เจ๊า0-0!ผีควงเรือดำน้ำ10ตัวเข้ารอบ

เจ๊า0-0!ผีควงเรือดำน้ำ10ตัวเข้ารอบ

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสมอ 0-0 สองนัดติดหลังบุกไปสู้กับบีญาร์เรอัลแบบใครดีใครได้แต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้และเจ้าถิ่นยังต้องมาเหลือ 10 ตัวหลังคัปเดบีล่าเสียบโรนัลโด้แต่ก็ยังควงแขนควงเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายตามคาด

แมนฯยูฯ 0-0 บีญาร์เรอัล

สนาม :
เอล มาดริกัล

ประตู : -

นัดนี้ทางด้านบีญาร์เรอัล ในฐานะเจ้าถิ่นอยู่ในฐานะจ่าฝูงร่วมกับทางด้านแชมป์เก่าแมนฯ ยูไนเต็ด โดยเป็นรองแค่เพียงประตูได้เสียเท่านั้น ซึ่งเกมนี้ทางมานูเอล เปเญกรินี่ กุนซือมือฉมังมีปัญหาในแดนหน้าขาดโฆเซบา ญอร์เรนเต้ ดาวซัลโว ประจำทีมทำให้เป็นโอกาสของจูเซ็ปเป้ รอสซี่ อดีตเด็กผีที่จะได้ลงเจอทีมเก่าในฐานะหอกเดี่ยว 

ด้านแมนฯ ยูไนเต็ด มีการปรับตำแหน่ง 5 จุดด้วยกัน โดยมีคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ปีกเทพที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนก่อนนี้ฟิตลงสนามได้จริงๆ รวมถึงอันแดร์สัน, นานี่, จอนนี่ อีแวนส์ และโทมัสซ์ คุสแซ็ค ในตำแหน่งผู้รักษาประตู

ออกสตาร์ทมาทางด้านแมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะเริ่มต้นได้ดุดันกว่าโดยเฉพาะแนวรุกที่มีโรนัลโด้ กับรูนี่ย์ คอยสร้างปัญหา ซึ่งก็เกือบทำให้ทีมได้ประตูนำในนาทีที่ 6 จากจังหวะที่อันแดร์สัน เปิดเข้ามาให้รูนี่ย์โดนโลเปซ ชกออกมาไม่ดีลูกมาเข้าทางโรนัลโด้ ได้ง้างเท้ายิงแต่บอลไปเข้าหน้าต่างก่อน

หลังจากนั้นทางเจ้าถิ่นก็ค่อยๆรวบรวมเกมกลับมาซึ่งก็ทำให้เกมค่อนข้างที่จะเป็นการต่อสู้ที่สูสีกันในการช่วงชิงจังหวะแบบบอลเชิงสูง และหาโอกาสที่จะลุ้นทำประตูกันได้น้อยเต็มที

แฟนบอลที่กำลังง่วงมาตื่นเอาหลังพ้น 30 นาทีแรกไป โดยมีจังหวะฟรีคิกเข้ากรอบของโรนัลโด้และลูกยิงไกลของเฟล็ตเชอร์ ขณะที่เจ้าบ้านมีลุ้นกับลูกยิงไกลของมาร์กอส เซนน่า ฟรีคิกของอาเรียล อิบากาซ่า

แต่โอกาสที่หวาดเสียวที่สุดมาจากการยิงของโรนัลโด้ ในช่วงก่อนหมดครึ่งแรก 4 นาที ที่อัดเต็มๆแต่ถูกโลเปซ พุ่งสุดเหยียดปัดได้แต่บอลก็ยังไปชนคานออกมาอย่างน่าหวาดเสียว

ปีกโปรตุเกส ที่เล่นได้เด่นทีเดียวในเกมนี้ยังมีโอกาสซัดฟรีคิกตามสไตล์จากระยะกว่า 30 หลา บอลข้ามกำแพงก่อนตกพื้นแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของโลเปซ ที่อ่านจังหวะออกและพุ่งปัดออกไปได้ ก่อนที่เกมจะจบในครึ่งแรกด้วยการเสมอกันอยู่ 0-0

ลุยกันต่อในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ใกล้เคียงจะได้ประตู เมื่อโรนัลโด้ ได้โอกาสสับไกหน้ากรอบเขตโทษไปติดเซฟของโลเปซ ก่อนที่รูนี่ย์ จะปรี่เข้าเอาบอลที่ทะลักออกมาและโดนแหย่ขาก่อนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้จุดโทษแต่อย่างใด

ทีมเยือนยังมีโอกาสของอันแดร์สัน ที่โดนโลเปซเซฟและอีก 2 ครั้งจากรูนี่ย์ ที่ไม่ว่าจะชิพ หรือวิ่งเข้ามาอัดเต็มข้อด้วยซ้ายในเขตโทษก็ไม่มีผ่านประตูเจ้าถิ่นที่เหนียวแน่นหนึบดีจริงๆในนัดนี้

ยิ่งเล่นเกมของยูไนเต็ด ก็ยิ่งเหนือกว่าทีละเล็กทีละน้อยและหวิดได้ประตูที่รอคอยจากจังหวะที่รูนี่ย์ พยายามเปิดเข้ามากลางลูกไปแฉลบทำท่าจะย้อยตกใต้คานอยู่แล้วแต่ยังติดคัปเดบิล่า ที่มาโขกสกัดออกจากเส้นได้แบบหวุดหวิดสุดๆ

แต่คัปเดบิล่า ที่เป็นฮีโร่หมาดๆก็กลายเป็นผู้ร้ายในอีกไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อไปเสียบใส่โรนัลโด้แบบน่าเกลียด ผู้ตัดสินให้ใบแดงไล่ออกจากสนามทันทีทำให้บีญาร์เรอัล เสียเปรียบตัวผู้เล่นในช่วง 8 นาทีสุดท้าย

เซอร์อเล็กซ์ ส่งคาร์ลอส เตเวซ ลงมาอีกคนกะจะเอาชนะให้ได้ แต่ก็ปิดบัญชีไม่สำเร็จทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 ซึ่งเป็นการเสมอกันแบบโนสกอร์ 4 นัดรวดที่เคยเจอกันในแชมเปี้ยนส์ ลีก แบ่งกันไปทีมละแต้มแต่ก็ได้จูงมือกันเข้ารอบเนื่องจากแต้มขาดแล้ว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บีญาร์เรอัล :
ดีเอโก้ โลเปซ, ฆาบี้ เบนต้า, กอนซาโล่ โรดริเกวซ, ฟาบริซิโอ ฟูเอนเตส, โจน คัปเดบิล่า, ซานติ กาซอร์ล่า, มาร์กอส เซนน่า (บรูโน่ น.45) , เซบาสเตียน เอกูเร็น, โรแบร์ ปิแรส (มาทิอัส เฟร์นันเดซ น.65) , อาเรียล อิบากาซ่า, จูเซ็ปเป้ รอสซี่ (กิลเญร์โม่ ฟรังโก้ น.79)

ใบเหลือง : เบนต้า น.28, เอกูเร็น น.42, ฟูเอ็นเตส น.58

ใบแดง : คัปเดบิล่า น.82

แมนฯ ยูไนเต็ด : โทมัสซ์ คุสแซ็ค, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า, คริสติอาโน่ โรนัลโด้, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (ดาร์รอน กิ๊บสัน น.80) , ไมเคิล คาร์ริค (คาร์ลอส เตเวซ น.86) , นานี่ (พาร์ค ชี ซอง น.85) , อันแดร์สัน, เวย์น รูนี่ย์

ใบเหลือง : เอวร่า น.36, โรนัลโด้ น.53

ผู้ตัดสิน : โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ




























 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์