Preview Chang FA Cup : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - เมืองทอง ยูไนเต็ด

Preview Chang FA Cup : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - เมืองทอง ยูไนเต็ด

บุรีรัมย์จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกของเอเชียที่คว้า 5 แชมป์ใน 1 ฤดูกาลได้หรือไม่ เมื่อต้องเผชิญหน้าคู่ปรับอย่างกิเลนผยองที่ไม่อยากมือเปล่า เช็คความพร้อมและข้อมูลน่าสนใจที่นี่

แข่งขัน : วันเสาร์ ที่ 26 ธันวาคม 2558

เวลา : 18.30 น.

สนาม : ศุภชลาศัย

ถ่ายทอดสดทาง : true SPORT 2, true SPORT HD 2, true4U

สภาพความพร้อม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ปราสาทสายฟ้าของ อเล็กซานเดอร์ กามา ก่อนหน้านี้เพิ่งเฉือนชนะ เบิงเกต อังกอร์ เอฟซี ทีมจากกัมพูชา 1-0 คว้าแชมป์โตโยต้า แม่โขงคลับ แชมเปี้ยนส์ชิพ ซึ่งถือเป็นโทรฟี่ที่ 4 ของฤดูกาล มาครอง และทำให้ซีซั่นนี้พวกเขาไม่แพ้ใคร 42 นัดติดต่อกันเข้าให้แล้วจากทุกรายการ

ขณะที่สภาพความพร้อมยังถือว่าเต็มสูบเมื่อได้ทั้ง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ และ สุรีย์ สุขะ พ้นโทษแบนกลับมา โดยคาดว่าทั้งคู่น่าจะถูกส่งออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทันทีร่วมกับแกนหลักอย่าง สุเชาว์ นุชนุ่ม , โก ซุล กิ , ธีราทร บุญมาทัน , อันเดรส ตูเญซ และ กิลแบร์โต มาเชน่า

เมืองทอง ยูไนเต็ด : กิเลนผยองของ ดราแกน ทาลายิช ยังไม่มีแชมป์ติดมือในฤดูกาลนี้ฉะนั้นนี่เป็นรายการสุดท้ายที่เหลือให้พวกเขาได้ลุ้น ทว่าเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน สารัช อยู่เย็น ที่ติดโทษแบน รวมถึงในรายของ ดัสกร ทองเหลา กองกลางกัปตันทีมที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งยังไม่พร้อมกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง

โดยคาดว่าพวกเขาน่าจะดัน คิม ดอง จิน ขึ้นมายืนเป็นกองกลางในเกมนี้ ส่วน แบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ของ สุริยา สิงห์มุ้ย ขณะที่แกนหลักรายอื่นอยู่กันครบไม่ว่าจะเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ , นาโออากิ อาโอยามะ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ รวมถึงสามประสานแนวรุกอย่าง เคลตัน ซิลวา , ธีรศิลป์ แดงดา และ มาริโอ ยูรอฟสกี้

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศิวรักษ์

สุรีย์ , ตูเญซ , กรวิทย์

อนาวิน , สุเชาว์ , โก ซุล กิ , จักรพันธ์ , ธีราทร

ดิโอโก้ , มาเชน่า

เมืองทอง ยูไนเต็ด

กวินทร์

ปิยพล , อาทิตย์ , อาโอยามะ , สุริยา

ฐิติพันธ์ , คิม ดอง จิน , กษิดิ์เดช

ธีรศิลป์ , เคลตัน , มาริโอ


รู้หรือไม่!

- ทั้งสองทีมพบกันรวมทั้งหมด 18 นัดจากทุกรายเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีสถิติเหนือกว่าโดยไม่เคยแพ้ แบ่งเป็น ชนะ 9 นัด และ เสมอ 9 นัด

- ตลอด 18 นัดที่พบกันรวมทุกรายการยังไม่มีทีมไหนที่ทำได้เกิน 2 ประตูใน 1 นัด

- หากนับเฉพาะรายการช้าง เอฟเอคัพ ทั้งคู่พบกันมา 2 นัด เป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะได้ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่นัดชิงชนะเลิศ ปี 2011 ที่ต่อเวลาเฉือนชนะไป 1-0 และ รอบรองชนะเลิศ ปี 2013 ที่เอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 เช่นเดียวกัน

- ผลการแข่งขันนัดล่าสุดที่พบกันเกิดขึ้นในศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ในช่วงเลกสอง โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2

- การพบกันของบุรีรัมย์ กับ เมืองทองฯ ก่อนหน้านี้ ทีมกิเลนผยอง ไม่เคยยิงประตูขึ้นนำก่อนเลยแม้แต่ครี้งเดียว กระทั่งฤดูกาล 2015 ที่เมืองทอง เป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำบุรีรัมย์ได้ก่อน ในเกมลีกที่เสมอกันทั้งสองนัด

- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นเพียง 2 ทีมที่เคยคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่าย โดยปราสาทสายฟ้าทำได้ 2 สมัย (2013/2015) ส่วนกิเลนผยอง 1 สมัย (2012)

- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว 3 สมัย (2011/2012/2013) ส่วน เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำได้ดีที่สุดคือการคว้ารองแชมป์ 2 ครั้ง (2010/2011)

- มาริโอ ยูรอฟสกี้ เป็นนักเตะของ เมืองทองฯ ที่ยิงประตูใส่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มากที่สุด 5 ประตู

- ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ , แฟรงค์ อาเชียมปง, ฆาเบียร์ ปาตินโญ และ รัมเซส บุสโตส เป็นนักเตะของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยิงประตูใส่ เมืองทองฯ ได้มากสุดเท่ากันที่คนละ 2 ประตู

- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีผู้เล่นชาวไทยเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำประตูใส่เมืองทองได้สำเร็จซึ่งก็คือ สุริยา ดอมไธสง เช่นเดียวกับ จักรพันธ์ พรใส ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ก็เป็นนักเตะชาวไทยเพียงรายเดียวของ กิเลนผยอง ที่เคยทำประตูใส่ ปราสาทสายฟ้า

- จักรพันธ์ แก้วพรม และ นฤพล อารมณ์สวะ เป็นสองผู้เล่นปัจจุบัน ที่เคยค้าแข้งให้ทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด

- ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลเมืองทองฯที่ 114 ประตูไม่เคยยิง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ตลอดการพบกันที่ผ่านมา

- อรรถพล ปุษปาคม และ สก๊อต คูเปอร์ เป็น 2 กุนซือที่เคยผ่านการคุมทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด

- หากคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ มาครองได้สำเร็จ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะกลายเป็นทีมแรกของเอเชียที่คว้า 5 แชมป์ภายใน 1 ปี และทีมที่ 6 ของโลกต่อจจาก กลาสโกว์ เซลติก ของสกอตแลนด์ (1966-67) , วัลเลตต้า ทีมจากมอลต้า (1996-97) , ฟูแล่ม เลดี้ส์ สโมสรฟุตบอลหญิงจากแดนผู้ดี (2002-03) , อัล อาห์ลี จากอียิปต์ (2006-07) และ ออร์แลนโด้ ไพเรตส์ จากทีมแอฟริกาใต้ ที่เพิ่งทำได้ในปี 2011


ขอบคุณข่าวจาก GOAL.COM


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์