ย้อนวันวาน เมื่อปี 1999 กลับ ทริปเปิลเชมป์

ย้อนวันวาน เมื่อปี 1999 กลับ ทริปเปิลเชมป์ ( เพื่อแฟน แมนยูทุกๆท่าน คงจำกันได้ไม่ลืมเลือน )


ย้อนวันวาน เมื่อปี 1999 กลับ ทริปเปิลเชมป์
( เพื่อแฟน แมนยูทุกๆท่าน คงจำกันได้ไม่ลืมเลือน )

src=http://glitter.212cafe.com/glittered/21-02-08/1203644510-6.gif 500) {this.width=500} border=0>

src=http://img107.imageshack.us/img107/4348/mybackgroundzq0.jpg 500) {this.width=500} border=0>  













src=http://sport.teenee.com/manu/img1/m38186.jpg




Glory







                    สุดยอดทีมฟุตบอล แห่งทศวรรษ สุดยอดความยิ่งใหญ่ แห่งปี ค.ศ. 1999  ทีมฟุตบอล ที่เต็ม ไปด้วย สิ่งมหัศจรรย์ และทีมที่เต็มไปด้วย ปาฏิหาริย์ ตลอด 9 เดือนเต็ม แห่งเทพนิยาย
แมนเชตเตอร์ ยูไนเต็ด หรือที่รู้จักกันดี ในสมญานาม ปีศาจแดง แห่งเกาะอังกฤษ  ทีมที่มี แฟนบอลเฝ้าเชียร์ อยู่ทั่วโลกกว่า 10 ล้านคน  เป็นทีมที่ ประสบความสำเร็จ สูงสุด ตั้งแต่เริ่ม ย่างเข้าสู่ทศวรรษ ที่90 เป็นต้นมา  พวกเขาคว้าแชมป์ลีก ของอังกฤษถึง 5 ครั้ง ใน 7 ปี ที่มี การก่อตั้ง พรีเมียร์ชิพ ขึ้นมา (สองปีที่พลาดไป ก็ได้อันดับ รองแชมป์) และยังเป็นทีมแรก ที่คว้าแชมป์ เอฟ.เอ. คัพ ได้ถึง 10 สมัย ตั้งแต่มีการ แข่งขัน F.A. Cup เป็นต้นมา

                     ถึงแม้ การก้าวขึ้นเป็นเจ้ายุโรป ของทีม แมน ยูไนเต็ด จะสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว นั่นก็ 31 ปีผ่านมาแล้ว ที่พวกเขาคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ในปัจจุบันนี้ แต่ในปีนี้ แมน ยูไนเต็ด กลับสามารถ สร้างตำนานบทใหม่ ให้กับวงการ ฟุตบอลอังกฤษ ด้วย การคว้าแชมป์เมเจอร์ ทั้งสามรายการสำคัญ เริ่มจาก แชมป์ พรีเมียร์ลีก, แชมป์ เอฟ.เอ. คัพ, และล่าสุด แชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก เมื่อวันพุธที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา  อันเป็นการคว้าแชมป์ แบบทริเปิลแชมป์ (3รายการ) ได้เป็นทีมแรก ของทีมจาก อังกฤษ

                F.A.ตลอดทศวรรษนี้ ถึงแม้พวกเขา จะไม่ใช่ทีม ที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่มีใคร แย้งได้ว่า พวกเขาได้กลาย เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด และมีเกมรุก ที่น่ากลัวที่สุด ในระดับแนวหน้าของโลก ไปแล้ว...
โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ แมน ยูไนเต็ด กลายเป็นทีม ที่มีความสมดุลย์ และมีความยืดหยุ่นสูง จากการที่ นักเตะ ตัวจริง และตัวสำรอง มีความสามารถ ทดแทนกันได้ เป็นอย่างดี  จึงเห็น ได้ว่า มีหลายนัด ที่นักเตะตัวสำคัญ สลับกันเจ็บ หรือสลับกันโดนแบน  แต่พวกเขา ก็ยังเดิน หน้าเก็บชัยชนะ หรือเอาตัวรอดไปได้ตลอด จากความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของทีม ที่ไม่ได้ เล่นด้วยดาราในทีม เพียงไม่กี่คน เหมือนเมื่ออดีต ที่ผ่านมาอีกแล้ว

และสิ่งที่ กลายเป็น เครื่องหมายการค้า ตัวใหม่ของ แมน ยูไนเต็ด นั่นก็คือ พวกเขากลายเป็น ทีมที่ตายยาก ที่สุดทีมหนึ่ง มีหลายนัด ที่พวกเขา น่าจะแพ้ หรือไม่น่าได้แต้ม พวกเขากลับ พลิกมาชนะได้ อย่างหน้าตาเฉย  และบ่อยครั้ง ที่ทีมถูกยิงประตูไปก่อน แต่สุดท้าย พวกเขา ก็สามารถทวงคืน กลับมาได้ โดยตลอด ซึ่งแสดงให้เห็น ถึงความใจสู้ และมีความเชื่อมั่น ใน ตนเองสูง และไม่ย่อท้อ แม้เหตุการจะเลวร้าย เหล่านี้ นี่เอง กลายเป็นสปิริต แห่งนักสู้ ของ พลพรรคปีศาจแดง ที่ประทับใจ แฟนบอล เป็นที่สุด

และที่แสบสันต์ ไปกว่านั้น แมน ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่ ฉวยโอกาส ได้เก่งที่สุด ขอโอกาส จากการพลาด หรือเผลอ ของคู่ต่อสู้ เพียงครั้งเดียว พวกเขา ก็สามารถยิงประตู ได้ทันที...
มีหลายนัด ที่โดนคู่ต่อสู้ กำลังบุกเข้าใส่ อยู่พัลวัน แต่เพียงการโต้กลับ เพียงครั้งเดียว ของ พวกเขา ก็ยิงประตูได้เลย  และแสบคูณสอง มากขึ้น เมื่อ แมน ยูไนเต็ด กลายเป็นทีม ที่ชอบ มายิงประตู เอาในช่วงท้าย และช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หลังจากหมดเวลาไปแล้ว  สร้างความ เจ็บแค้น แก่คู่ต่อสู้ และกองเชียร์ ฝั่งตรงข้าม เป็นอย่างมาก  แต่สะใจ เหล่ากองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ ที่ตามทีม ไปเชียร์ทุกหน ทุกแห่ง  จน แมน ยูไนเต็ด เป็นทีมนักสู้ ที่สู้จนหยดสุดท้าย จริงๆ  ด้านล่างนี้ คือแมตช์ ที่เสมือนปาฏิหาริย์ ที่หลายคน บอกว่าฟลุ๊ค หลายคนค่อนแคะว่า โชคเข้าข้างบ้าง ดวงดีบ้าง  แต่สำหรับผม นี่แหล่ะครับ สปิริต แห่งวิญญาณ นักสู้ครับ

ต่อไปนี้ คือแมตช์ แห่งความทรงจำ ในฤดูกาลนี้ แต่ละนัด คือจุดสำคัญ ในการคว้าแชมป์ ทั้ง 3 รายการ ของทีม แมน ยูไนเต็ด



























วันแดงเดือด  MAN UTD 2-1 LIVERPOOL
Man เส้นทางเข้าสู่ เวมบลีย์ เพื่อคว้าถ้วย เอฟ.เอ. คัพ ของ แมน ยู กลายเป็นหนทาง แห่งความ ยากลำบาก ตั้งแต่รอบแรกๆ เมื่อผ่านด่านแรก มิดเดิ้ลสโบร์ มาได้ ก็ต้องมาพบ คู่แค้นเก่า อย่างทีม ลิเวอร์พูล ที่หมายมั่นปั้นมือ จะล้างแค้น ที่แพ้แก่ แมน ยู มาตลอด  และรูปเกม ก็ เหมือนจะเป็น ลิเวอร์พูล ที่แก้แค้นสำเร็จ เมื่อ ไมเคิล โอเว่น พุ่งเข้าชาร์จ ระยะ 6 หลาจาก การเปิดครอสเข้ามา ของ เวการ์ด เฮ็กเก็ม ในนาทีที่ 3 ของการแข่งขัน
ลิเวอร์พูล สามารถต้านทานการบุก ของ แมน ยู รักษาสกอร์ 1-0 เอาไว้ได้ จนใกล้หมดเวลา แฟนลิเวอร์พูล กำลังเตรียมเฮ ขณะที่แฟน แมน ยู กำลังลุกจะกลับบ้าน ดไวท์ ยอร์ค ก็ยิง ตีเสมอให้ แมน ยู ชนิดที่ กองหลังลิเวอร์พูล ยังงงกับการโดนตีเสมอ  และเกมทำท่า จะต้อง ไปรีเพลย์ ในบ้านลิเวอร์พูล แต่ โอเล่ กุนน่า โซลจ์ชาร์ ที่ถูกเปลี่ยนตัว ลงมาได้ไม่นาน ก็ยิง ปิดท้ายคว้าชัยได้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ชนิดที่แฟนๆ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ลิเวอร์พูล ตกรอบ พร้อมรอยแค้นที่แสบทรวง แมน ยู ก้าวไปเจอกับ เชลซี ในรอบต่อไป
 กิ๊กส์ กับประตู แห่งฤดูกาล Arsenal 1-2 Manchester Utd 
Arsenal-Manchester วิบากกรรม ของการไป เวมบลีย์ ปีนี้ ช่างสาหัสนัก หลังจากผ่าน เชลซี แบบหืดจับ เพราะ ต้องเล่น 2 นัด กว่าจะคว่ำเชลซี ลงได้คารัง แตมฟอร์ด บริดจ์  แมน ยู ก็ต้องจับสลาก มาเจอกับ โครตทีมแห่งยุค อาร์เซน่อล ที่กลายเป็น คู่แข่ง ในการแย่งแชมป์ แทบจะทุก รายการ ของ แมน ยู ..........
หลังจาก เล่นรีเพลย์ กับเชลซี ไปไม่ทันไร แมน ยู ก็ต้องมาเล่นรีเพลย์ กับอาร์เซน่อล อีกครั้ง ทั้งๆที่ น่าจะชนะได้ ในนัดแรกแล้ว ถ้าไม่เจอพิษกรรมการ กับไลน์แมน ทำป่วน ไม่ให้ลูกยิง ของ รอย คีน ได้ประตู แถมไม่สาใจ มาในนัดรีเพลย์ ก็ให้ใบแดง รอย คีน ชดเชย ที่นัดก่อน ให้ใบแดง ผู้เล่น อาร์เซน่อล ไปแล้ว
เดวิด เบ็คแฮม ยิงประตู ให้ แมน ยู ขึ้นนำไปก่อน แล้วก็ทำท่าว่า จะชนะได้ แต่ อาร์เซน่อล บุกหนัก จนได้ประตูคืน แถมยังได้ลูกจุดโทษ จากการเฟอะฟะ ของ ฟิล เนวิลล์ ในนาทีสุดท้าย แต่ด้วยความสุดยอด ของ ปีเตอร์ ชไมเคิล ที่พุ่งปัด ลูกจุดโทษ ของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ได้ ต่อลมหายใจ ให้ แมน ยู ที่เหลือ 10คน สู้ต่อ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
แล้วปาฏิหาริย์ ก็ปรากฏอีกครั้ง ขณะที่ อาร์เซน่อล กำลังยำใหญ่.... วิเอร่า ก็จ่ายบอลพลาด ให้กิ๊กส์ ฉกไป แล้วจัดการโซโล่เดี่ยว กว่า 60 หลา หลบผู้เล่น อาร์เซน่อล เกือบจะครึ่งทีม เข้าไปยิงเปรี้ยงเดียว ผ่าน เดวิด ซีแมน อีกคน พาทีม แมน ยู เข้ารอบอย่างเหลือเชื่อ
 คืนผีลืมหลุม  Juventus 2 - 3 Manchester United
Juventus หนึ่งในทีม ที่ แมน ยู แพ้ทาง เมื่อต้องปะทะกัน เป็นประจำ ก็คือ ยูเวนตุส  สถิติที่พบกัน ในถ้วยยุโรป ยูเว่ มักจะเล่นดีเสมอ เมื่อเจอ แมน ยู.... และปีนี้ แมนยู ก็จับติ้ว มาพบ ยูเว่ อีกจนได้ จนเกจิ อาจารย์ ทั้งหลายฟันธง บอกว่าคู่ชิง ยูโรเปี้ยน คัพ ปีนี้ คือบาเยิร์น กับทีม ยูเวนตุส  ซึ่งรูปการณ์ ก็ออกมาเช่นนี้ หลังจาก ยูเว่ ไปเล่นยันเสมอ ที่บ้าน แมน ยู แบบที่ เกือบจะฝังผี สำเร็จแล้ว ไรอัน กิ๊กส์ ก็ดอดขึ้นมา ยิงตีเสมอได้ก่อนหมดเวลา นาทีเดียว

คราวนี้ ยูเว่ ได้เล่นเป็นเจ้าบ้าน แค่เล่นเอาผลเสมอ กับแมน ยู ก็ได้เข้ารอบชิงแล้ว แต่กลับ ทำได้ดีเกินคาด และเป็นกองหลัง แมน ยู ที่ห่วยเหมือนเดิม ปล่อยให้ ยูเว่ ยิงสองประตูรวด ภายในเวลาเพียง 10 นาที  จากนั้น ยูเว่ ก็คุมเกม ไว้ได้ทั้งหมด ปล่อยให้ แมน ยู วิ่งมั่วไป จนเวลาใกล้ หมดครึ่งแรก แมน ยู ก็โหมบุก จนรอย คีน สามารถโหม่ง ตีไข่แตกได้

ครึ่งหลัง เกมยังเป็นไปในรูปเดิม ยูเว่ พยายามเน้นชัวร์ อุดให้แน่น แล้วโต้กลับ ซึ่งก็เกือบได้ เพิ่มอีกหลายครั้ง แต่พลาดไปเอง หรือไม่ก็ติด ชไมเคิล....... และเมื่อยิงเพิ่ม ไม่ได้ กลายเป็น แมน ยู ที่ก้มหน้า ก้มตาบุก แม้จะออกลูกมั่วๆ ไปบ้าง แต่ก็มาตีเสมอได้ จากดไวท์ ยอร์ค ทำให้สถานะการณ์พลิกทันที เพราะแค่เสมอ แมนยู จะเข้ารอบ ตามกฏประตูทีมเยือน

และในขณะที่ ยูเวนตุส ยังไม่หายตกใจ ยอร์ค ก็ตะบึงพาลูก แหกด่านกองหลัง 2คน เข้าไป หน้าประตู แต่โดนเปรุสซี่ ทำฟาวล์ ลูกปลิ้นไปด้านข้าง โคล วิ่งมาจากไหน ไม่มีใครทราบ แปลูกเลียดเสา เข้าไปอย่างงดงาม ส่ง ยูเวนตุส ลงหลุมไปแทน

 เสี้ยวนาที สู่ความยิ่งใหญ่  Manchester United 2-1 Bayern Munich
Manchesterนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก หรือยูโรเปี้ยน คัพเดิม กร่อยลงทันที เมื่อแมน ยู เสียลูก ฟรีคิก ห่างจากเส้นโทษ เพียงก้าวเดียว จากฝีมือ กองหลัง แมน ยู ที่ขึ้นชื่อ เรื่องการทำ เฟอะฟะ หน้าเขตโทษตัวเอง โดยรอนนี่ ยอห์นเซ่น เสียบคาสเท่น ยานเค่อร์  และจอมปั่น ฟรีคิกมือหนึ่ง มาริโอ บาสเล่อร์ โชว์การยิงง่ายๆ พุ่งเข้าช่อง ที่เพื่อร่วมทีม กรุยทางไว้ให้

พอแมน ยู โดนนำเหมือนเคยๆ ตั้งแต่ยังไม่ 10 นาทีแรก ก็พยายาม จะเอาคืน แต่ดูแล้ว รูปเกม สู้บาเยิร์น มิวนิค ที่หันไปตั้งรับ เพราะเชื่อในความเหนียว ยี่ห้อเยอรมัน กับทีเด็ดที่ ลูกโต้กลับของตัวเอง  และก็เป็นเช่นนี้จริงๆ ตลอดทั้งเกม เมื่อ แมน ยู ซึ่งพยายามบุกเข้าทำ แต่ติดกองหลัง บาเยิร์น ที่มีกองกลาง ลงช่วยอุดอีก รวมเป็น 6คน สกัดการบุก ของแมน ยู ทีมที่ได้ชื่อว่า มีเกมรุก ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ ได้หมดทุกทาง แถมยังสวนกลับ จนเกือบได้เพิ่ม อีก 2 ลูก แต่คานประตู ช่วย ชไมเคิล เซฟลูกทั้ง 2 อย่างหวุดหวิด

เกมทำท่าจะจบ ในแบบสบายๆ เมื่อเวลา 90 นาทีกำลังจะหมดลง บาเยิร์น เปลี่ยนตัว เอา กองกลาง กับกองหลัง ลงมาอุด เพื่อฆ่าเวลา  แต่อ็อตม่าร์ ฮิทช์เฟลด์ คงลืมนึกไปว่า ทีมจาก อังกฤษทีมนี้ มักจะอันตรายสุดๆ ในช่วงท้ายๆ โดยเฉพาะตอนต่อเวลา

แล้วเทพนิยาย ของอเล็กซ์ เฟอกูสัน ก็ได้จบลง อย่างแฮปปี้ เอนดิ้ง เมื่อ เชอริงแฮม กับโอเล่ กุนน่า โซลจ์ชาร์ 2 ตัวสำรอง ลงไปเหมา คนละลูก ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พลิกกลับมาชนะ ในแบบที่ ผุ้เล่น บาเยิร์น มิวนิค แทบจะคลั่งตาย อุตส่าห์อุด ไว้ได้ตั้ง 80 กว่านาที แชมป์ที่ ลอยอยู่ตรงหน้า ถูกปีศาจแดง คว้าไปต่อหน้าต่อตา

สำหรับบาเยิร์น มิวนิค ::::ช่วยไม่ได้ อยากไม่ระวังเอง
แด่แมน ยู:::::::ขอบคุณ สำหรับสปิริต แห่งวิญญาณนักสู้  พวกคุณได้สิ่งที่ตอบแทนแล้ว


UEFAPremierF.A. 


กระทู้นี้เพื่อแฟนปีศาจแดงทุกๆท่าน และ คอบอลที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล
ขอความกรุณาใช้คำที่สุภาพในการโพส และ แสดงถึงมิตรภาพที่ดีต่อกัน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์