ฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 3 วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2552 เซาธ์แธมตัน เปิดรังพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด...จากการทำประตูของ แดนนี่ เวลเบ็ค,หลุยส์ นานี่ และ ดาร์รอน กิ๊บสัน |
 สนาม : เซนต์ แมรี่ สเตเดี้ยม ผู้ตัดสิน : ไมค์ ไรย์ลีย์ ฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 3 วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2552 เซาธ์แธมตัน เปิดรัง เซนต์ แมรี่ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้านนำทัพโดย แม็คโกลดริค - แมทธิว พาเตอร์สัน ขณะที่ทีมเยือน ขาด 2 กองหลังตัวหลัก ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ ปาทริช เอวร่า แดนกลางไม่มีชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไรอัน กิ๊กส์ ลงทำเกมแทน ร่วมกับ หลุยส์ นานี่, แอนเดอร์สัน และ ไมเคิ่ล คาร์ริค กองหน้าคู่เป็นเจ้าหนู เวลเบ็ค จับคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เริ่มเกมครึ่งแรก นาทีที่ 6 เบอร์บาตอฟ ไหลบอลให้ กิ๊กส์ แลบขึ้นไปรับบอลลากไปจนเกือบถึงเส้นหลัง จะเปิดมาให้ เวลเบ็ค ทว่าบอลหลุดออกหลังไปก่อน นาทีที่ 11 บอลแทงจากทางซ้ายของสนามมาที่เสาไกล เบอร์บาตอฟ รับบอลก่อนเปิดย้อนเข้าไปจะให้ เวลเบ็ค จังหวะสุดท้ายเป็น เดวิส ที่อ่านเกมขาด ออกมาตัดไว้ได้ เกมโดยรวมยังคงเป็นของ แมนยู นาทีที่ 16 นานี่ ลากจี้เข้ากรอบเขตโทษก่อนทำชิ่งกับ เบอร์บาตอฟ อย่างสวยงามเข้าไปยิง!! บอลเข้าซอง เดวิส นาทีที่ 19 แอนเดอร์สัน เก็บตกได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนอัดเต็มข้อ เดวิส ยังไวปัดออกหลังไปได้ แมนยู ขึ้นนำ 1:0 ในนาทีที่ 20 จากจังหวะลูกเตะมุมทางซ้ายของสนาม นานี่ เปิดมาหน้าประตู โอเชีย ขึ้นโขกเน้นๆ เดวิส ปัดมาเข้าหัวของ เวลเบ็ค โหม่งซ้ำดาบสองส่งบอลกองก้นตาข่าย แมนยู เกือบออกนำเป็น 2:0 นาทีที่ 27 บอลแทงจากกลางสนาม คาร์ริค ข้ามบอลหลอกปล่อยให้ เบอร์บาตอฟ เล่นก่อนที่ เบอร์บาตอฟ แทงทะลุกองหลังเจ้าบ้านให้ คาร์ริค ยิง! พร้อมกันกับจังหวะที่เพอร์รี่ กองหลังเจ้าบ้านล้มตัวสกัดบอลเด้งโดนหน้า คาร์ริค ออกหลัง สถานการณ์ของเจ้าบ้านแย่หนัก! นาทีที่ 35 แมทธิว พาเตอร์สัน หงายปุ่มย่ำที่หน้าแข้งของ วิดิช อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสิน ไมค์ ไรย์ลีย์ ไม่รอช้าแจกใบแดงไล่ พาเตอร์สัน ออกจากสนาม เซาธ์แธมตัน เหลือผู้เล่น 10 คน เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ยังคงเป็นทีมเยือนซึ่งได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น ครองบอลไว้ได้มากกว่ามาได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง เนวิลล์ ขึ้นเกมมาทางริมเส้นฝั่งขวาบอลทะลุมาถึง นานี่ จ่ายไปในกรอบเขตโทษ เวลเบ็ค โฉบเข้ามายิงที่เสาแรกบอลติดขา เดนิส เด้งชนเสาออกหลังจบครึ่งแรก เป็นแมนยู ที่บุกมานำ เซาธ์แธมตัน อยู่ 1:0 เริ่มเกมครึ่งหลัง นาทีที่ 46 เป็นแมนยูที่ได้ทักทายก่อน นานี่ ลากบอลทะลุจากกลางสนามมาหน้าปากชกประตูของ เซาธ์แธมตัน ก่อนสับไกยิงทว่าโดนไม่ดี บอลถากเสาออกหลัง นาทีที่ 47 แมนยู นำห่างเป็น 2:0 จากจังหวะที่ เวลเบ็ค โดนรวบล้มลงตรงมุมเขตโทษทางซ้าย ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกฟรีคิก นานี่ รับหน้าที่สังหาร เป็นจังหวะเดียวกับที่บอลไปโดนแขน แม็คโกลดริค ซึ่งยืนตั้งกำแพง ไมค์ ไรย์ลี่ย์ มองว่า แม็คโกลดริค จงใจทำแฮนด์บอล ให้เป็นลูกจุดโทษกับแมนยู และก็เป็น นานี่ ที่สังหารเข้าไป เซาธ์แธมตัน น่าจะได้ประตูไข่แตก นาทีที่ 53 สมิธ ลากหลบกองหลัง แมนยู 2 คนเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษโล่งๆ บอลโดนไม่ดีออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 56 ทั้ง 2 ทีมเปลี่ยนตัวผู้เล่นฝั่งละ 2 คน เซาธ์แธมตัน ส่ง มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน ลงมาแทน ไซม่อน จิลเล็ตต์ อีกคนเป็น เคนนี่ แม็กเลกกอน ที่ลงมาเล่นแทน ออสการ์ โกเบิร์นขณะที่ทีมเยือน แมนยู ถอดเอา ไรอัน กิ๊กส์ ออก ส่ง โรดริโก้ พอชเซบอน ลงมาแทนและอีกคน ดาร์รอน กิ๊บสัน ลงมาแทน ไมเคิ่ล คาร์ริค แมนยู ตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนที่ 3ในนาทีที่ 62 เวย์น รูนี่ย์ ถูกส่งลงมาเล่นแทน แดนนี่ เวลเบ็ค คนทำประตูแรก นาทีที่ 65 พอชเซบอน แทงบอลมาให้ เบอร์บาตอฟ ป้ายต่อให้ เวย์น รูนี่ย์ หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ บอลหลุดออกเสาไกล แมนยูพลาดได้ประตูที่ 3 อย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 69 เซาธ์แธมตัน ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย โดยการส่ง ลี โฮลเมส ลงมาแทน ไรอัน สมิธ นาทีที่ 72 เจมส์ รวบ เบอร์บาตอฟ ล้มลงหน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองพร้อมกับให้ แมนยู ได้เป็นลูกฟรีคิก นานี่ รับหน้าที่สังหารปั่นบอลเหินข้ามคาน นาทีที่ 81 แมนยู ทิ้งห่างเป็น 3:0 เบอร์บาตอฟ จ่ายให้ รูนี่ย์ ควบพาบอลไปถึงเส้นหลัง ก่อนตักมากลางประตู ดาร์รอน กิ๊บสัน ซึ่งยืนอยู่โล่งๆจับบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนกดเต็มข้อบอลพุ่งเข้าประตูอย่างสวยงาม เข้าสู่ช่วงท้าย เกมยังคงเป็นของ แมนยู ทว่าไม่มีการทำประตูเพิ่ม ครบ 90 นาทีรวมทดเจ็บ ผู้ตัดสิน เป่านกหวีดหมดเวลา แมนยู บุกมาชนะ เซาธ์แธมตัน 3:0 ผ่านเข้ารอบต่อไป รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เซาธ์แธมตัน 4-4-2: เดวิส, แลนคาเซียร์, เพอร์รี่, ไซม่อน จิลเล็ตต์ (มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน น.56 ), ไรอัน สมิธ (ลี โฮลเมส น.69), เซอร์แมน, รูดิ สคาเซิล, ออสการ์ โกเบิร์น (เคนนี่ แม็กเลกกอน น.56), เจมส์, แม็คโกลดริค, แมทธิว พาเตอร์สัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-4-2: เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์, แกรี่ เนวิลล์, จอห์น โอเชีย, จอห์นนี่ อีแวนส์, เนมานย่า วิดิซ, แอนเดอร์สัน, หลุยส์ นานี่, ไมเคิ่ล คาร์ริค (ดาร์รอน กิ๊บสัน น.56), ไรอัน กิ๊กส์ (โรดริโก้ พอชเซบอน น.56), แดนนี่ เวลเบ็ค (เวย์น รูนี่ย์ น.62), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ     |
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
