แนวรุกชาวอาร์เมเนียปลดล็อคประตูแรกในพรีเมียร์ลีก พาปีศาจแดงเก็บชัยเหนือไก่เดือยทองได้สำเร็จ แต่กลับโชคร้ายบาดเจ็บจนโดนหามเปลออกจากสนามช่วงท้ายเกม
โชเซ มูรินโญ กุนซือเจ้าบ้าน กลับมาใช้บรรดาตัวหลักที่ได้พักในเกมยูโรป้าลีกเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่บุกชนะซอร์ยา 2-0 อย่างดาบิด เด เฮอา, ฟิล โจนส์ และ อันโตนิโอ วาเเลนเซีย และอดีตเด็กเก่าของได่เดือยทองอย่าง ไมเคิล คาร์ริค ลงเป็นตัวจริงอีกครั้ง
ด้านทีมเยือนของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ปรับทัพจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อคืนวันพุธที่ชนะซีเอสเคเอ มอสโก 3-1 เพียงแค่ 2 รายเท่านั้น ได้แก่ โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ กับ มูซา เดมเบเล ซึ่งได้ลงเป็น 11 คนแรกแทน เอริค ไดเออร์ และ แฮร์รี วิงส์
เกมในช่วง 45 นาทีแรกถือว่าค่อนข้างสูสีทีเดียว โดยแม้ฝั่งสเปอร์สจะครองบอลได้เหนือกว่า แต่กลับเป็นยูไนเต็ดที่สร้างโอกาสยิงได้มากกว่า รวมถึงยังเฉียบคมกว่าด้วย เมื่อสามารถพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ ในนาทีที่ 29 จากจังหวะที่ อันเดร์ เอร์เรรา จ่ายทะลุช่องจากกลางสนามให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน ลากหลุดเดี่ยวไปซัดด้วยขวาแสกหน้า อูโก้ โยริส อย่างเด็ดขาด ส่งให้ปีศาจแดงนำในครึ่งแรก 1-0
ครึ่งหลังแม้ว่าคลับไก่จะพยายามบุกหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ รวมถึงเจ้าบ้านเองก็ต้องเสีย มคิทาร์ยาน ที่บาดเจ็บจนต้องหามเปลออกจากสนามช่วงท้ายเกมแล้วเปลี่ยนเอา เอริค ไบญี ลงมาแทนในนาทีที่ 85 ด้วย แต่ฝั่งทีมเยือนกลับจบสกอร์กันไม่เฉียบขาดกันเอง ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เฉือนชนะไปหวุดหวิด 1-0
ทั้งนี้ ยังถือเป็นการกลับมาเก็บชัยในพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทร็ฟอร์ด ได้อีกครั้ง หลังจากพลาดท่าเสมอมา 4 นัดติดก่อนหน้านี้ พร้อมมีเพิ่มเป็น 24 แต้ม รั้งที่ 6 ส่วนท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ยังอยู่อันดับ 5 มี 27 คะแนนเท่าเดิม
Cr;goal.com/th
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
