ผีเฮส่งท้ายปีอัดโบลตัน 4-1,เคร้าช์ซัด!!หงส์เฉือนหวิว

ผีเฮส่งท้ายปีอัดโบลตัน 4-1,เคร้าช์ซัด!!หงส์เฉือนหวิว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2549 00:03 น.

ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฮส่งท้ายปี 2005 เมื่อเปิดรังต้อน โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 4-1 ด้าน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไม่น้อยหน้าเฉือน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 จากประตูชัยของ ปีเตอร์ เคร้าช์ ทำสถิติคว้าชัย 10 นัดรวดเข้าให้แล้ว ส่วน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ฟอร์มสดบุกอัด วีแกน แอธเลติก 3-0 ในศึก พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ

ศึก พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส

ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงเปิดรัง โอลด์แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ ทร็อตเตอร์ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมอันดับ 7 เจ้าถิ่นพัก รุด ฟาน นิสเตลรอย ไว้ที่ม้าสำรองโดยให้ หลุยส์ ซาฮา ยืนคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ ส่วนทีมเยือนมาแบบชุดใหญ่ไม่น้อยหน้าขาดเพียง เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ที่ติดโทษแบน

แมนฯยู เปิดฉากกดดันทีมเยือนอย่างหนักจนมาถึงนาทีที่ 8 คีแรน ริชาร์ดสัน เติมขึ้นมาเปิดทางฝั่งซ้ายไปเสาแรก บรูโน่ เอ็นก็อตติ พยายามจะพักบอลด้วยหน้าขาแต่พลาดบอลเด้งเข้าประตูตัวเองไปเจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว

หลังจากเสียประตูไปก่อน โบลตัน เริ่มตั้งเกมได้บ้าง แต่ยังเป็น แมนฯยูไนเต็ด ที่วูบวาบกว่าในแดนหน้ามาถึงนาทีที่ 18 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดขึ้นไปทางริมเส้นด้านขวาก่อนเปิดไปที่เสาแรกให้กับ เวย์น รูนี่ย์ แปเล่นทางจะให้เสียบเสาสองแต่ว่าบอลหลุดกรอบออกหลังไป

นาทีที่ 33 แมนฯยู พลาดเสียสมาธิปล่อยให้ โบลตัน ทุ่มไกลทางกราบซ้ายไปถึงเสาแรก อับดูลาเย่ เฟรย์ โหม่งเสยไปเสาสองให้กับ แกรี่ สปีด สอดขึ้นมาโหม่งคนเดียวเข้าประตูไป โบลตัน ตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ

แมนฯยู ตั้งหน้าตั้งตาบุกอย่างหนักอีกครั้งหลังจากสกอร์มาเท่ากันอีกครั้ง มาถึงนาทีที่ 39 ไรอัน กิ๊กส์ เปิดจากฝั่งซ้ายกองหลัง โบลตัน โหม่งสกัดเลยไปถึงเสาสอง โรนัลโด้ รอจังหวะวอลเลย์ด้วยเท้าขวาไม่ต้องจับบอลติดไซด์นิดๆ พุ่งไปชนเสาเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

ลูกเตะเปิดยาวจาก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นาทีที่ 44 ทาล เบน ฮาอิม กองหลัง โบลตัน พลาดโหม่งเสยคืนหลังเลยถูก หลุยส์ ซาฮา ฉกบอลตัดหน้า ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ก่อนแปบอลเข้าไปแม้ว่า เอ็นก็อตติ จะพยายามสกัดแต่โดนไม่เต็มใบ ครบ 45 นาทีแรก แมนฯยู นำ โบลตัน 2-1

ช่วงพักครึ่ง โบลตัน แก้เกมด้วยการส่งกองหน้า ริคาร์โด้ วาซ เท ลงมาแทนกองหลัง ทาล เบน ฮาอิม จากนั้น โรนัลโด้ ของ แมนฯยูไนเต็ด เหมือนไม่ได้พกดวงมาด้วยในวันนี้เมื่อในนาทีที่ 65 ยิงไกลบอลไซด์ไปชนเสา

นาทีที่ 68 ต้องชม รูนี่ย์ ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อปั๊มบอลกับ เฟรย์ ปลิ้นไปถึง หลุยส์ ซาฮา ก่อนที่จะคืนกลับไปให้กับ รูนี่ย์ กระชากเข้าเขตโทษด้านซ้ายและดีดไปเสาสองบอลหนีมือ ยัสเคไลเน่น ไปถึง โรนัลโด้ ที่ถีบบอลเข้าไป แมนฯยู นำ 3-1

แมนฯยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 73 โดยส่งดาวยิงหมายเลข 1 ของทีม รุด ฟาน นิสเตลรอย ลงมาแทน ซาฮา มาถึงนาทีที่ 75 โบลตัน เปลี่ยนตัวบ้างถอด สติลิออส แยนนาโคปูลอส ที่เล่นไม่ออกและส่ง คาลิลู ฟาดิก้า ลงมาเล่นแทน

แมนฯยู น่านำห่างอีกเมื่อ ดาร์เรน เฟลตเชอร์ มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงแต่ว่าติดเซฟของ ยัสเคไลเน่น จากนั้นนาทีที่ 79 แมนฯยู เก็บ เวย์น รูนี่ย์ โดยเปลี่ยนออกและส่ง ปาร์ค จี ซอง มิดฟิลด์เลือดโสมลงมาเล่นแทน

ช่วง 5 นาทีสุดท้าย แมนฯยู ส่งกองหลังดาวรุ่ง เคราร์ด ปิเก้ ลงมาแทน เฟลตเชอร์ เป็นคนสุดท้าย ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โรนัลโด้ กระชากจากกลางสนามฝั่งขวาเข้าไปหลอก เอ็นก็อตติ ก่อนซัดเสียบเสาแรกสุดสวย ครบ 90 นาที แมนฯยู ชนะ โบลตัน 4-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, แกรี่ เนวิลล์, จอห์น โอเชีย, มิคาแอล ซิสแวสต์, ดาร์เรน เฟลตเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์, คีแรน ริชาร์ดสัน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, หลุยส์ ซาฮา
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส - ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, ทาล เบน ฮาอิม, บรูโน่ เอ็นก็อตติ, อับดูลาเย่ เฟรย์, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, สติลิออส แยนนาโคปูลอส, เควิน โนแลน, โจอี้ โอไบรอัน, เจย์-เจย์ โอโคชา, แกรี่ สปีด, เควิน เดวี่ส์

สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2548

ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 (ปีเตอร์ เคร้าช์ 1-0 นาที 52)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 4-1 (บรูโน่ เอ็นก็อตติ 1-0 ทำเข้าประตูตัวเองนาที 8), (แกรี่ สปีด 1-1 นาที 33), (หลุยส์ ซาฮา 2-1 นาที 44), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 3-1 นาที 68), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 4-1 นาที 90)
มิดเดิ้ลสโบรช์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0
ปอร์ทสมัธ ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (แกรี่ โอนีล 1-0 นาที 43)
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 (ทิม เคฮิลล์ 0-1 นาที 90)
วีแกน แอธเลติก แพ้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-3 (มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น 0-1 นาที 16), (สตีเฟ่น รีด 0-2 นาที 54), (เคร็ก เบลลามี่ 0-3 นาที 88)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์