นำแล้วกาก!ผีได้ 2-0 เจอสิงห์ไล่เจ๊า 2-2 รอเตะใหม่

นำแล้วกาก!ผีได้ 2-0 เจอสิงห์ไล่เจ๊า 2-2 รอเตะใหม่ 

นำไวไม่ช่วยอะไรเลยสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ได้ 2 ลูกตั้งแต่ 11 นาทีแรก แต่กลายเป็นเกมเฉื่อยอืดอาดโดยเฉพาะในครึ่งหลัง เลยโดนเชลซีไล่ตีเสมอจนหน้าจ๋อย 2-2 ชนิดเกือบแพ้ ต้องไปรีเพลย์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์อีกเกม 

เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ 

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2556
 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 2 เชลซี 

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

ประตู :
1-0 เอร์นานเดซ น.5, 2-0 รูนี่ย์ น.11, 2-1 อาซาร์ น.59, 2-2 รามิเรส น.68 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพกความชอกช้ำกลับมาเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของเชลซีในเอฟเอ คัพรอบก่อนรองชนะเลิศ หลังจากพ่ายคาบ้านตกรอบแชมป์เปี้ยนส์ ลีกให้กับเรอัล มาดริดมาเมื่อกลางสัปดาห์แล้ว 

วันนี้เฟอร์กูสันปรับทัพด้วยการส่งทั้งรูนี่ย์และเอร์นานเดซลงยืนหอกคู่ โดยให้ฟาน เพอร์ซี่เป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น 

ขณะที่นานี่ที่โดนใบแดงไล่ออกจากเกมกับ "ราชันชุดขาว" ก็มีชื่อกับเขาเช่นเดียวกัน ต้องดูว่าคราวนี้เขาจะแก้ตัวช่วยทีมได้มากน้อยแค่ไหน 

ด้านเบนิเตซเลือกที่จะให้บายืนเป็นศูนย์หน้า ตอร์เรสต้องเป็นเพียงแค่สำรองเท่านั้น ในขณะที่แดนกลางยังมีแลมพาร์ดคอยคุ้มอยู่เหมือนเคย 

และนี่ก็เป็นอีกเกมที่เทอร์รี่ต้องนั่งเป็นตัวสำรองที่ข้างสนามเท่านั้น จริงๆอันนี้เอล ราฟาก็เคยเปรยเอาไว้แล้ว 

สถิติที่น่าสนใจก่อนเกมก็คือว่าเชลซียังไม่เคยบุกมาเอาชนะแมนฯยูไนเต็ดในเอฟเอ คัพที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดนี้ได้เลย เพราะแพ้ไป 4 เกมและเสมออีก 1 แถมยังยิงได้แค่ประตูเดียวด้วย 

ครึ่งแรก 

โคตรไว!ถั่วน้อยโขกย้อยหายวั้บเลย 
เริ่มเล่นกันมาได้แค่ 5 นาทีเท่านั้น แมนฯยูไนเต็ดก็ได้ประตูขึ้นนำไวโคตรเลย จากจังหวะที่คาร์ริคจัดการชั่งตวงน้ำหนักที่เท้าก่อนจะวางบอลยาวขึ้นหน้าไปให้กับเอร์นานเดซสอดขึ้นเขตโทษไม่ต้องรอบอลตก แต่โหม่งย้อนสวนเช็กที่พยายามจะออกมาบล็อก ย้อนไปเสียบเสาสองอย่างนิ่ม "ปีศาจแดง" นำไวจริง 1-0 และนี่ก็เป็นประตูที่ 4 ในรายการนี้ของเขาแล้วด้วย 

ใครบอกกูจะย้าย!หมูปั่นฟรีคิกเสียบเสาสอง 
นาทีที่ 10 อะไรมันจะเร็วขนาดนี้กับการนำห่างของแมนฯยูไนเต็ด กับจังหวะฟรีคิกที่รูนี่ย์รับหน้าที่ไปเปิดจากด้านข้างสนาม แต่เขาเลือกที่จะปั่นกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาสอง มีตัวขึ้นโหม่งกันจริงแต่วืดหมด เลยกลายเป็นเช็กโดนหลอก จะพุ่งไปอีกทีก็ไม่ทันแล้ว แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 2-0 น่าจะสยบคำลือของคนที่บอกว่าเขาจะถูกขายออกไปได้อย่างแน่นอน 

ผีเน้นเกมแน่นแล้ว 
ได้ประตูนำไวแบบนี้ก็เข้าตำรายืนคุมโซนกันแน่นเปรี๊ยะเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เพราะตอนนี้ได้เปรียบทั้งสกอร์และการเล่นในบ้าน ขยับยืนกันในแดนตัวเองแล้วหาจังหวะสวนเหมาะๆเอาก็พอ ส่วนเชลซีเหมือนจะช็อกอยู่พอสมควร เกมเลยไม่ลื่่นเท่าไหร่ 

เกือบแล๊ว!เช็กเซฟได้ฉิวเฉียด 
นาทีที่ 25 เซฟเห็นๆสองจังหวะซ้อนเลยสำหรับเช็กในจังหวะที่คากาวะแทงบอลต่อให้กับเอฟร่าที่ได้ทะลุไปครอสบอลต่ำเข้ากลาง รูนี่ย์ชาร์จแปเอาเน้น บอลติดขาของเช็กเด้งมาแล้วลูอีซพยายามสกัดแต่กลายเป็นจะโหม่งเข้าประตูตัวเอง ยังดีที่เช็กดีดตัวขึ้นมาปัดทิ้งออกหลังได้ทัน 

บาบดไปหน่อยนะ 
ครึ่งชั่วโมงของเกม เชลซีมีโอกาสเล่นจังหวะสวนกลับ หลังแมนฯยูไนเต็ดถอยไปรองแค่ 3 คนเท่ากันกับเชลซี แต่บาที่ได้บอลกลับเลือกที่จะลากจี้เข้าตรงแล้วฝืนยิงเองทั้งที่จังหวะไม่ให้ บอลเลยเบาเข้ามือเด เกอาไป 

สิงห์ได้บุกยาวๆ 
ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นทีของเชลซีบ้างแล้ว ด้วยการที่พวกเขาได้บุกขึงใส่แมนฯยูไนเต็ดแบบไม่ให้หายใจหายคอ แม้ว่าจะยังไม่จะแจ้งเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ต้องพยายามนวดเรื่อยๆเผื่อจะยุบบ้าง 

แลกจนผีต้องดึงบ้าง 
ช่วงท้ายนี่แลกกันมันส์หยดเลยสำหรับสองทีม แมนฯยูไนเต็ดได้พาบอลขึ้นไปจนถึงกรอบเขตโทษ มีป้วนเปี้ยนนิดหน่อย แต่เชลซีก็สกัดและสวนกลับได้ แต่บาเลือกยิงเองติดบล็อก ทำให้ต้องมีการดึงเกมกันบ้าง เดี๋ยวรวนแล้วจะเสียกันหมด 

ก่อนจบครึ่งแรกรู้สึกว่าต้องไปทำบุญหน่อยแล้วสำหรับนานี่ ที่วันนี้ก็ถือว่าเล่นได้ดีในจังหวะสวนกลับแต่สุดท้ายมามีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนออกแล้วให้วาเลนเซียลงไปเล่นแทน ก่อนที่จะจบ 45 นาที แมนฯยูไนเต็ดตุนประตูไว้เร็วนำอยู่ 2-0 ต้องดูว่าเบนิเตซจะมีหมากอะไรมาแก้เกมเฟอร์กี้ในครึ่งหลังบ้าง 

ครึ่งหลัง 

สิงห์ต้องเปลี่ยนสองเลย 
เล่นครึ่งหลังได้นิดหน่อย เชลซีเหมือนจะเปลี่ยนใจจัดการเปลี่ยนตัวด้วยการส่งทั้งอาซาร์และมิเกลลงเล่นแทนแลมพาร์ดกับโมเสส งานนี้น่าจะมีลุ้นมากกว่าเดิมแน่ 

สวยโคตร!อาซาร์ร่ายมันต์ซัดเสียบเสา 
นาทีที่ 59 สวยสดงดงามมากจริงๆสำหรับลูกยิงตีไข่แตกจังหวะนี้ของอาซาร์ จากจังหวะที่เขารับบอลมาบริเวณเหลี่ยมกรอบเขตโทษ เลี้ยงแตะเข้าหาราฟาเอลก่อนบิดตัวยิงทันที บอลปั่นพุ่งโค้งไปเสียบเสาสองเด เกอาได้แต่คุกเข่ามองเท่านั้น เชลซีไล่มาเป็น 2-1 แล้ว โมเมนตัมก็กลับมาหาพวกเขาแล้วด้วยในตอนนี้ เพราะแมนฯยูไนเต็ดลงไปรับหนักจนไม่รู้จะบุกขึ้นมายังไง 

ขู่บ้าง!ผีจัด RVP ลงสนาม 
อีก 4 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดถ้าเฉยอยู่มีแต่รอโดนอีกเม็ดแน่นอน เลยต้องเปลี่ยนเอาฟาน เพอร์ซี่ลงไปเล่นแทนเอร์นานเดซ ข้างหน้าน่าจะมีตัวเก็บบอลที่แน่นอนมากขึ้นกว่าเดิม 

โดนโดนแล้วล่ะ!รามิเรสยิงตีเจ๊าจ้า 
นาทีที่ 68 ไม่ต้องโทษใครนอกจากตัวเองสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่มาโดนตีเสมอ เพราะเล่นแบบน่าโดนโคตรๆมาตลอดครึ่งหลัง โดนเชลซีทำเกมสวนกลับ ออสการ์จ่ายต่อให้กับรามิเรสหลุดเข้าไปล็อกบอลหลอกอีแวนส์ก่อนแล้วยิงปั่นด้วยซ้ายทันที แม้ว่าเด เกอาจะบินไปปัดได้ปลายมือแต่ก็ไม่เพียงพอ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไป เกมเสมอกัน 2-2 แล้ว งานนี้ยาวไปๆ 

ผีพยายามฮึดเอาบ้าง 
โดนตีเสมอแบบนี้หากไม่บุกบ้างรับรองว่าโดนพลิกแน่นอน ทำให้แมนฯยูไนเต็ดต้องพยายามปั้นเกมบุกรุกไล่ทางเชลซีบ้าง แต่ตอนนี้สลับกันเพราะเชลซีไม่ต้องรีบร้อนแล้ว เน้นยืนคุมโซนดักจังหวะของเจ้าบ้านแทน สลับกันกับครึ่งแรกเลย 

ตัวความหวัง!โก๋แดนแทนชินจิ 
นาทีที่ 76 ยังไงก็ต้องเอาลงไปลุ้นเท่านั้นแล้วสำหรับเวลเบ็คที่ถูกส่งเล่นแทนที่ของคากาวะ ต้องดูว่าเขาจะเป็นที่พึ่งกับทีมได้มากน้อยแค่ไหน ขณะที่ตอร์เรสลงเล่นแทนบาซึ่งเงียบๆไป 

เกมบีบหัวใจกันอย่างแรว๊งเลย 
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแล้วกับเกมนี้ เพราะทั้งสองฝ่ายเปิดหน้าแลกเข้าหากัน ดูท่าไม่อยากจะให้มีผลเสมอเกิดขึ้น ก็ต้องดูว่าใครกันที่จะเป็นฝ่ายได้ประตูชัย 

ลามะโคตรเซฟ!มาต้ายิงจ่อๆติด 
นาทีสุดท้าย มันน่าจะเป็นประตูสุดสวยพลิกเอาชนะของเชลซีได้แล้วแท้ๆ เมื่อมาต้าเกี่ยวบอลลงในเขตโทษได้ ก่อนจะล็อกหลอกกองหลังแมนฯยูไนเต็ดจนหลังหักได้ปั่นก่ะให้เสียบเสาสองเน้นๆ แต่เด เกอายื่นขาสกัดเอาไว้ได้เฉียดฉิวสุดๆ ไม่งั้นโดนแน่ 

ช่วงท้ายเกมเชลซีบุกกดดันหนักชนิดที่แมนฯยูไนเต็ดเสียวดากอยู่ตลอดเวลาแต่สุดท้ายก็ยื้อไปได้ 2-2 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 : ดาบิด เด เกอา, ราฟาเอล, ปาทริซ เอฟร่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, นานี่(วาเลนเซีย น.45), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ชินจิ คากาวะ(เวลเบ็ค น.76), เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ(ฟาน เพอร์ซี่ น.62) 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เบน เอมอส, เนมันย่า วีดิช, อันแดร์สัน, แอชลี่ย์ ยัง 

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, แอชลี่ย์ โคล, ดาบิด ลูอีซ, แกรี่ เคฮิลล์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, รามิเรส, แฟรงค์ แลมพาร์ด(โอบี มิเกล น.52), ฆวน มาต้า, ออสการ์, วิคเตอร์ โมเสส(อาซาร์ น.52), เด็มบ้า บา(ตอร์เรส น.77) 

สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : รอส เทิร์นบูลล์, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, ไรอัน เบอร์ทรานด์ 





 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์