เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายของปีศาจแดงอย่างแท้จริง หลังบุกไปแพ้แก่ทีมจากเดนมาร์ก ในศึกยูโรป้าลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายนัดแรก
เยสส์ โทรุป กุนซือเจ้าบ้าน ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของลีกเดนมาร์ก แต่อยู่ระหว่างพักครึ่งฤดูกาลในขณะนี้ จัดทัพมาในระบบ 4-5-1 วาง มาร์ติน พูซิช ยืนเป็นหน้าเป้า คอยประสานงานในแนวรุกร่วมกับ พิโอเน ซิสโต้ และ วาชลาฟ คาดเลช
ด้านทีมเยือนของ หลุยส์ ฟาน กัล พบข่าวร้ายก่อนเกมหลังจากที่ ดาบิด เด เฮอา โชคร้ายบาดเจ็บขณะอบอุ่นร่างกายจนไม่สามารถลงสนามได้ ทำให้เป็นโอกาสของ เซรคิโอ โรเมโร ลงเฝ้าเสาแทน ส่วนแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ อ็องโตนี มาร์กซิยาลเริ่มเกมมาเป็นแมนฯยูฯที่แม้จะขาดตัวหลักหลายราย แต่ด้วยชื่อชั้นที่เหนือกว่ามาก จนทำให้เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ จนกระทั่งนาทีที่ 37 ก็มาปลดล็อคยิงออกนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เจสเซ ลินการ์ด เปิดบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาให้ เมมฟิส เดปาย ที่แม้จะลื่นเสียหลักแต่ยังจับด้วยซ้ายแล้วซัดด้วยขวาเข้าไปได้ ส่งให้ปีศาจแดงในชุดเยือนสีดำบุกมานำ 1-0
แต่แล้วในช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 มิดทิลแลนด์กลับมาตีเสมอได้แบบไม่คาดคิด จากจังหวะที่ ซิสโต้ ลากแหวกแนวรับทีมเยือนมาก่อนจะสับไกด้วยขวาไปแฉลบขาของ คริส สมอลลิง เปลี่ยนทางผ่านมือ โรเมโร เข้าไปตุงตาข่าย ทำให้จบ 45 นาทีแรกไปด้วยผลเสมอ 1-1
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังเกมค่อนข้างสูสีกว่าเดิม เนื่องจากเจ้าบ้านก็มีโอกาสทำเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนได้แบบไม่เกรงกลัว จนกระทั่งนาทีที่ 77 ก็มาพลิกขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ พอล โอนัวชู ปั๊มแย่งบอลชนะ ฆวน มาต้า มาได้ ก่อนจะตัดสินใจยิงเรียดด้วยขวดบริเวณหัวกะโหลก ส่งบอลเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยให้มิดทิลแลนด์แซงนำ 2-1
หลังจากนั้นแม้ว่าปีศาจแดงจะพยามหาโอกาสครองบอลบุกเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ แต่กลับไม่สามารถปะติดปะต่อเกมได้เลย ทำให้สุดท้ายจบ 90 นาทีเป็นมิดทิลแลนด์ที่เปิดบ้านเอาชนะไปได้แบบพลิกล็อค 2-1 ก่อนจะกลับมาสู้กันต่อในนัดสองที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สัปดาห์หน้า 3.05 น. ตามเวลาประเทศไทย
ที่มาจาก GOAL.COM/TH
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
