หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวภายหลังลูกทีมเฉือนชนะคริสตัล พาเลซ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ศึกเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า เป็นชัยชนะที่เหลือเชื่อมากๆ เพราะแมนฯยูต้องผ่านอุปสรรคมากมายก่อนจะมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เช่นไล่แซงเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และเฉือนชนะเอฟเวอร์ตันในนาทีสุดท้าย
ส่วนเกมนี้ก็ได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกมหลังจากต้องเหลือผู้เล่น 10 คน แถมช่วงครึ่งแรกยังยิงชนเสาถึง 2 ครั้ง และต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้แมนฯยูต้องลงสนามนัดปิดฤดูกาลล่าช้ากว่าทีมอื่นในวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุการณ์อพยพแฟนบอลที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วจนต้องเลื่อนโปรแกรมแข่งขัน
กุนซือชาวดัตช์วัย 64 ปี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างที่ผ่านมาล้วนไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะตอนนี้ปีศาจแดงเป็นแชมป์แล้ว ถือเป็นเรื่องราวแสนพิเศษสำหรับแฟนบอล และแน่นอนว่าเป็นเรื่องดีๆ ของตนเองด้วยเนื่องจากสามารถคุมทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 4 ประเทศซึ่งไม่ค่อยมีโค้ชคนไหนทำได้นัก โดยก่อนหน้านี้ ฟาน กัล เคยคุมทีมอายแอ็กซ์ที่บ้านเกิด, บาร์เซโลน่าที่สเปน และบาเยิร์น มิวนิก ที่เยอรมนี โดยพาทีมเป็นแชมป์บอลลีก บอลถ้วย และถ้วยยุโรปหลายครั้ง
ทั้งนี้ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การคว้าแชมป์ครั้งนี้นับเป็นการสั่งลาที่เหมาะสมสำหรับฟาน กัล เนื่องจากปีศาจแดงเตรียมแจ้งข่าวว่าจะแต่งตั้งโจเซ่ มูรินโญ่ โค้ชคนดังชาวโปรตุกีสเป็นกุนซือคนใหม่ให้ฟาน กัล รับทราบในวันจันทร์ ก่อนแถลงข่าวเปิดตัวมูรินโญ่อย่างเป็นทางการในวันอังคาร โดยสื่ออังกฤษพากันกระพือข่าวนี้ตั้งแต่ก่อนเกมเอฟเอคัพจะเปิดฉาก
ด้านอลัน พาร์ดิว กุนซือคริสตัล พาเลซ กล่าวถึงความพ่ายแพ้ครั้งนี้ว่า ลูกทีมทุ่มเทเต็มที่แล้ว และสมควรเป็นผู้ชนะ แต่กีฬาฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ บางครั้งกรรมการก็อาจตัดสินค้านสายตาไปบ้าง โดยเฉพาะลูกโทษที่ควรจะได้ในช่วงแรกของการทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็จะไม่ขอบ่นอะไรเพราะทั้ง 2 ทีมต่างเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
