ลิ้นห้อย!ผีบุกเชือดหม้อ10ตัวหืดจับ

ลิ้นห้อย!ผีบุกเชือดหม้อ10ตัวหืดจับ

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเกือบเอาชื่อมาทิ้งที่บริทานเนียหลังเจอลูกหนักจากสโต๊คเจ้าถิ่นจนตัวน่วมจนรูปเกมไม่ได้เหนือกว่าแต่สุดท้ายมาได้ประตูชัยจากคาร์ลอส เตเบซก่อนหมดเวลา 7 นาทีแซงแอสตัน วิลล่ามาอยู่อันดับ 3 แล้ว

สโต๊ค 0-1 แมนฯยูฯ

ประตู :
0-1 เตเบซ น.83

สภาพอากาศ : แดดแรงมาก

เริ่มาแค่ 50 วินาทีแรกสโต๊คจุดพลุเข้าเขตโทษเป็นฟูลเลอร์หวดบอลระยะเผาข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

เจ้าถิ่นมาอีกระลอกจากลูกเปิดบอลดีแลปแต่อีแวนส์โขกตัดหน้าทิ้งไปก่อนแถมอีกไม่กี่นาทีฟูลเลอร์ตัวแสบวิ่งมาเอาบอลในเขตโทษชนกับฟาน เดอร์ ซาร์บอลออกหลังไปอีก

หลังฮึกเหิมอยู่นานเจ้าถิ่นก็เริ่มนานมาทีและนาที 25 โรนัลโด้ได้บอลก่อนแปะออกปีกขวาให้เนวิลล์วิ่งมาเปิดยัดเข้าเขตโทษเป็นรูนีย์สะบัดหัวโขกตรงระยะ 6 หลาแต่ไปเข้ามือโซเรนเซ่นที่ปิดมุมดีแบบได้เสียว 

เล่นไปเล่นมายูไนเต็ดชักเหงื่อแตกเพราะสโต๊คชวนทะเลาะจนไปไม่เป็นโดยในจังหวะเกมรับก็ลงไปรับลึกเล่นเอาแข้งทีมเยือนหาช่องเจาะลำบากส่วนเกมรุกก็ใส่ฟูลเลอร์คอยค้ำพักบอลกระชากลาถูไปเอง

ก่อนหมดครึ่งปแรก 10 นาทีรูนีย์รับบอลในกรอบก่อนยิงมุมแคบตรงฝั่งขวาบอลถากหน้าประตูไม่มีใครชาร์จ

นาที 38 รูนีย์เก็บตกลูกโขกเคีลยร์ของฮิกกินบอทแธมก่อนตะบันยิงบอลแฉลบข้ามคานออกไปสุดเสียว

ครึ่งหลังเริ่มมา 5 นาทียูไนเต็ดขึงเกมหนักทันทีและลูกเปิดจากกรอบฝั่งขวาเลียดบอลกระเด้งกระดอนแข้งเจ้าถิ่น 2-3 ทีมาเข้าทางเตเบซที่ตกใจไม่รู้มาไงเลยดีดยิงเร็วบอลออกข้างหน้าต่างไปแบบขำๆ

วันนี้นักเตะทีมเยือนเอาฟูลเลอร์ไม่อยู่จริงๆเพราะเวลาใครจะมาแย่งแกจะเอาตัวชนก่อนเห็นๆเรียกว่าแกรี่ เนวิลล์,สโคลส์ยกมือฟ้องกรรมการว่าไม่ฟาว์ลเหรอเพราะก่อนหน้านี้โอเชียเจออัดก่อนเล่นบอลจนนอนนับสิบมาแล้ว

นาที 57 สโคลส์โมโหได้ยิงไกลจากลูกขยันสไลด์แย่งของเตเบซตรงระยะ 25 หลาแต่โซเรนเซ่นพุ่งปัดปลายมือก่อนลุกมาตามเก็บอีกที

จากนั้นวินาทีต่อมาสโต๊คได้ลุ้นบ้างเป็นฟูลเลอร์ชนวิดิชกระเด็นก่อนยิงไกลด้วยอีซ้ายร้อนถึงฟาน เดอร์ ซาร์ต้องพุ่งปัดอีกจากนั้นลูกเตะมุมแดนนี่ พิวจ์อดีตเด็กผีโขกสะบัดบอลหล่นบนคานพอดี

นาที 63 ยูไนเต็ดเจอทีเด็ดลูกทุ่มของดีแลปจนโอเชียต้องโขกทิ้งเสียเตะมุมไม่งั้นมีโอกาสโดนแน่

แท็คติกส์ของโทนี่ พูลิสกุนซือช่างปั้นหมอเข้ากับสถานการณ์เหลือเกินเพราะรู้ว่าปิศาจแดงร่างกายล้าเลยสั่งให้ลูกทีมเล่นหนักทั้งรุกและรับบวกกับเสียงเชียร์ทำเอาตอนนี้รูปเกมสูสีแยกไม่ออกเลย

นาที 68 พิวจ์ที่รับอาสาเตะมุมฝั่งขวาโยนมาเข้าหัวฟายโขกเต็มๆแต่เข้ามือ ฟาน เดอร์ ซาร์ที่ยกมือเซฟหนึบบนเส้นพอดี

โรนัลโด้กับรูนีย์หัวเสียกันหมดเพราะเจอลูกตุกติกของนักเตะสโตคจนตอนนี้ควบอารมณ์กันไม่ค่อยจะอยู่แล้ว

แต่แล้วการเข้าหนักเกินไปของนักเตะเจ้าถิ่นก็มาส่งผลเสียหายเมื่อนาที 72 วิลกินสันไม่รู้คิดยังไงไปรวบหวดขาโรนัลโด้จากด้านหลังทั้งสองเท้าจนร่วงทั้งยืนผู้ตัดสินคริส ฟอยชูใบเหลืองที่สองไล่ออกทันที

อีก 5 นาทีโรนัลโด้ดวลตัวต่อตัวกับแบ็คขวาก่อนแตะหนีนิดนึงแล้วเปิดด้วยอีซ้ายตรงเส้นหลังบอลเข้าหัวเบอร์บาตอฟที่โขกตรงระยะ 7 หลาแต่บอลข้ามคานออกไปเอง

แต่แล้วเกมที่น่าจะจบลงด้วยผลเสมอแต่นาที 83 ยูไนเต็ดมาได้ประตูชัยอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อสโคลส์จ่ายยัดให้เบอร์บาตอฟที่หันหลังเจอตัวประกบติดแจแต่โชว์คลาสปาดบอลต่อออกขวาให้แกรี่ เนวิลล์ปาดบอลเลียดเข้ากรอบโทษและเป็นเบอร์บาที่วิ่งมางัดบอลข้ามตัวกองหลังและตวัดเข้ากลางให้เตเบซวิ่งมาชาร์จจ่อๆเผาขนเข้าไปไม่มีเหลือ

ก่อนหมดเวลา 2 นาทีโรนัลโด้วิ่งมาซัดฟรีคิกบอลแฉลบเบียดเสาออกไปสุดเสียว



รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สโต๊ค :
โธมัส โซเรนเซ่น,แอนดี้ วิลกินสัน ,แดนนี่ ฮิกกินบอทแธม,รอรี่ ดีแลป(เดวีส์ น.74),เกล็น วีแกลน ,แอนดี้ ฟาย,แดนนี่ พิวจ์,ริชาร์ด เครสส์เวลล์ ,ริคาร์โด้ ฟุลเลอร์

แมนฯยูฯ: เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,แกรี่ เนวิลล์ ,โจนาธาน อีแวนส์ ,เนมันย่า วิดิช,จอห์น โอเชีย(เบอร์บาตอฟ น.64),คริสติอาโน่ โรนัลโด้,พอล สโคลส์(คาร์ริค น.90+2),ดาร์เรน เฟลทเชอร์,ไรอัน กิกส์,เวย์น รูนีย์,คาร์ลอส เตเบซ























 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย  lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์