ผีต้องการหน้าเพิ่มด่วน + แฟนหงส์(บางกลุ่ม)ยอมรับความจริงด้วย

ผีต้องการหน้าเพิ่มด่วน + แฟนหงส์(บางกลุ่ม)ยอมรับความจริงด้วย

 


ยังไม่ทันพ้นนัดแรกก็มีเสียงอวยพร(แต่ไม่มีกระเช้า)จากเดอะค็อปไม่ใกล้ไม่ไกลฝากมาถึงผมซะแล้ว แต่ผมว่าดีนะครับขุ่นข้องหมองใจต่อเกมลูกหนังดีกว่ามาเป็นอริในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

แม้ว่าลงท้ายแล้วมันก็ยังทำให้คุณเกลียดขี้หน้าผมอยู่ดีก็ตาม!!

แต่ก็อยากให้รับรู้ไว้อย่างนึงว่าต่อให้คุณด่าผมจนเสียสุนัขแค่ไหนทัศนคติของผมต่อทีมลิเวอร์พูลก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแต่จะยิ่งกระตุ้นให้ผมเน้นความจริงที่ต้องเขียนให้หนักขึ้นกว่าเดิม

คุณมีจุดยืนที่จะไม่ด่าหงส์แดงในฐานะเดอะค็อปที่ดีอันนี้ผมขอปรบมือชื่นชมอย่างใจจริงแต่ผมก็มีจุดยืนมุมมองของผมเช่นกัน ถ้าจะอ้างคำว่าสื่อต้องรับผิดชอบต่อบทความที่เขียนผมก็คงต้องยึดหลักพูดความจริงเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป(เช่นเดิม)

ครับมาตรฐานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแค่เสมอในบ้านตัวเองไม่ว่าจะกับทีมไหนพวกเค้ามองว่าผิดหวังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาลิกาซึ่งเป็นลูกไล่มาตลอดไม่ว่าจะเล่นที่สนามไหน

แต่ปัจจัยที่ทำให้ยูไนเต็ดต้องบอกว่าหนึ่งแต้มนี้มีค่าคือสภาพทีมของพวกเค้าซึ่งขาดตัวสร้างสรรค์ในเกมรุกคือทั้งคริสติอาโน่ โรนัลโด้และคาร์ลอส เตเบซรวมไปถึงนานี่ 

การแก้เกมก็เป็นไปไม่ได้เลยครับเพราะลองเหลือบดูชื่อบนม้านั่งสำรองมีนักเตะอย่างราฟาเอล ดา ซิลวา,พอสเซบอน,อีแวนส์,กิบสันหรือแม้กระทั่งแกรี่ เนวิลล์ แค่คิดก็มึนแล้ว

ดังนั้นฝากบอกไปยังเดอะค็อปเหล่านั้นอีกทีว่ากรุณาอย่าเอามาเปรียบเทียบกับหงส์แดงในวันที่เสมอกับซันเดอร์แลนด์ให้ชาวบ้านหัวเราะดีกว่านะ

สเคอร์เทล,แอกเกอร์,มาสเคราโน่หรือไลว่าที่คุณอ้างมาว่าขาดไปเพียบมันคือตัวรับนะครับ มันคนละประเด็นกับโด้จิ๋ว,เตเบซและนานี่ แล้วไอ้คนที่ลงเล่นแทนก็ไม่ใช่แมวน้ำที่ไหนพวกเค้าเหล่านั้นคืออลอนโซ่(ในครึ่งหลัง),ฮูเปียหรือแม้กระทั่งยอสซี่ เบนายูนซึ่งเล่นดีในเกมนั้นก็ยืนปีกซ้ายแทนไรอัน บาเบิ้ลที่พวกคุณอ้างมาเหมือนกัน

คือด้วยรูปเกมที่ออกมามันสมควรกราบตีนตอร์เรสด้วยประการทั้งปวงเพราะแค่ชื่อชั้นนักเตะตัวรุกทั้งตอร์เรส,ร็อบบี้ คีน,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดก็สมควรทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้สมกับเงินที่ลงแรงไปหน่อยหาไม่เอากองหน้าค่าตัวรวมกันเกือบ 50 ล้านปอนด์มากระโดดแย่งลูกโหม่งกับเซนเตอร์คู่แข่งเกือบ 90 นาที

เป็นชิ้นเป็นอันที่กระผมกล่าวไปข้างต้นคือเล่นให้มันเป็นบอลหน่อย คือถ้าเจออาร์เซนอลแล้ววิ่งไล่เป็นลิง,เจอเชลซีหาบอลไม่เจอ,เจอแมนฯยูฯไปไม่เป็นอันนี้ยังพอเข้าใจแต่สตองดาร์ด ลีแอจกับซันเดอร์แลนด์เนี่ย มันต้องเป็นทีมพวกนี้ครับที่ต้องให้เราหลอกเป็นลิงบ้าง

จะมาอ้างว่าพึ่งนัดเปิดสนามจะเอาอะไรมากมันก็ไม่ได้อารมณ์อยู่ดีเพราะคลับคล้ายคลับคลาว่ามันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จะแพ้ก็แพ้ไปไม่มีใครว่าแต่เล่นให้มันสมกับที่ตัวผู้เล่นเหนือกว่าหน่อย เข้าใจกันไหมครับอธิบายเหนื่อยนะ(ว้อย)

ก็แค่ยอมรับว่าเล่นห่วยก็จบ...

หรือจะรอให้ฟูลทีมแน่นปึ๊กทั้ง 11 ตัวแล้วค่อยมาปะทะคารมกันใหม่ก็ยินดีครับ

วกกลับมาที่ปิศาจแดงนอกจากเจอความเหนียวแน่นหนึบของเชย์ กิฟเว่นแล้วเราต้องให้เครดิตฟอร์มของนิวคาสเซิ่ลและการเตรียมตัวของเควิน คีแกนเค้าด้วย

โดยเฉพาะการได้ไอ้แมงมุมโจนาส กูเตียร์เรซจับคู่กับโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ทำให้ปีนี้สาลิกาสามารถเล่นเกมสวนกลับได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งคู่คุณสมบัติเหมือนกันคือความเร็วในการควบหนีทั้งตอนมีบอลและตอนไม่มีบอล

ลองอีกแบบนี้เซนเตอร์หรือมิดฟิลด์จิตตกต้องมาคอยพะวงสองคนนี้อยู่ตลอดและที่ทำให้เกมมันบาลานซ์คือแนวรับนำโดยแข้งใหม่อย่างฟราบริซิโอ โคลอชชินี่สามารถรับมือเกมรุกอันพิการของยูไนเต็ดได้ดีเอามากๆ

ผมเห็นการเล่นของสาลิกาในเกมนี้แล้วต้องบอกว่าทีมพัฒนาขึ้นมีมิติในการขึ้นบอลที่มีทิศทาง คือไม่ใช่เสมอแล้วมาชมนะครับเพราะถ้าแพ้ผมก็จะพูดในแบบเดียวกัน

แต่ปัญหาคือคีแกนยังต้องมีเพลย์เมคเกอร์สายตาเหยี่ยวเข้ามาเสริมอีกซักคนเพราะหากเป็นเกมในบ้านการใช้นิคกี้ บัตต์คู่กับแดนนี่ กัทธรีผมว่าเกมอาจตันเพราะฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะทีมที่เล็กกว่าจะต้องมารับลึกซึ่งหมูหมากาไก่ที่ไหนก็รู้ดีครับว่าสองคนนี้เล่นสไตล์โฮลดิ้งบอลเหมือนกัน

สรุปแล้วมาร์ตินส์กับกูเตียร์เรซคงไม่ได้มีพื้นที่โล่งๆวิ่งสปีดเต็มเหยียดเหมือนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดอยู่ตลอดแน่นอน

ส่วนกองหน้าตัวที่ 4 ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอาจต้องรอมากกว่า 2 วันเพราะเบอร์บาตอฟเพิ่งอ่อยเยื่อDREAM MOVEแสดงให้เห็นว่าขั้นตอนการเจรจายังไปไม่ถึงไหน+เบรคทีมชาติช่วงกลางสัปดาห์

ความขยันของเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ถือว่าชนะใจเร้ดอาร์มี่ที่ปรบมือลั่นสนามหลังถูกเปลี่ยนออกก่อนหมดเวลา 10 นาที เซนส์บอลและความกล้าเล่นแสดงให้เห็นแล้วครับว่าถ้าได้โอกาสเยอะๆอนาคตสดใสแน่

สำหรับชัยชนะของเชลซีเหนือคำบรรยาย 4-0 จนนำจ่าฝูงตั้งแต่นัดแรกไม่ใช่ของใหม่แต่การถล่มทีมที่มีขุมกำลังไม่ธรรมดาอย่างปอร์ทสมัธคงต้องยกนิ้วให้จริงๆครับ

รูปเกมที่ออกมาบอกได้คำเดียวว่าoutclassบอลคนละชั้น เรียกว่าแทบจะวันเวย์อยู่ข้างเดียวโดยที่แดนกลางของปอมปีย์ที่มีเชิงบอลดีทั้งสามคนอย่างดิยาร์ร่า,ครันชาร์และดิยอฟกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆที่เสียบอลบ่อยจนเกมรุกไม่คืบหน้า

เปลี่ยนผู้จัดการทีมมาแล้วสามคนแต่การนวดไม่มีผ่อนยามเล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ของตัวเองยังคงแบบฉบับเดิมๆ

ที่เรียกศักยภาพฟอร์มเก่าๆกลับมาคือนิโกลาส์ อเนลก้าซึ่งหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่จับยืนตำแหน่งถนัดคือกองหน้าตัวกลางโดยมีเดโก้กับโจ โคลขนาบข้างซึ่งเป็นแอเรียที่นิโก้อันตรายที่สุดผิดกับสมัยอาฟรัม แกรนต์ที่ถูกโยกไปยืนด้านข้าง

ถ้าอเนลก้ายังเล่นได้แบบนี้น่าสนใจครับว่าบารมีของดิดิเยร์ ดร็อกบาจะทำให้หอกจอมพเนจรจะถูกโยกไปริมเส้นหรือในเคสที่แย่กว่านั้นคือนั่งสำรองไปเลย

ซาเมียร์ นาสรี่,เดโก้สองแข้งใหม่พรีเมียร์ลีกประเดิมนัดแรกด้วยประตูทั้งคู่,มิโด้ยิงชนะทีมเก่าสเปอร์สก่อนยียวนขอขึ้นเฮดไลน์หน้าหนึ่งแทนข่าวเบอร์บาตอฟ,การลิ้มรสสามแต้มแรกในการมาเล่นในลีกสูงสุดของฮัลล์,ทริลเลอร์แมทช์ระทึกใจของแบล็คเบิร์นในช่วงทดเจ็บ,แฮทริคแรกประจำฤดูกาลของอักบอนลาฮอร์ภายใน 8 นาที

นี่คือไฮท์ไลท์เพียงแค่นัดแรกของการรอคอยมาอย่างยาวนาน 3 เดือนเต็มฉะนั้นแล้วที่เหลือจะขนาดไหนคงไม่ต้องให้ผมบอกนะครับ...

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee



 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์