงทะลุรวมทั้งวิ่งทำทางให้เบอร์บาตอฟจ่ายสุดงามแต่เดวิสออกมาคว้าบอลจากขาได้อย่างสุดว่อง
ผู้บรรยายอังกฤษบอกถ้าเวลาที่เหลืออยู่นี้เจ้าถิ่นไม่โดนยิงเม็ดสามต้องบอกว่าเป็นปาฏิหาริย์แน่นอนเพราะเกมเปิดน่าโดนสุดๆ
และแล้วหลังนวดอยู่พักใหญ่นาที 81 ปิศาจแดงก็เอาลูกสามจนได้เมื่อรูนีย์โฉบพาบอลเข้าเขตโทษก่อนเงยหน้ามองแล้วครอสให้กิ๊บสันเจ้าหนูดาวรุ่งจับบอลหนึ่งจังหวะแล้ววอลเลย์เต็มตีนเตี่ยทะลุเดวิสเข้าไปสุดมัน 3-0 พูลสวัสดิ์
ช่วงเวลาที่เหลือยูไนเต็ดปิดเกมรันเวลาต่อบอลขำๆก่อนเอาชนะไปขาดลอย 3-0 เข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพไปดวลกับสเปอร์สคู่ตุหงันในฤดูกาลนี้ต่อไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
เซาแธมป์ตัน : เดวิส,เจมส์,เพอร์รี่,แลนคาเชียร์,สคาเซล(แม็คแลกกอน น.57),สมิธ(ลีโฮล์ม น.69),แม็คโกลดริค,จิลเล็ตต์(ชไนเดอร์ลิน น.57),เซอร์มัน,โกเบิร์น,แพทเตอร์สัน
แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,แกรี่ เนวิลล์,คริส อีแวนส์,เนมันย่า วิดิช,จอห์น โอเช,นานี่,อันแดร์สัน,ไมเคิ่ล คาร์ริค,ไรอัน กิกส์(กิ๊บสัน น.55),เวลเบ็ค(รูนีย์ น.64),เบอร์บาตอฟ
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee