นายกผี!โด้ ฟรีคิกเบิ้ลยิงหม้อน้ำแตก5-0

ปิศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโหดเกินมนุษย์หลังระเบิดอารมณ์ใส่สโต๊ค ซิตี้มันตีน 5-0 จากสองประตูฟรีคิกของเดียวของคริสติอาโน่ โรนัลโด้ในขณะที่มีชื่อเจ้าหนูเวลเบ็คยิงประตูสุดสวยให้แฟนๆได้ชื่นใจขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 แล้ว

บรรยายายเกมโดยดาขาเดฟ

แมนฯยูไนเต็ด 5-0 สโต๊ค

สนาม :
โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ประตู :1-0 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.3,2-0 ไมเคิล คาร์ริค น.45,3-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.49,4-0 เวลเบ็ค น.84,5-0 สติอาโน่ โรนัลโด้ น.89


เปิดฉากเริ่มเกมแค่ 3 นาที ฝั่งเจ้าถิ่นมีโอกาสได้ลุ้นประตูก่อนเมื่ออัมดี้ ฟายไปตัดฟาวล์เตเบซที่ทางซ้ายระยะกว่า 25 หลา โรนัลโด้รับหน้าที่ยิงฟรีคิกข้ามกำแพงเสยใต้คานเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ให้แมนฯยูไนเต็ดขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 7 แมนฯยูไนเต็ดลุยมาอีกชุด ปาร์ค จี ซุงสับไก 22 หลาเต็มข้อ แต่โซเรนเซ่นยังทิ้งตัวตะครุบบอลไว้ได้

อย่างไรก็ตาม อาวุธทีเด็ดทุ่มไกลของดีแลปได้มาแผลงฤทธิ์นาที 10 เกือบได้เรื่อง เมื่อโอเชโหม่งสกัดที่เสาแรกเกือบจะเสียบมุมประตูตัวเอง แต่ฟาน เดอร์ยังเหยียดตัวปัดทิ้งไปได้

จากนั้นแมนฯยูไนเต็ด สร้างจังหวะวูบวาบได้ต่อเนื่อง นาที 20 โรนัลโด้พลิ้วกระชากจากซ้ายเข้ากลาง ก่อนจะกระหน่ำยิง 25 หลา แต่ไปตรงตัวโซเรนเซ่น

รูปเกมของเจ้าถิ่นเหนือกว่าอย่างชัดเจน กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก โรนัลโด้กระชากบอลขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะป้ายให้คาร์ริคจับบอลแล้วตะบันเน้นๆ 15 หลาผ่านโซเรนเซ่นเข้าไปเป็นประตู ทำให้จบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดทิ้งห่าง 2-0

เปิดฉากครึ่งหลัง ลูกทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยังคงร้อนแรง คาร์ริคแทงบอลให้เตเบซได้บอลในเขตโทษทางขวา ก่อนที่เตเบซจะตักมาให้เบอร์บาตอฟโชว์ทักษะแตะบอลด้วยข้างเท้าด้านนอกหนึ่งจังหวะ แล้ววอลเลย์เน้นๆ 12 หลาทางขวา ผ่านโซเรนเซ่นเสียบเสาแรกเข้าไปตุงตาข่าย ผีแดงทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น 3-0

ฝั่งสโต๊ค ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันจึงต้องหันมาอาศัยการยิงไกล อัมดี้ ฟายหมุนวนหน้าเขตโทษแมนฯยูไนเต็ด ก่อนจะไหลย้อนให้ดิเยายิงเต็มตีน 25 หลาแต่บอลข้ามคาน นาที 58

นาทีต่อมาแมนฯยูไนเต็ดที่ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ น่าจะได้ประตูที่ 4 เมื่อโรนัลโด้โชว์ฟรีคิกเดอะร็อกเก็ตส์ 30 หลา บอลส่ายทำให้โซเรนเซ่นเกือบจะหลง แต่ยังดีที่ตั้งสติทุบออกมาได้

จากนั้น แมนฯยูไนเต็ดคุมสถาการณ์ไว้ได้หมด กระทั่งนาที 77 โรนัลโด้โชว์สเต็ปอีกครั้งด้วยการเลื้อยเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย จากการได้บอลแทงทะลุช่องจากคาร์ริค ก่อนจะดีดให้มานูโช่โขกจ่อๆ แต่บอลโด่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

ยูไนเต็ดเหมือนกำลังสนุกกับเกมรุกพยายามจะยิงเพิ่มเพื่อตุนประตูได้เสียและนาที 84 เจ้าถิ่นมาได้ลูก 4 สมใจอยากจากเจ้าเวลเบ็คหนูดาวรุ่งตัวสำรองที่ลากขึ้นมาเองก่อนตัดสินใจยิงไกล 25 หลาบอลติดไซด์ทะลุตัวกองหลังพุ่งชนใต้คานเข้าไปอย่างสุดมัน ยิงยังกะเล่นมา 10 ปี เปิดตัวเจ๋งมากไอ้น้อง!!

นาที 89 ปิศาจแดงมาได้ลูก 5 ปิดท้ายจากฟรีคิกตรงกลางประตูระยะ 20 หลาก่อนปั่นเลียดบอลเสียบมุมดิกเข้าไปไม่มีเหลือ ทำให้เด็กป๋าแซงอาร์เซนอลขึ้นมาอยู่อันดับ 3 พร้อมประตูได้เสียเป็น +15 เน้นๆอีกด้วย

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนฯยูไนเเต็ด :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6,จอห์น โอเช 6,จอนนี่ อีแวนส์ 6.5,เนมานย่า วิดิช 6.5,ปาทริซ เอวร่า 6.5 ,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 8.5 *,ไมเคิล คาร์ริค 8,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 7 (ดาร์รอน กิ๊บสัน น.63),ปาร์ค จี ซุง 7(แดนนี่ เวลเบ็ค น.63),คาร์ลอส เตเบซ 7 (มานูโช่ น.75),ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 7.5

สำรองไม่ได้ลงสนาม :เบน ฟอสเตอร์,ราฟา เอล ดา ซิลวา,อันแดร์สัน,นานี่


สโต๊ค :โธมัส โซเรนเซ่น 4,แอนดี้ กริฟฟิน 5(แอนดี้ วิลกินสัน น,79),ไรอัน ชอว์ครอสส์ 5,อับดุลลาย ฟาย 4,แดนนี่ ฮิกกิ้นบอทแธ่ม 5,เซยี่ โอโลฟินยาน่า 5(ริชาร์ด เครสส์เวลล์ น.31,5),ซาลีฟ ดิเยา 4,อัมดี้ ฟาย 5,รอรี่ ดีแลป 5 ,มามาดี้ ซิดิเบ้ 5,ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ 5 (เดฟ คิตสัน น.69,5)

สำรองไม่ได้ลงสนาม :สตีฟ ซิมอนเซ่น,ลีออรน คอร์ท,เกลน วีแลน,ไมเคิล ทองก์





































ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์